“อนุทิน” ประกาศพร้อมรับนัดทุกพรรค เมิน “ชูวิทย์” ยื่น กกต.ยุบ “ภูมิใจไทย”

16 มี.ค. 66

“อนุทิน” เผยร่วมวงมื้อเที่ยง “บิ๊กป้อม” คุยสถานการณ์การเมือง กางตัวเลข ส.ส. ภูมิใจไทยไม่ต่ำ 70 เสียง เมิน “ชูวิทย์” ยื่น กกต.ยุบพรรค

จากกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

เข้าพบและร่วมรับประทานอาหารกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 66 โดย พล.อ.ประวิตร มีสีหน้ายิ้มแย้มและอารมณ์ดี ภาพบรรยากาศความเป็นกันเอง เต็มไปด้วยความชื่นมื่น

ภูมิใจไทยเข้าพบและร่วมรับประทานอาหารกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ล่าสุดวันที่ 16 มี.ค. 66 นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่ได้มีนัยยะทางการเมือง แต่เป็นการนัดกันล่วงหน้านานแล้ว ตั้งแต่นายชาดาเดินทางไปพบกับ พล.อ.ประวิตรช่วงที่ลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.นครสวรรค์ และเห็นว่าไม่ได้กินข้าวกับ  พล.อ.ประวิตรนานแล้ว ตนจึงได้โทรศัพท์ไปย้ำนัดกันอีกครั้ง ก่อนพบว่ามีเวลาตรงกัน

ตนพร้อมคณะจึงได้เข้าไปพบ พล.อ.ประวิตร และร่วมพูดคุยถึงสถานการณ์การเมือง แลกเปลี่ยนความพร้อมของทั้งสองพรรคในการเลือกตั้ง66 ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งพล.อ.ประวิตรก็สอบถามถึงการประเมินตัวเลข ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ตนก็แจ้งว่าน่าจะได้ประมาณ 70 คน ซึ่งท่านก็เห็นว่าตรงกับผลโพลที่ออกมา พร้อมปฏิเสธพูดคุยถึงการจับขั้วการเมืองใหม่ เพราะปัจจุบันทั้งพรรคภูมิใจไทยกับพรรคพลังประชารัฐเป็นขั้วเดียวกัน คือขั้วรัฐบาลอยู่แล้ว  

“ผมไปกินข้าวกับผู้จัดการรัฐบาล มันมหัศจรรย์ตรงไหนเหรอ ถ้าไปกินข้าวกับพรรคเพื่อไทยค่อยตื่นเต้นกันหน่อย การนัดกินข้าวร่วมกันของนักการเมืองในช่วงนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก วันนี้ผมโทรไปนัดใคร หรือใครโทรมานัดผมกินข้าว ผมไปหมด หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะเชิญพรรคร่วมรัฐบาลไปกินข้าว ผมคิดว่าก็ต้องไปนะ เพราะการนัดกินข้าว ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องร่วมหัวจมท้ายกัน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า มีการตีความว่าทั้งสองพรรคปล่อยภาพออกมา เพื่อหวังข่มขู่พรรคการเมืองคู่แข่ง นายอนุทิน กล่าวว่า อย่ามองโลกในแง่ร้าย ไม่มีการขู่หรือระแวงกัน  เพราะระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาหากมีการข่มขู่กัน คงอยู่ร่วมกันไม่ได้มาถึงทุกวันนี้ ส่วนตัวคิดว่าบรรยากาศทางการเมืองดีขึ้น หากครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยได้มีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาล เงื่อนไขแรกคือ การบอกพรรคร่วมรัฐบาลว่าร่างกฎหมายกัญชาต้องผ่าน เพราะเป็นประโยชน์กับประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เตรียมยื่น กกต.ให้ยุบพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนในฐานะประชาชนมีสิทธิ์ที่ทำได้ ผู้ที่ถูกกล่าวหาก็มีหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริง หากชี้แจงไม่ได้หรือทำผิดกฎหมายก็ต้องยอมรับชะตากรรมไป ตรงกันข้ามผู้ที่กล่าวหาหากมีเจตนามุ่งทำลาย และไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวหา ก็เสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดี

ส่วนตัวยังมั่นใจบนพื้นฐานว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และไม่เคยคิดว่าใครอยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ แม้ว่าคอการเมืองจะมีการพูดด้วยซ้ำว่าใครอยู่เบื้องหลัง เพราะพรรคภูมิใจไทยมีจุดหมายที่ใหญ่กว่าจะต้องทำ คือการหาเสียงเลือกตั้ง66 ให้ดีที่สุด หากมัวไปตอบโต้ก็มีแต่จะเสียงคะแนนลงไป

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส