กองทัพเรือ แจ้งผลสอบสวน “เรือหลวงสุโขทัย” คืบหน้า 90%

22 ก.พ. 66

 

ผลสอบสวน “เรือหลวงสุโขทัย” คืบหน้า 90% ขาดวัตถุพยานที่เกี่ยวกับตัวเรือ เร่งหาบริษัทกู้เรือ ย้ำไม่ช่วยหากผลชี้ว่าผิดพลาดที่ตัวบุคคล

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 22 ก.พ. 66 ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางว่า ขณะนี้กองทัพเรือทำการสอบสวนอยู่ ทางคณะกรรมการที่รับผิดชอบ สอบปากคำพยานต่างๆ ไปแล้ว 289 ปาก นำข้อมูลที่ได้มาสรุปเป็นเหตุการณ์เพื่อชี้แจงประชาชนต่อไป ขอย้ำว่ากองทัพเรือไม่มีความพยายามดึงเรื่องให้ช้า โดยพยายามทำให้รวดเร็วอยากทำให้ทุกอย่างมีความรอบคอบครอบคลุมเรื่องราวทั้งหมด ขอให้อดใจรอ

พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เราได้ข้อมูลไปกว่า 90% แล้ว ประกอบด้วยพยานบุคคล และเอกสารในการรายงานต่างๆ รวมถึงพยานวัตถุเรือหลวงสุโขทัย ที่ยังได้ไม่ครบต้องรอขั้นตอนในการกู้เรือ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประดาน้ำไม่สามารถถ่ายภาพใต้ท้องเรือได้ เพราะเรืออยู่ในสภาพตั้งตรง ภาพประกอบจึงยังไม่สมบูรณ์ แต่มั่นใจว่าเรือยังจมไม่นาน ไม่น่าจะมีผลให้สภาพเรือเปลี่ยนแปลงไปมากนัก โดยต้องรอกรมอู่ทหารเรือตรวจสอบสภาพอีกครั้ง

“การเตรียมการกู้เรือสุโขทัยอยู่ระหว่างดำเนินการ จะได้บทสรุปภายในเดือน ก.พ.นี้ โดยขณะนี้ติดปัญหาคลื่นลมในทะเล บริเวณปากอ่าวไทยยังมีคลื่นลมแรงอยู่ คาดว่าภายในเดือน เม.ย.นี้เป็นอย่างช้าน่าจะดำเนินการกู้เรือได้” โฆษกกองทัพเรือ กล่าว

เมื่อถามถึงงบประมาณในการกู้เรือจะใช้เงินจากส่วนใด พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวว่า กองทัพเรือกำลังพยายามลดค่าใช้จ่ายการกู้เรือให้น้อยที่สุด เนื่องจากปัจจุบันมีถึง 12 บริษัทที่เสนอตัวและค่าใช้จ่ายในการกู้เรือมายังกองทัพเรือ ซึ่งกองทัพเรือจะพิจารณาเลือกค่าใช้จ่ายให้ต่ำที่สุด โดยจะดำเนินการเรื่องเอกสารของงบประมาณไปยังรัฐบาลก่อนที่จะมีการยุบสภา

เมื่อถามว่าการเยียวยาผู้เสียชีวิต 25 นาย เป็นอย่างไร โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ทางกองทัพเรือได้เยียวยาให้ครบแล้ว โดยมีเงินจากกองทุนน้ำใจไทย และเงินประกันชีวิตที่ทำให้กับข้าราชการกองทัพเรือ รวมแล้วได้รายละกว่า 1 ล้านบาท พร้อมให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้เข้ามารับราชการกองทัพเรือด้วย ซึ่งภาพรวมครอบครัวพึงพอใจ ขณะที่ผู้สูญหายอีก 5 นาย ทางกองทัพเรือได้เชิญญาติมาพูดคุย โดยขอให้เป็นผู้สูญหายก่อน เพื่อจะดำเนินการในเรื่องของเอกสารและเงินในการเยียวยา

เมื่อถามว่าแนวโน้มผลการสอบสวนน่าจะเกิดจากภัยธรรมชาติ หรือผลการตัดสินใจของผู้บังคับบัญชา โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า “รอผลการสอบสวนดีกว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นผลสอบสวน แต่ยืนยันว่าในฐานะที่เป็นคณะกรรมการสอบสวน จะไม่มีการช่วยเหลือเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเรือหรือผู้บังคับบัญชา โดยเมื่อข้อเท็จจริงออกมาแล้วก็จะทำให้ทราบว่าเราไม่ได้ช่วยเหลืออะไร เพราะมันไม่สามารถโกหกได้ เนื่องจากไปจากพยานที่เป็นตัวบุคคลมี 289 คน หากผลสอบไม่ตรงกับข้อเท็จจริงมันไม่คุ้มค่า กองทัพเรือไม่ทำอย่างนี้แน่นอน”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส