“คุณหญิงสุดารัตน์” ขึ้นเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 ชู “ไทยสร้างไทย” คือทางรอด พร้อมเป็นเซลล์แมน นำของดีประเทศไทยออกไปขายทั่วโลก
เมื่อมิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2023 จัดเวทีรับฟังนโยบายพรรคการเมืองระดับแถวหน้าของเมืองไทย “มิสแกรนด์ กับ อนาคตเมืองไทย หลังเลือกตั้ง ปี’66” พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ผู้นำ ที่ไม่ใช่แค่พูดพล่าม แต่พร้อมจะลงมือทำอย่างจริงใจ
กับคำถามนางงาม และคำตอบนักการเมือง ที่ศูนย์การค้า Show DC เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
งานนี้ “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ไม่พลาด! มาแบบเสื้อผ้าหน้าผมสวยเป๊ะ ขึ้นเวทีมิสแกรนด์ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ด้วย
“คุณหญิงหน่อย” กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยสร้างขึ้นมา เพื่อเป็นทางรอดของประเทศไทย ยุติความขัดแย้งทางการเมืองสองขั้ว เราทุกคนต้องมาช่วยกันจุดไม้ขีดคนละก้านเพื่อเป็นแสงสว่าง เผาไล่ความมืดมิด กำจัดการสืบทอดอำนาจเผด็จการ
โดยเริ่มจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบันที่มุ่งตอบสนองการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ โดยเฉพาะการให้อำนาจ ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งเลือกนายกรัฐมนตรี และยังมีแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาประเทศ จึงควรเร่งผลักดันให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และป้องกันการรัฐประหารที่เป็นวงจรอุบาทว์ในประเทศไทย พร้อมระบุโทษของผู้ที่ทำรัฐประหารคือกบฏ ซึ่งมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต เพื่อไม่ให้ผู้ใดมาปล้นอำนาจของประชาชนได้อีก
นอกจากนี้ “คุณหญิงหน่อย” กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยยังได้ร่างกฎหมายขึ้นมา 1 ฉบับ เพื่อพักใช้ใบอนุมัติอนุญาตต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจ ทำมาหากินของคนตัวเล็ก เพื่อแขวนกฎหมายกว่า 1,400 ฉบับ ซึ่งจะช่วยให้พี่น้องประชาชนกลับไปทำมาหากินได้เร็วยิ่งขึ้น เศรษฐกิจของประเทศกลับมาฟื้นฟูหมุนเวียนได้ดีขึ้น และจะเป็นการสร้างโอกาสให้คนไทยสามารถระเบิดศักยภาพได้อย่างเต็มที่
เช่น การสร้างแบรนด์ การขายความเป็นไทยหรือ Thainess พร้อมยืนยันว่าหากได้เป็นรัฐบาล พร้อมสนับสนุนคนตัวเล็ก ทั้งด้านทุน องค์ความรู้ และตลาด ซึ่งตนพร้อมเป็น “เซลล์แมน” ไปเจรจากับผู้นำประเทศต่างๆเพื่อนำของดีของประเทศไทย ออกไปทำให้คนทั่วโลกรู้จัก
“พรรคไทยสร้างไทย จะต้องทำให้ประเทศไทยกลับมายืนหนึ่งบนแผนที่โลกอีกครั้ง เราต้องสร้าง New Engine ใหม่ เพื่อมารีสตาร์ทเครื่องยนต์ ซึ่งโปรเจ็กต์แรกที่ต้องดำเนินการ คือ Global Gateway ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเดินทางและขนส่งของภูมิภาคและของโลก” คุณหญิงหน่อย กล่าว
