หนุ่ม รปภ. คลุ้มคลั่งจะแย่งกุญแจรถวินมอเตอร์ไซค์ ก่อนวิ่งหนีทะลุกระจกร้านคาร์แคร์ เข้าไปนั่งในรถซูเปอร์คาแล้วสิ้นใจตาย
เมื่อเวลา 18.20 น. วันที่ 30 มิ.ย.2566 พ.ต.ท.บุญช่วย ร่วมสมัคร สวต.(สอบสวน) สน.บางมด รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในร้านคาร์แคร์ย่าน ถ.พุทธบูชา แขวงจอมทอง เขตบางมด กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่ในร้านคาร์แคร์บริเวณห้องโถงไว้จอดรถซูเปอร์คาร์ รอล้างรถ-ขัดเคลือบสีและรอส่งมอบให้ลูกค้า พบศพนายอภิวัฒน์ เหาะหาด อายุ 39 ปี ชาวจ.สตูล สภาพนอนหงายใส่ชุดยูนิฟอร์มพนักงานรักษาความปลอดภัย เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงขายาวสีน้ำตาล รองเท้าหนังคัตชู มีบาดแผลถูกเศษกระจกบาดตามแขนกับมือทั้งสองข้าง ห่างกันเล็กน้อยบริเวณหน้าร้านมีเศษกระจกแตกเสียหาย 2 บาน
จากการสอบถามนายศักดิ์ชัย แตงกลับ อายุ 60 ปี บอกว่า ตอนแรกอยู่อีกฝั่งนึง เขาเดินมาจะเอารถของวินมอเตอร์ไซค์ เห็นยื้อแย่งกุญแจกันอยู่ แต่วินมอเตอร์ไซค์ก็เอากุญแจคืนไปได้ แต่ก็โดนกัดที่หัวไหล่ตอนฟัดเหวี่ยงกัน คนตายวิ่งข้ามถนนมา ตนเห็นก็เข้าไปช่วยห้าม ตนก็โดนต่อยมาอีก แล้วเขาก็วิ่งพุ่งเข้ากระจกร้านโชว์รูมรถเข้าไปเลย แล้วก็นอนหงายอยู่ตรงหน้ารถ พอลุกขึ้นมาได้ก็หยิบเศษกระจกที่แตกเขวี้ยงปาคนในร้าน แล้วก็เปิดประตูรถขึ้นไปจะขับออกแต่ไม่มีกุญแจ คนในร้านเลยช่วยกันจับมัดมือมัดขาไว้ สักพักก็หมดแรงตัวซีด ไม่มีสติ พบบาดแผลตรงมือ แขน และหน้าผาก
นายรังสิมันตุ์ เอี่ยมวงษา อายุ 18 ปี เจ้าหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รหัส ดพ.ธน 133 บอกเล่าว่า ตอนที่ตนมาถึงก็เห็นมีประชาชนจับมัดมือมัดเท้าเอาไว้แล้ว ตนจึงแกะเชือกออกเพื่อตรวจสอบบาดแผล แต่ก็เห็นสภาพที่ตาลอยไม่มีสติถามตอบไม่รู้เรื่องแล้ว บาดแผลภายนอกที่เห็นมีบริเวณมือข้างซ้าย ส่วนบาดแผลฉกรรจ์ตนยังไม่เห็น พอตนเห็นว่า ไม่มีสติ จึงประสานกู้ชีพเอราวัณมาสนับสนุน ระหว่างนั้นก็ทำการปั๊มหัวใจไปด้วย พอกู้ชีพเอราวัณมาถึงก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว ก็ต้องรอหมอมาตรวจสอบว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร
พ.ต.ท.บุญช่วย กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบถามชาวบ้านและผู้ที่เห็นเหตุการณ์ต่างไม่มีใครรู้จักหรือเคยเห็นผู้ก่อเหตุมาก่อน ส่วนสาเหตุนั้นจากการสอบถามนายจ้างเก่า ที่เคยให้ทำงานย่านศาลายา จ.นครปฐม ทราบว่าผู้ตายมีอาการทางจิต เคยพาไปรักษาแล้ว 2 ครั้ง และมักเกิดเหตุการณ์หายไปจากที่พักเองหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกกว่า 2 ปี จนเจ้าหน้าที่ติดต่อมาดังกล่าว ส่วนญาตินั้นสามารถติดต่อลุงของผู้ตาย เผยว่าหลังจากเลิกรากับภรรยาที่ จ.สตูล ก็มาทำงานอยู่กรุงเทพฯ เพียงคนเดียว และไม่ค่อยได้กลับบ้านกว่า 3 ปีแล้ว
เบื้องต้นแพทย์นิติเวชมอบหมายให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และรอทางญาตินำเอกสารมาติดต่อขอรับร่างกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป