สาวใต้วัย 16 มุ่งหน้าจากตรังมานครปฐม เพื่อเข้าค่ายเรียนสานฝันเป็นเภสัชกร พลาดท่าตกรถไฟเสียชีวิต
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 18 มี.ค. 2566 พ.ต.ต.ธีรพงศ์ สะอาด สารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้โดยสารตกรถไฟเสียชีวิตที่สถานีบางตาล ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง จึงรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรีกำลังเร่งปั๊มหัวใจช่วยชีวิต น.ส.พลอยพัชชา (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี ชาว อ.วังวิเศษ จ.ตรัง แต่ไม่สามารถดึงชีพจรกลับมาได้ จากการตรวจสอบร่างกายเบื้องต้นที่บริเวณกะโหลกศีรษะขมับด้านขวามีรอยช้ำยุบลงไป และมีบาดแผลถลอกตามร่างกาย ตัวขาวซีด เล็บม่วง
นายแบงค์ชาติ เทียมศิวชาติ เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้ง ตนได้รีบเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุทันที โดยพบว่า น.ส.พลอยพัชชา นอนฟุบหน้าตะแคงขวาอยู่ใต้ชานชาลา จึงได้พลิกตัวและเคลื่อนย้ายขึ้นมาบนชานชาลา ก่อนจะพบว่า น.ส.พลอยพัชชาไม่มีชีพจรแล้ว จึงแจ้งหน่วยกู้ชีพ พร้อมเร่งปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่ไม่เป็นผล
ด้าน น.ส. เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ให้ข้อมูลว่า ตนพร้อมเพื่อน และผู้เสียชีวิต รวม 3 คน กำลังเดินทางไปเข้าค่ายเปิดบ้านอาจารย์ใหญ่ เตรียมความพร้อม ม.ปลาย ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในช่วงปิดเทอม และจัดทำแฟ้มสะสมผลงาน สำหรับใช้ในการสมัครเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยได้ออกเดินทางจากสถานีกันตัง เมื่อเวลา 12.50 น. ของวันที่ 17 มี.ค. 2566 ด้วยรถไฟขบวนรถเร็วที่ 168 เส้นทางกันตัง – กรุงเทพอภิวัฒน์ และต้องการลงรถไฟที่สถานีนครปฐม เมื่อขึ้นมาบนรถไฟก็พบกับกลุ่มนักเรียน จำนวน 3 คน ที่สมัครเข้าค่ายนี้เช่นกัน
กระทั่งเดินทางมาถึงสถานีบางตาล รถไฟขบวนดังกล่าวได้จอดเทียบชานชาลา พวกตนได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ประกาศว่าสถานีต่อไปนครปฐม ขณะนั้นเห็นกลุ่มนักเรียนที่เพิ่งเจอกันได้หยิบข้าวของแล้วเดินลงจากรถไฟ เนื่องจากพวกตนเป็นคนต่างถิ่นกลัวว่าจะลงผิดสถานี จึงรีบลุกเดินตามลงไป โดย น.ส.พลอยพัชชาได้ลงเป็นคนสุดท้าย ระหว่างนั้นรถไฟได้เคลื่อนตัวออก ทำให้ น.ส.พลอยพัชชาพลัดตกจากรถไฟ ก่อนที่ร่างจะหล่นไปที่พื้นใต้ชานชาลา
น.ส.เอ เปิดเผยว่า น.ส.พลอยพัชชา เป็นคนนิสัยร่าเริง แจ่มใส ต้องการศึกษาต่อในคณะเภสัชศาสตร์ เพื่อเป็นเภสัชกรตามความฝันที่ตั้งใจไว้ จึงได้รวมตัวกับเพื่อนเดินทางมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ จากค่ายดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตไปแผนกนิติเวช รพ.ศูนย์ราชบุรี เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง พร้อมกับประสานญาติให้ได้รับทราบ เพื่อส่งร่างไปดำเนินการตามศาสนาต่อไป