
วันที่ 30 ส.ค. 62 น.ส.ชณันต์ญาต์ อาจเสียงรัมย์ อายุ 39 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ส.ค. 62 เป็นวันหยุดเรียน ช่วงเที่ยงแม่ซื้อส้มตำปูปลาร้าแถวปากซอยมากินตามปกติ โดยแม่และน้องสาวนั่งกินกัน 2 คน หลังกินเสร็จก็ยังไม่มีอาการผิดปกติ จนเวลาประมาณตี 4 น้องสาวมีอาการท้องเสียรุนแรง ถ่ายหลายครั้งจนเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย ตอนนั้นคิดว่าแค่ท้องเสียปกติ แม่จึงให้กินยาที่มีในบ้านไปก่อน

จนถึงช่วงเที่ยงของวันอาทิตย์ ที่ 25 ส.ค. 62 น้องก็ยังคงมีอาการท้องร่วงรุนแรง ถ่ายท้องอยู่ตลอดเวลา ผู้ใหญ่บ้านจึงประสานขอรถกู้ชีพเทศบาลบ้านบัวนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่กว่ารถจะมาถึง น้องก็ช็อกไม่ได้สติแล้ว เมื่อถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ทำการปั๊มหัวใจช่วยชีวิตอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
แพทย์ลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตว่า เกิดจากการติดเชื้อในทางเดินอาหาร กรณีที่เกิดขึ้นจึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแบบดิบ ๆ หรือปลาร้า ก็ควรนำไปปรุงสุกก่อน

ล่าสุดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านบัว ลงพื้นที่สอบสวนโรค โดยการซักประวัติจากญาติของน้องนักเรียนที่เสียชีวิต จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าน้องเคยเข้ารับการรักษาด้วยอาการระบบลำไส้มาก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนกรณีที่น้องจะเสียชีวิตจากการรับประทานส้มตำปูปลาร้าหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ ต้องรอผลตรวจยืนยันจากแพทย์อีกครั้ง ส่วนร้านส้มตำในหมู่บ้าน หยุดขายได้ 2 วัน เนื่องจากฝนตก

นางปราณี เทียมพล อายุ 57 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน บอกว่า ที่ผ่านมาตนเองก็ซื้อส้มตำจากร้านดังกล่าวมากินเป็นประจำ และในวันที่ 24 ส.ค. ที่แม่น้องไปซื้อส้มตำมากิน ตนเองก็ไปซื้อมากิน และสั่งตำปูปลาร้าเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้มีอาการผิดปกติ แต่ไม่รู้ว่าปลาร้าร้านดังกล่าวเป็นปลาร้าดิบหรือปลาร้าต้มสุก ส่วนตัวก็เชื่อว่าสาเหตุที่น้องเสียชีวิตไม่น่าจะเกิดจากการรับประทานส้มตำปูปลาร้า อาจจะเกิดจากสุขภาพร่างกายของน้องเอง ที่เคยรักษาเกี่ยวกับระบบลำไส้อยู่แล้ว โดยหลังจากนี้จะยังคงรับประทานส้มตำปูปลาร้าตามปกติเหมือนเดิม เพราะปลาร้าถือเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารของคนอีสาน