เมียโร่แจ้งตำรวจเร่งตามตัวผัวขี้ยา บังคับหลับนอนกับชายอื่นขัดดอกค่ายา ขู่ถ้าไม่ทำจะโพสต์คลิปประจาน ต้องหนีไปอยู่กับญาติไม่กล้ากลับบ้าน
คืบหน้าตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เร่งติดตามตัวสามีขี้ยา หลังเมียแจ้งความถูกบังคับมีเพศสัมพันธ์ชายอื่นขัดดอกค่ายา ล่าสุด ตร.รู้พิกัดแล้วอยู่จังหวัดในภาคอีสานแต่ไม่ขอเปิดเผยกลัวไหวตัวหลบหนี ขณะผู้ดูแลรีสอร์ทเผยเห็นเข้ามาใช้บริการที่รีสอร์ทจริง แต่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ความคืบหน้ากรณีที่ นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.66) ให้ดำเนินคดีกับนายเอ็ม (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี สามีของตัวเอง โดยกล่าวหาว่าสามีบังคับให้ไปหลับนอนสนองความใคร่ให้กับชายคนอื่นที่ตนเองไม่เคยรู้จัก ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในตัวอำเภอนางรองจำนวน 2 ครั้ง ทั้งยังแอบถ่ายคลิปขณะที่บังคับให้หลับนอนกับชายคนอื่นไว้ข่มขู่ หากไม่ยอมทำตามจะเอาคลิปไปโพสต์โซเชียลประจานให้อับอาย จึงอยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งกับสามี และผู้ชายที่สามีบังคับให้หลับนอนด้วย
ล่าสุดวันนี้ (16 พ.ค.66) พ.ต.อ.กัมพล วงษ์สงวน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนางรอง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวสามีที่ถูกแจ้งความกล่าวหา มาสอบปากคำตามกระบวนการ ว่าได้กระทำตามที่ถูกภรรยา กล่าวหาหรือไม่ ขณะที่พนักงานสอบสวนก็ได้พา นางเอ ภรรยา ที่มาแจ้งความไปชี้จุดเกิดเหตุที่อ้างว่าถูกสามีบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับชายคนอื่น ซึ่งเป็นรีสอร์ทแห่งหนึ่งในตัวอำเภอนางรอง เพื่อข้อมูลหลักฐานประกอบสำนวนคดี ซึ่งหากพบพยานหลานหลักฐานว่ามีการกระทำผิดจริงก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่านายเอ็ม อยู่ที่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าจังหวัดอะไร เพราะกลัวจะไหวตัวหลบหนีไปก่อน
ส่วนนางเอ และลูกวัย 2 ขวบ และ 7 ขวบ ยังต้องอาศัยอยู่ที่บ้านญาติไม่กล้ากลับบ้านตัวเอง หรือออกไปไหน และยังไม่กล้าให้ลูกสาวคนโตไปโรงเรียน เพราะกลัวสามีจะมาดักทำร้าย หรือเอาตัวลูกสาวไป
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังรีสอร์ท แห่งหนึ่งในตัวอำเภอนางรอง ที่ผู้เสียหายอ้างว่าสามีบังคับให้ไปหลับนอนกับผู้ชายคนอื่น ซึ่งจากการสอบถามผู้ดูแลห้องพัก ก็ให้ข้อมูลว่า เคยเห็นฝ่ายชายมาพักบ่อยแทบจะทุกอาทิตย์ ส่วนผู้หญิงเพิ่งเคยเห็นมา 2 ครั้ง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าถูกบังคับมาหรือมาทำอะไร เพราะในฐานะผู้ดูแล ก็เปิดให้ลูกค้าเข้าพักตามปกติ ก็ไม่ได้ไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของลูกค้า อีกทั้งผู้หญิงที่เข้ามาก็ไม่ได้ขอความช่วยเหลืออะไร จึงไม่ได้เข้าไปยุ่ง ส่วนรีสอร์ทดังกล่าวไม่ได้มีกล้องวงจรปิด
