ไอเดียน่ารัก ครูตั้ง "จุดเขียนคำร้อง" ให้นักเรียนฟ้องได้ต้องเขียนเป็น

23 พ.ค. 66

ฉีกกฎการฟ้องครู เปิด "จุดเขียนคำร้อง" ให้นักเรียนฟ้องได้แต่ต้องเขียนเป็น ให้ได้ฝึกทั้งอ่านเขียน พร้อมกัน แล้วครูจะมาพิจารณาคดีให้เอง

วันที่ 22 พ.ค.66 กลับมาเป็นไวรัลอีกครั้งสำหรับไอเดีย "จุดเขียนคำร้อง" สุดน่ารักจากคุณครู ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนที่อยากฟ้อง เขียนคำที่จะฟ้องด้วยตัวเอง

โดยไอเดียนี้มาจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า ข้าวแช่ เมืองเพชร ซึ่งเป็นคุณครูอยู่ที่โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านชะอำ ได้โพสต์รูปภาพ สมุดเขียนคำร้องของเด็กๆ 1 เล่ม เพื่อให้เด็กๆ นักเรียนเดินมาเขียนคำร้องเวลาถูกเพื่อนแกล้ง หรือเวลาที่มีเรื่องที่คุยกันแล้วไม่เข้าใจแล้วจะมาฟ้องครู จนบางครั้งครูต้องรับเรื่องฟ้องจนปวดหู ปวดหัวไม่ไหว

โดยครูรายนี้ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "ฉีกกฎการฟ้องครู ช่วยให้ครูเบาหูขึ้น นวัตกรรม ฟ้องได้ต้องเขียนเป็น ครูสอนให้อ่าน ให้เขียนแสนจะยาก แต่พออัดอั้นอยากฟ้อง ก็ไปตามเพื่อนมาช่วยสะกด #ป.2/1 เผยแพร่ได้ไม่หวงค่าเผื่อคุณครูเจอปัญหาเดียวกัน" ภายหลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ก็ได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์ไม่น้อยถึงไอเดียสุดน่ารักที่ทำให้นักเรียนได้ฝึกทั้งการอ่าน และการเขียนไปพร้อมๆ กัน

สำหรับไอเดียจุดเขียนคำร้อง นส.พันทิภา (ครูน้ำ) สุขช่วง ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่2 ห้อง2/1 ของโรงเรียนเทศบาล1 บ้านชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี สอบถามถึงกรณีดังกล่าว พบว่าครูน้ำได้เปิดจุดเขียนคำร้อง โดยมีสมุดร้องทุกข์ ฟ้องได้ทุกเรื่อง แต่ต้องเขียนคำร้อง จำนวน 1 เล่ม วางไว้ที่ห้องเรียน เพื่อให้เด็กได้เขียนคำร้องเอง และให้เด็กๆฝึกเขียนอ่านภาษาไทยได้ไปในตัวด้วย

นส.พันทิภา (ครูน้ำ) สุขช่วง ครูประจำชั้น เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว ตนได้นำสมุดเขียนคำร้อง มาวางให้เด็กๆได้เขียนคำร้องส่งมาให้ครู เนื่องจาก เด็กๆได้หยุดเรียนไปนานพอเปิดเทอม ด้วยความอัดอั้น มีอะไรก็ฟ้องครู ด้วยความที่ตนก็ไม่ทันเนื่องจากเด็กเยอะ จึงเปิดสมุดเล่มนี้ขึ้น มาเพื่อให้เด็กๆได้เขียนคำฟ้องไว้ในสมุด แล้วครูจะมาพิจารณาคดีให้ แต่พอเด็กๆเริ่มเขียน เริ่มสะกดเอง ทำให้เห็นว่าเด็กได้ภาษาไทยไปด้วย สะกดคำ เป็น แล้วที่สำคัญคนที่ยังเขียนไม่ได้อ่านไม่ออก แต่อยากจะฟ้องครู ไม่รู้จะทำยังไงก็ ไปเรียกเพื่อนมาช่วยสะกดคำเพื่อเขียนคำฟ้องถุงครู จึงเกิดเป็นไอเดียร์ให้เด็กได้ อ่านออกเขียนได้ อีกวิธีหนึ่ง

ส่วนใหญ่เด็กๆที่จะเขียนคำร้อง เป็นเรื่องแกล้งกัน เดินผ่านแล้วแลบลิ้นใส่ หรือ ทะเลาะกับเพื่อนข้างห้อง ตนจึงแก้ปัญหาด้วยการเรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยปรับความเข้าใจกัน เพื่อนกันเราต้องเล่นกันเบาๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องหยุมหยิมมากกว่า

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส