ช็อก! ผลจับเท็จนิ่มโกหกทั้งหมด คุมตัวตรวจจิตอาจเข้าข่ายไซโคพาธ (คลิป)

วันที่ 24 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ด.ช.ต่อศักดิ์ แสงสว่าง หรือ น้องต่อ หนูน้อยวัย 8 เดือน หายตัวไปจากบ้านในพื้นที่หมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. อย่างเป็นปริศนากว่า 19 วัน ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ออกมายืนยัน ระบุว่ารายงานผลการเข้าเครื่องจับเท็จพบว่า น.ส.นิ่ม แม่ของน้องต่อ ให้ข้อมูลที่เป็นเท็จทั้งหมด

โดย น.ส.นิ่ม บอกว่า ตอนนี้รู้สึกเครียดหลังจากที่ถูกตำรวจนำตัวไปสอบปากคำทุกวัน และถูกถามแบบย้ำ ๆ เรื่องการหายตัวไปของลูก ซึ่งตนยืนยันไปหลายครั้งว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ ส่วนเรื่องชายเสื้อเหลืองนิ่มยอมรับว่า ตนเองไม่ได้เห็น ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าในเมื่อไม่ได้เห็นชายเสื้อเหลืองแล้วเหตุใดจึงให้การไปแบบนั้น น.ส.นิ่ม เริ่มสายตาล่อกแล่กก่อนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า จู่ ๆ ก็มีภาพชายเสื้อเหลืองเข้ามาในหัวมันบอกไม่ถูก

น.ส.นิ่ม กล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนที่น้องต่อจะหายไปว่า วันที่ 4 ก.พ. 66 ตนเองนั่งกินหมูกระทะจนถึง 4 ทุ่ม หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำแล้วเข้านอน จนถึงตอนที่ลูกหายตัวไปก็นอนอยู่ในห้องไม่ได้ลุกออกไปไหน มีเพียงแค่ช่วง ตี 3 ที่ลูกร้องแอ๊ ๆ 2 ครั้ง แต่ร้องไม่ดังซึ่งคาดว่าหิวนม จึงลุกมานั่งบริเวณปลายที่นอนเพื่อชงนมให้ลูกแล้วก็นอนต่อ

เมื่อผู้ข่าวถามว่า มีคนเห็นนิ่มเดินเข้ามาในบ้านหลังกลับจากเข้าห้องน้ำช่วงเวลา 05.50 น. น.ส.นิ่มยืนยันว่า ตลอดทั้งคืนไม่ได้ออกจากห้องและไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำแต่อย่างใด ตนเองนอนหลับยาวจนกระทั่งลูกหาย ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวตนเองได้ยินเสียงคนมาเรียกซื้อเหล้าและก็เห็นคนเปิดประตูออกไปขายของ แต่ขณะนั้นตนเองยังนอนอยู่ในห้องกับลูกและสามี ส่วนนายพุดยืนยันว่านอนอยู่ข้างกันตลอด นายพุดตื่นขึ้นมาตอนรู้ข่าวว่าลูกหายซึ่งตนเป็นคนปลุก

ทั้งนี้ทีมข่าวยังได้รับข้อมูลว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ตำรวจได้รับตัว น.ส.นิ่ม เข้าทดสอบสภาพจิตใจที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยแนวทางคดีนั้นพบว่า วันนี้เป็นการประมวลผลทั้ง ผลการเข้าเครื่องจับเท็จ การสอบปากคำ และการตรวจสอบสภาพจิตใจของ น.ส.นิ่ม

ซึ่งหากผลออกมาแล้วระบุว่า น.ส.นิ่มมีอาการป่วยทางจิตเวชและอยู่ในกลุ่มไซโคพาธ ซึ่งอยู่ในกลุ่มของโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม ตำรวจจะต้องนำตัวไปบำบัดรักษา แต่ก่อนจะนำตัวไปบำบัดรักษา น.ส.นิ่ม ขณะนี้รอผลประมวลการตรวจ

โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีลักษณะขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ขาดความสำนึกผิด ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ ดูคล้าย ๆ คนที่มีนิสัยแข็งกระด้าง ไร้ความเมตตาปรานี ซึ่งเป็นโรคไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี รวมทั้งอาการของความกดดันและการต่อสู้ชีวิตที่ถูกกระทำมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน 

ทีมข่าวสอบถามไปยัง รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ถึงโรคไซโคพาธ ระบุว่าโรคดังกล่าวเป็นโรคเกี่ยวกับบุคคลิกภาพต่อต้านสังคม เกิดจากความผิดปกติ เช่น สมอง สารเคมีทางสมอง และจิตใจ อาทิ การถูกทารุณกรรมทางเพศ ทำให้เวลาเติบโตขึ้น จะมีพฤติกรรมก้าวร้าว ทำร้ายสัตว์ ขโมยของ ทำร้ายเด็ก ฆาตกรรม โดยโรคดังกล่าวไม่สามารถนำมาลดหย่อนโทษทางคดีได้ เพราะไม่ใช่โรคทางจิตเวช