โจร 9 นิ้วตาเดียวใช้เคียวชิงจยย.ลูกอดีตนายจ้าง ซ้ำฉกกระเป๋าเงินแม่เพื่อน

24 พ.ค. 66

รวบโจรตาเดียว 9 นิ้ว ใช้เคียวตัดหญ้าขู่ชิงรถจักรยานยนต์ลูกอดีตนายจ้าง หนีไปก่อเหตุซ้ำฉกกระเป๋าเงินแม่เพื่อนรัก สุดท้ายตามจับได้คาห้องเช่า

วันที่ 24 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสภ.เมืองพัทลุง นำกำลังเข้าตรวจสอบที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ใจกลางเมืองพัทลุง หลังได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียหายตามจับตัวโจรจี้ชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ไว้ได้

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบนายอรรถดา อายุ 37 ปี เป็นชาวจังหวัดชลบุรี ถูกผู้เสียหายและชาวบ้านช่วยกันจับตัวก่อนถูกจับมัดมือไขว้หลังและมัดเท้านั่งอยู่ตรงพื้นหญ้าหน้าห้องเช่าในสภาพมึนเมามีกลิ่นสุราคลุ้ง พูดจาไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปสอบปากคำที่สภ.เมืองพัทลุง

จากการสอบถามนายบ่าว อายุ 22 ปี ผู้เสียหายเล่าว่าก่อนหน้านี้นายอรรถดา มาสมัครเป็นลูกจ้างในร้านของแม่ตน แต่นายอรรถดาได้ขโมยเงินของแม่ 1,000 บาท ถูกพักงานนาน 2 เดือนซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในช่วงพักงาน ก่อนเกิดเหตุตนไปทำธุระที่ร้านขนมจีนในพื้นที่ม.1 ต.เขาเจียก อ.เมือง จ.พัทลุง ขณะที่ตนจอดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า MSX สีชมพู ไม่ได้ถอดกุญแจออก

หลังจากนั้นนายอรรถดาฯ เดินถือเคียวตัดหญ้าเข้ามาและขึ้นคร่อมรถจักรยานยนต์ของตน ใช้เคียวชี้มาที่ตนพร้อมบอกว่า "มึงอย่าเข้ามานะ" พร้อมขับรถหนีไป ตนจึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทลุง และตนก็ออกตามหาจนไปเจอนายอรรถดา กลับเข้าห้องเช่าโดยไม่มีรถจักรยานยนต์มาด้วย จึงให้เพื่อนบ้านช่วยจับไว้ได้

ขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ที่สภ.เมืองมี นางสมฤดี อายุ 70 ปี เดินทางมาแจ้งความเพิ่มว่านายอรรถดา ผู้ต้องหาได้เข้าไปที่บ้านในท้องที่ ม.1 ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 23 พ.ค.66 ขณะที่เข้าไปตนกำลังนั่งทำปลาหมึกอยู่หน้าบ้านนายอรรถดา ได้มาถามหาลูกชายของตน แต่ลูกชายตนไม่อยู่บ้าน แต่ตนไม่ได้สนใจเพราะเห็นเป็นเพื่อนลูกชาย สักพักนายอรรถดาก็ขอตัวกลับจน กระทั่งญาติโทรมาแจ้งว่าพบกระเป๋าสตางค์ของตนถูกทิ้งริมถนนห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร เพราะมีบัตรประชาชน

ตรวจสอบดูพบว่าเงินสดจำนวน 1,000 บาท พร้อมด้วยธนบัตรเก่าๆ ที่เก็บสะสมไว้หายไปหมด จึงแน่ใจว่าเป็นฝีมือของนายอรรถดา เพราะมีคนเดียวที่เข้าบ้านมาในช่วงที่ตนกลับจากตลาด และวางกระเป๋าสตางค์ไว้ในบ้านก่อนไปทำปลาหมึก

อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนนายอรรถดา ยังไม่ให้การอะไรทั้งสิ้น ประกอบกับอาการมึนเมาจึงไม่มีประโยชน์ในการสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะไปไล่ดูกล้องวงจรปิดเพื่อหาเส้นทางที่นายอรรถดา นำรถจักรยานยนต์ไปเก็บไว้เพื่อดำเนินการตามกฎมายต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส