อุกอาจ! คนร้ายบุกบ้านฆ่ายายวัย 74 ปี ชิงโทรศัพท์ ลูกสาวใบ้กอดร่างแม่ร่ำไห้

1 มิ.ย. 66

อุกอาจ! คนร้ายบุกบ้านฆ่ายายวัย 74 ปี ชิงโทรศัพท์ไอโฟน ลูกสาวใบ้เอะอะลั่นบ้านกอดศพแม่ร่ำไห้

วันที่ 1 มิ.ย. 2566 เวลา 06.00 น. พ.ต.ต.กำพลพัฒน์ ไพรสณฑ์สว. (สอบสวน) สภ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆ่าชิงทรัพย์ ที่บ้านเลขที่ 97 ริมถนนสายบ้านทุ่งยวน-หนองดีหมู่ 3 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วยพ.ต.ท.สุจินต์ รัตนพันธ์ รองผกก.ป.พ.ต.ท.สมศักดิ์ โสภากาญจน์ รองผกก. (สอบสวน) กำลังตำรวจชุดสืบสวนตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราช แพทย์เวร รพ.นาบอน จนท.อาสาสมัครสมาคมมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ อ.นาบอน ร่วมกันเดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกันทำการสืบสวน สอบสวน และชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวริมถนน และเปิดเป็นร้านขายของชำเล็กๆ น้อยๆ ภายในห้องครัวหลังบ้าน พบศพผู้ตายชื่อนางวันดี สงวนนามสกุล อายุ 74 ปี เจ้าของบ้านนอนหงายบริเวณพื้นในครัว ชุดสวมเสื้อคอกระเช้าแขนยาวสีม่วง นุ่งผ้าถุงลายดอกสีน้ำตาล สภาพศพมีบาดแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย โดยเฉพาะที่บริเวณใบหน้าเบ้าตาทั้งสองข้าง มีรอยฟกช้ำและที่ลำคอ มีรอยรัดด้วยเสื้อชั้นในของผู้ตาย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 ชม. โดยมี นส.สุจาณี สงวนนามสกุล อายุ 43 ปี ลูกสาวซึ่งเป็นใบ้ร่ำไห้ส่งเสียงภาษาใบ้ด้วยความเสียใจตลอดเวลา

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ภายในห้องครัวหลังบ้าน จนท. พบร่องรอยการต่อสู้ข้าวของกระจัดกระจาย และพบว่าที่ประตูห้องครัวหลังบ้านมีร่องรอยถูกคนร้ายงัดกลอน จนประตูพังเสียหายเปิดอ้าอยู่ ซึ่งจนท.ได้ตรวจสอบหาร่องรอยนิ้วมือของคนร้ายต่อไป

และจากการสอบสวนสื่อสารภาษาใบ้สอบถามลูกสาวผู้ตายทราบว่า มีทรัพย์สินของผู้ตายหายไปเป็นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 7 จำนวน 1 เครื่อง และโทรศัพท์ชนิดธรรมดาไม่ทราบยี่ห้อจำนวน 1 เครื่อง ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบจากญาติต่อไป

โดยนางวันดี ผู้ตายมีอาชีพทำสวนและเปิดร้านขายของชำเล็กๆ น้อยๆ ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยพักอาศัยอยู่กับลูกสาวที่เป็นใบ้เพียงลำพัง 2 คนเท่านั้น ก่อนเกิดเหตุขณะที่นางวันดีและลูกสาวใบ้กำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอน นางวันดีได้ยินเสียงคนงัดประตูครัวหลังบ้าน จึงลุกขึ้นออกมาดูเป็นจังหวะที่คนร้ายจำนวน 2 คน เข้ามาในบ้านพอดี นางวันดีจึงร้องเอะอะโวยวายขึ้น ทำให้คนร้ายทั้งสองคนตกใจพยายามจะจับนางวันดีไม่ให้ขัดขืนต่อสู้ แต่นางวันดีกลับดิ้นต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับคนร้ายชุลมุน ข้าวของกระจัดกระจาย ก่อนที่จะถูกคนร้ายทั้งสองรุมชกนางวันดีทั้งลำตัวและใบหน้า เบ้าตา จนฟกช้ำ ทำให้นางวันดีล้มลงแต่คนร้ายยังไม่ยอดหยุด ได้ดึงเสื้อชั้นในของผู้ตายออกมารัดคอผู้ตายอย่างแรง ทำให้นางวันดีขาดอากาศหายใจเสียชีวิตคาที่ทันที

ซึ่งขณะเกิดเหตุนางสาวสุจาณีลูกสาวใบ้ของผู้ตายที่ กำลังนอนหลับในห้องนอนได้ยินเสียงต่อสู้กัน จึงรีบเปิดประตูออกมาดูพบคนร้าย 2 คน กำลังรุมทำร้ายชกต่อยแม่ของตนจนฟุบ จึงร้องเอะอะโวยวายภาษาใบ้ดังลั่นบ้าน ทำให้คนร้ายตกใจรีบคว้าโทรศัพท์ไอโฟนและโทรศัพท์ธรรมดาจำนวน 2 เครื่อง ของผู้ตายหลบหนีไปอย่างรวดเร็วทันที ซึ่งยังไม่ทราบยานพาหนะของคนร้ายว่าเป็นยานพาหนะชนิดใดและเส้นทางหลบหนี

หลังจากคนร้ายหนีไปแล้ว นางสาวสุจาณีลูกสาวใบ้ของผู้ตายได้ส่งเสียงร้องเอะอะเป็นภาษาใบ้ตลอดเวลาจนลั่นบ้าน ทำให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงได้ยินเสียงลูกสาวใบ้ร้องลั่น จึงพากันออกมาดู จนทราบว่านางวันดีผู้เป็นแม่ถูกคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ดังกล่าว

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุแล้วทางตำรวจได้ตรวจสอบ GPS ของโทรศัพท์ของผู้ตายที่คนร้ายชิงไป พบว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ต่างอำเภอแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนักและจนท.คาดว่าคนร้ายทั้งสองน่าจะเป็นแก๊งเสพยาเสพติดในพื้นที่ ที่รู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดี อยู่ระหว่างการตรวจสอบและติดตามคนร้ายทั้งสองคนร้ายรายนี้ต่อไป ส่วนศพนางวันดีได้นำไปชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่ รพ.นาบอน ก่อนมอบศพให้กับญาตินำศพไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

ด้าน น.ส.พรทิพย์ สงวนนามสกุล อายุ 54 ปี  ญาติผู้ตายที่อยู่บ้านใกล้เคียงกันกล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตอนเช้ามืด ได้ยินเสียงลูกสาวใบ้ของผู้ตายร้องเอะอะโวยภาษาใบ้ ลั่นออกมาจากในบ้านที่เกิดเหตุ ด้วยความสงสัยว่าเกิดเหตุอะไร จึงชักชวนเพื่อนบ้านพากันไปดู ก็พบว่านางวันดีถูกคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์เสียชีวิตดังกล่าวแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุดังกล่าว.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส