พรรคพลังประชารัฐ ไขข้อข้องใจ ทำไมนายกฯคนที่ 30 ต้องชื่อ “พล.อ.ประวิตร”

11 พ.ค. 66

 

พรรคพลังประชารัฐ ไขข้อข้องใจ ทำไมนายก คนที่ 30 ต้องชื่อ “พล.อ.ประวิตร” พร้อมปลุกพลังเงียบ เข้าคูหากาเลือกคน-เลือกพรรค

วันที่ 11 พ.ค. 66 นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า 5 คุณสมบัติของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เหมาะสมจะก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ดังนี้

คุณสมบัติที่ 1 การลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนทั้งประเทศตามวิถีประชาธิปไตย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชน มีความสง่างามในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ดังคำพูดของ พล.อ.ประวิตร ที่ระบุว่า “ถ้าผมไม่มีชื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง แล้วผมจะแน่ใจได้อย่างไรว่าประชาชนเลือกผมด้วย ไม่ใช่กาบัตรเลือกคนอื่น แล้วผมเป็นแค่ผลพลอยได้ ผมจึงเลือกที่จะเป็นทั้งหัวหน้าพรรค ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เบอร์ 1 และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ผมมั่นใจว่า คะแนนที่ได้มานั้น ประชาชนเลือกผม”

คุณสมบัติที่ 2 การเป็นมือประสาน 10 ทิศ สามารถทำงานกับฝ่ายการเมืองได้กับ​ทุกพรรค ทุกฝ่าย โดยเฉพาะการเป็นผู้จัดการประสานการจัดตั้งรัฐบาลเมื่อปี 62 ดังปรากฎในผลโพล ที่ประชาชนต่างยกให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีที่จะช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และเป็นนายกรัฐมนตรีที่จะสามารถประสานงานจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างราบรื่น ไม่เกิดการแบ่งสี แบ่งขั้ว

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

คุณสมบัติที่ 3 สามารถทำงานกับข้าราชการ และเข้าถึงคนรุ่นใหม่ โดยเปิดโอกาสให้เยาวชน นิสิต นักศึกษาเข้าพบ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันบ่อยครั้งอย่างเป็นกันเอง

คุณสมบัติที่ 4 การเป็นผู้มากบารมี สามารถเชื้อเชิญบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ให้มาร่วมกันแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน และทำงานขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้าโดยไม่สะดุด หรือไร้รอยต่อระหว่างเปลี่ยนผ่านรัฐบาล โดยเห็นได้จากดรีมทีมเศรษฐกิจของพรรค ซึ่งล้วนเป็นกูรูเศรษฐกิจระดับแนวหน้าของประเทศ

คุณสมบัติที่ 5 พล.อ.ประวิตร จะเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ เกิดความมั่นคงตลอดระยะเวลา 4 ปี โดยไม่ต้องเปลี่ยนตัวผู้นำกลางคัน ทำให้เกิดความต่อเนื่อง และเกิดความเชื่อมั่นทั้งประชาชนคนไทยและนักลงทุนต่างชาติ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

“พล.อ.ประวิตร มีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าท่านจะเดินช้า แต่ระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ขาทั้งสองข้างของท่านได้ลงพื้นที่ไป 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกเรื่อง หวังให้ประชาชนพ้นจากความยากจนและคลายทุกข์ลงได้ ทั้งปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง และปัญหาปากท้อง เช่นเดียวกับครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร จะขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยสมอง สองมือ และประสบการณ์ที่มีของตัวท่านเอง ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข และประชาชนอยู่ดีกินดี ขอเพียงพี่น้องประชาชนเปิดใจเลือก พล.อ.ประวิตร และเลือกพรรคพลังประชารัฐ เข้ามาทำหน้าที่ เพื่อทลายปัญหาความขัดแย้ง และนำพาประเทศไทยก้าวข้ามความยากจนไปได้อย่างยั่งยืน” นายชาญกฤช กล่าว

232754

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม