จากกรณี เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา ด.ช.พิชิต วงษ์วิจิตร หรือ น้องเติ้ล อายุ 12 ปี นักเรียนโรงเรียนบ้านเป้าสำราญชัยวิทยา อ.เกษตรสมบูรณ์ ได้ซื้อ
ประทัดยักษ์ลูกกลมคล้ายลูกบอลไปจุดเล่นกับเพื่อน แล้วเกิดระเบิดจนส่งผลให้น้องเติ้ลนอนแน่นิ่ง เลือดไหลท่วมตัว มีบาดแผลลึกบริเวณเบ้าตาขวา บริเวณปากมีแผลฉีกขาดเป็นรอยยาวขึ้นถึงจมูก แขนด้านซ้ายมีแผลลึก นิ้วมือด้านซ้ายมีแผลฉีกขาด อาการสาหัสปางตาย เพราะถูกแรงระเบิดของประทัดยักษ์
ความคืบหน้าอาการของน้องเติ้ล ล่าสุด นายแพทย์เดชวิทย์ ใจประเสริฐ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลภูเขียว จ.ชัยภูมิ ออกมาชี้แจงผลการรักษาว่า กรณีที่เกิดกับน้องเติ้ล ตอนนี้ทางโรงพยาบาลได้รับตัวเข้าไปทำการรักษา และสามารถช่วยชีวิตน้องเติ้ลเอาไว้ได้ แต่น้องเติ้ลต้องเสียดวงตาข้างขวาไป 1 ข้าง เนื่องจากบาดแผลลึกและฉีกขาดอย่างละเอียด ทำให้แพทย์จำเป็นต้องควักลูกตาออกทิ้งทั้งหมด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และที่บริเวณนิ้วมือด้านซ้ายกระดูกบางชิ้นแตก ซึ่งขณะนี้ได้ทำการต่อนิ้วและเย็บแผลจนครบทุกนิ้ว แต่แพทย์ยังคงต้องรอดูอาการของน้องเติ้ลไปก่อน ส่วนการรักษาในขั้นตอนต่อไปก็คือการใส่ลูกตาเทียม ในกรณีนี้แพทย์จะต้องรอให้บาดแผลที่เกิดขึ้นหายดีก่อน
นอกจากนี้ ในกรณีของน้องเติ้ลนั้น คนไข้สามารถใช้สิทธิบัตรทองรักษาฟรีได้ และนายแพทย์เดชวิทย์ ยังฝากเตือนผู้ปกครอง ตลอดจนผู้ที่มีความจำเป็นต้องไปเกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิดในช่วงที่ใกล้จะออกพรรษา หากพบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ห้ามทำการรักษาด้วยตนเอง ต้องรีบนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลทันที และนำชิ้นส่วนที่ขาดใส่ถุงพลาสติกแช่ในน้ำแข็งมาด้วย โดยไม่ต้องล้างชิ้นส่วนใดๆทั้งสิ้น เพราะชิ้นส่วนที่นำมา ทางแพทย์จะนำมาวิเคราะห์เพื่อทำการรักษาต่อไป