"บุ๋ม ปนัดดา" ย้อนเล่า "ท้องออฟเดอะทาวน์" งง ! ผู้หญิงมีลูกกับผัวตัวเองเป็นเรื่องใหญ่

"บุ๋ม ปนัดดา" ย้อนเล่าปม "ท้องออฟเดอะทาวน์" ในรายการ "โดนเทเซมาที่แพท" ลั่น "ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะผู้หญิงจะมีลูกกับผัวตัวเองมันไม่ใช่เรื่องใหญ่"

โดย "บุ๋ม ปนัดดา" เผยกับ "แพท ณปภา" ว่า "ถ้าคิดจะหนี ปกปิด หรือว่าหลบ ฉันเลือกไปเมืองนอกไปคลอดลูกชิวๆ แล้วอุ้มลูกกลับมาดีกว่ามันง่ายกว่า ก็ทำงานจนวันสุดท้าย แต่ก็ไม่มีใครทัก" 

ซึ่งงานนี้สาวแพทเองก็บอกว่า "เจอพี่บุ๋มบ่อย แต่ไม่รู้เลยจริงๆ ว่า กำลังตั้งครรภ์อยู่ ด้วยความที่นั่งทำงานด้วยกัน เราก็คุยกันเป็นปกติ"

ทำไมไม่ประกาศว่าท้อง ?

"บุ๋ม ปนัดดา" เผยว่า "ช่วง 3 เดือนแรกไม่รู้ เรามารู้ตัวอีกทีเพราะประจำเดือนไม่มา เราก็โทรหาหมอบอกว่า ประจำเดือนไม่มาวัยทองหรือเปล่า แต่หมอบอกว่า "ท้องหรือเปล่า" เราก็ขำดังเลย บอก "หมอจะไปท้องได้ยังไง อายุขนาดนี้แล้ว" ก็แนะให้เราไปตรวจก่อน เพราะเรายังแข็งแรงอยู่ เราก็เลยอ่ะ ตรวจก็ได้ ก็เลยไปซื้อที่ตรวจครรภ์ที่ห้าง แต่ด้วยความอายก็เลยซื้อพวกสบู่ ยาสีฟัน มาด้วย แล้วก็นึกในใจว่า "เขาจะคิดว่าเราซื้อไปตรวจให้ลูกหรือเปล่า"

"เราก็เอาไปตรวจในห้องน้ำห้าง ผลปรากฎ เราก็ร้องเลย "เXี้ยยยยย 2 ขีด" สิ่งที่วิ่งเข้ามาในหัวคือ เราอายุ 46 ปี ลูกจะสมบูรณ์แข็งแรงไหม ก็เครียดกับความแข็งแรงของลูกมากกว่า เพราะเราก็ทำรายการที่สัมภาษณ์หมอค่อนข้างเยอะ ผู้หญิงที่มีลูกตอนอายุ 40 กว่า ลูกจะมีสิทธิ์เป็นออทิสติก ดาวน์ซินโดรม หรือพิการเยอะมาก ทำให้เราเครียดตรงนั้นมากกว่า"

"ดังนั้นทำให้การที่จะปรึกษาแฟน คนที่บ้าน หรือลูกๆ มันเกิดคำถามขึ้นในหัวเยอะมาก อีกทั้งต้องปรึกษาคุณหมอ ตรวจร่างกาย คือมันหลายกระบวนการ หลายขั้นตอน หลังจากวันที่รู้ตัวว่าท้อง หลังจากนั้นก็เกิดน้ำท่วมอีก ปนัดดาก็ต้องยืนหยัดเพื่อประชาชน "ภาพที่ทุกคนเห็นแบกถุงข้าวสาร 15 โล มีเด็กอยู่ในท้องอายุครรภ์ 8 เดือน"

สถานการณ์ทำให้เราไม่ได้พูดเรื่องท้องไหม จริงๆ ก็ไม่ได้อยากจะพูดอะไรหรือหรือเปล่า ?

บุ๋ม : "ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะผู้หญิงจะมีลูกกับผัวตัวเองมันไม่ใช่เรื่องใหญ่" 
แพท : "แต่มันเป็นเรื่องที่เราอยากรู้" 
บุ๋ม : "มันก็ไม่ใช่ท้องแรก แค่มีลูกอีกคนหนึ่ง กับผัวตัวเองไง"

"อีกอย่างก็ต้องรอผลตรวจ แล้วช่วงนั้นเป็นนู่นเป็นนี่ ทั้งโควิด น้ำท่วม สถานการณ์ต่างๆ รายการใหม่ และละครเรื่องใหม่ ถ่ายเยอะมาก เรีกยว่า ชีวิตแทบจะหาไม่อยู่แล้ว และยังต้องประคองตัวเองที่ตั้งท้องและฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆให้มันผ่านไปแต่ละวันได้ก็บุญแล้ว"

เมื่อถามว่า วันที่นักข่าวไปสัมภาษณ์หลังคลอดน้อง แม่บุ๋มไม่ยอมนั่งรถเข็น "บุ๋ม" เผยว่า วันที่แถลงข่าวหลังคลอดปกติดาราจะเว้นเวลาประมาณ 3 วัน แต่เราเอาวันรุ่งขึ้นเลยแล้วก็อุ้มลูกด้วย เรียกว่า วันจันทร์ แถลงท้อง, วันอังคาร คลอดน้อง, วันพุธ แถลงข่าว ไม่ปล่อยให้สักวันเป็นวันที่ว่างเปล่า วันพฤหัส รับแขก และเคลียร์ของทุกอย่าง พอวันศุกร์ก็กลับมาทำงานถ่ายรายการ เรียกว่าเป็นผู้หญิงที่สตรองมากๆ

เมื่อถามว่า วันที่ประกาศว่าท้อง ก็มีชาวบ้านเข้ามาจิกกัด บุ๋มเผยว่า มีชาวบ้านเข้ามาถามว่า ผัวคือใคร ด่าเรา สำส่อX "ก็ถามตัวเองว่า เราสำส่อXตรงไหน เรามีลูกกับผัวตัวเองนะ" มีอีกว่า "กะหXี่ ซึ่งเราไม่ได้ตังค์ไง ฟรีด้วย"

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เวลามีแฟนแล้วเลิก เราก็จะเห็นว่าแม่มูฟออนไวมาก "บุ๋ม" เผยว่า "ถ้าเหตุการณ์ตอนนั้นมาเกิดในยุคปัจจุบันทุกคนจะโอเค แต่เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ทุกคนจะพูดว่าแรงเนอะ เป็นผู้หญิงแรงๆ เรียกว่า เราเป็นผู้มาก่อนกาลเสมอ เช่น ลงนะหน้าทองก่อนชาวบ้านเขา ประกาศเลิกผัวก่อนชาวบ้านเขา คลอดก่อนชาวบ้านเขาอะไรประมาณนี้ ทำไมมูฟออนเร็ว เลิกก็คือเลิก มันไม่ใช่เด็กอนุบาลนะ ที่บอกเลิกกันเพียง 1 วินาทีแล้วออกมามาประกาศ มันต้องผ่านการทะเลาะ การคุยกัน หรือว่าห่างกันก่อน บางคนแยกกันมานานกว่า 6 เดือนแล้วแล้วค่อยประกาศก็มี"

ดังนั้นคนก็มองว่า อุ้ย เลิกปุ๊บมีใหม่ ขอโทษนะ แพทพอประกาศเลิกมีคนเข้ามาจีบนานไหม แพท บอกว่า ไม่นาน เพราะเรามันคนฮอต จริงๆ มันแล้วแต่ อย่างพ่อของลูกแพทใช้เวลา 3 ปี ของแม่ 20 นาที พอประกาศว่าโสดปุ๊บ ก็มีผู้ชายไลน์เข้ามาเลย "เลิกแล้วใช่ไหม"

ก่อนมาปลงใจกับพี่ก๊อต อธิป อนันทวรรณ มีประเด็นบินไปต่างประเทศบ่อย และถ่ายรูปกับฝรั่งท่านหนึ่งที่หล่อมาก ใช่หรือไม่ ?

"บุ๋ม" เผยว่า "คนที่ถ่ายด้วยคือเพื่อน แต่คนที่เคยคุยเราไม่ถ่ายลง เช่นช่วงก่อนหน้านั้นก็เคยให้แพทดูว่าคุยกับฝรั่งเยอะมาก ฝรั่งระดับมหาเศรษฐีที่พร้อมบินมาขอเราแต่งงาน คนหนึ่งเป็นเจ้าของบริษัทเพชรที่ใหญ่ระดับท็อปไฟว์ของโลก พร้อมขอแต่งงาน แต่เราต้องไปใช้ชีวิตกับเขาที่เมืองนอก อีกคนอยู่อินเดีย อีกคนอยู่จาไมก้าแต่เป็นคนสเปน เราก็ให้แพทดูหมดเลย คนไหนหล่อก็เม้าท์มอยกัน แพท บอกว่า "หล่อทุกคน" คุยจนลูกถาม คนที่เท่าไหร่แล้วแม่"

"จนกระทั่งวันนึงนั่งล้างปืนอยู่ ลูกหันมาพูดกับเราว่า "แม่อยากยิงปืนบ้าง" คนยิงปืนเป็นใช่ว่าจะสอนคนอื่นได้เสมอเราก็เลยโทรถามพี่ก๊อตว่า มีครูสอนยิงปืนในกรุงเทพแนะนำหน่อยไหม จะได้สอนอันดา แกก็บอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่บินขึ้นไปสอนให้เอง ดีจังเลย บินจากภูเก็ตมาให้ ระดับแชมป์ประเทศไทย ก็มาสอนให้อันดา ยิงไป 10 นัด บอกเสียงดังไม่เอาแล้ว ที่เหลือแม่ก็เลยต้องเอามายิงต่อ ทำให้ได้คุยกับพี่ก๊อตมากขึ้นจากวันนั้น"

จากฝรั่ง 8 คน มาเป็นพี่ก๊อต ได้ยังไง ?
"เพราะโควิดค่ะ โควิดพรากพวกเขาไป แต่ก็มานั่งคิดว่า ถ้าปนัดดาเป็นสาวธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่ได้สร้างฐานชื่อเสียงไว้ขนาดนี้ ก็อาจจะแต่งงานกับฝรั่งไปอยู่ต่างประเทศแล้ว แต่เราทิ้งประเทศไทยไม่ได้ ไหนจะมูลนิธิองค์กรทำดี ไหนจะที่ทำเพื่อประชาชนรวมถึงโครงการโรงเรียนต่างๆ และลูกๆบุญธรรมทั้ง 9 คน ฉันทิ้งพวกเขาไม่ได้"

"ทำให้ความสัมพันธ์กับพี่ก๊อตก็เริ่มต้นขึ้น พี่ก๊อตเริ่มเข้ามาในชีวิต เขาละทิ้งทุกสิ่งที่เขาสร้างมาตั้งแต่เกิดจากภูเก็ต เพื่อมาอยู่กับเราในบ้านแคบๆ ที่กรุงเทพ ต่างคนต่างแลก เราเปิดอกคุยกันเยอะมาก ต่างคนต่างเป็นพ่อม่ายแม่ม่ายลูกติด ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ลูกจะรู้สึกยังไง ชีวิต และการเรียนของลูกจากนี้จะเป็นยังไง มันมีสิ่งที่เราให้ความสำคัญมากกว่าแค่เซ็กส์ ความรัก ความรู้สึก สัมผัส จูบ หน้าตาความหล่อความสวย มันมากกว่านั้นเยอะ เพราะเรามีลูกกันแล้ว ลูกคือคนสำคัญ ทางพี่ก็อตมีลูกสาว 3 คน เรามีลูกสาว 1 คน ทั้งหมด 4 สาว อายุไล่เลี่ยกันเข้ากันได้ดี"

อะไรทำให้ตัดสินใจจดทะเบียนสมรมกับพี่ก็อต ทั้งที่ผ่านมา ไม่เคยคิดจดทะเบียนฯ กับใครเลย?

"ด้วยประสบการณ์ชีวิตของเราที่ผ่านมา มันสอนอะไรเรา เช่น ถ้าอยากดูแลลูกอย่างเต็มที่ ผู้ชายจะมีสิทธิในลูกเต็มที่ เขาต้องจดทะเบียน แล้วเขาก็เป็นคนบอกให้จดเอง เพราะถ้าไม่จดลูกจะเป็นสิทธิของแม่ 100% เราจดทะเบียนกันตั้งแต่ปีที่ 2 ก่อนที่เราจะตั้งครรภ์"

"วันแรกที่เราเจอพี่ก็อตครั้งแรกที่เชียงใหม่ เขาถามบุ๋มว่า “มีลูกได้ไหม” เราก็ห๊ะ ต้องการแม่พันธุ์หรอ ถ้าคุณไปถามพี่ก๊อตนะว่า คบกับบุ๋มเพราะอะไร เพราะสวยระดับประเทศ? เพราะดีกรีดอกเตอร์? เพราะนิสัยดีหรอ เขาจะตอบว่า "นมใหญ่ ตูดใหญ่" พอถามว่าเรามีลูกได้ไหม เพราะเขาชอบมีลูกเยอะๆ เขายังอยากได้ลูกชาย เราก็ตอบว่า "ได้" แต่ในใจก็แบบไม่มีหรอก ลืมไปว่า เผ่าพันธุ์ดิฉัน อายุ 50 ปี ยังตั้งครรภ์ได้อยู่"

จะมีลูกอีกไหม ?

"โอ้ยยยย น้องเพิ่ง 3 เดือนเอง ใจเย็นก่อน ยังไม่ปิดอู่แต่ยังไม่มี พี่สาวก็เครียดอยู่ว่าจะติดอีกไหม ตอนที่เราอยู่ในห้องคลอดมีผ้าม่านสีเขียวกั้นอยู่ เราก็จับมือเขาเพราะว่าเราตื่นเต้นแล้วถามเขาว่ารู้สึกยังไงบ้าง เขาก็บอกรอคนที่สอง รอคนต่อไปก่อน เขาไม่ได้เห็นฉันเป็นเมีย เขาเห็นฉันเป็นแม่พันธุ์"

เมื่อถามว่า เขาเป็นคนน่ารัก จากสิ่งที่แม่โพสลงอินสตาแกรมวันเกิดไม่มีอะไรมาก เอาไปเลย โฉนดที่ดิน มันยังไง?

"เขาชอบให้ของเป็นชิ้นเป็นอัน ก็เราสร้างมาด้วยกัน เพราะสิ่งที่เขาให้ มันก็เป็นของเขาครึ่งหนึ่ง เราบอกเขาว่า มีที่ดินแต่ไม่มีรถไปดูที่ เขาก็ซื้อรถให้"

ติดตามรายการ โดนเทเซมาที่แพท ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 น. ทางแพลตฟอร์มออนไลน์ Facebook Amarintv online และ youtube กดแจ้งเตือนกันไว้ด้วยนะจ๊ะ จะได้ไม่พลาดความสนุกนี้