เจ้าของปั๊มล่าโจร 2 พ่อลูก ขับซาเล้งตระเวนลักทรัพย์ (คลิป)

15 ก.พ. 66

วันที่ 15 ก.พ. 66 เวลาประมาณ 11.30 น. ทีมข่าวได้รับรายงานจาก “นายเฉลิมเกียรติ เป็นศิริ” เจ้าของ “ปั๊มลุงเท่ง ชะอำ” ปั๊มน้ำมันและบริการจุดแวะพักรถชื่อดังใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ว่าขณะที่ตนเองและลูกน้องกำลังขับรถมุ่งหน้าไปทำธุระที่ตัวเมือง จ.เพชรบุรี แต่ระหว่างที่ขับผ่านปั๊มแก๊ส LPG ที่ตั้งอยู่ริม ถ.เพชรเกษม ขาขึ้นกรุงเทพ ต.นายาง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปั๊มในธุรกิจของตนแต่ปัจจุบันอยู่ในช่วงปิดปรับปรุง พบเห็นมีชาย 2 คนกำลังขี่รถ จยย. พ่วงข้างลักลอบเข้าไปด้านในพื้นที่ ทั้ง ๆ ที่ตนมีการทำรั้วกั้นห้ามบุคคลภายนอกเข้าไว้ชัดเจน

599216

นายเฉลิมเกียรติ กล่าวว่า หลังจากเห็นแบบนั้นตนก็เลยกลับรถและเข้าไปตรวจสอบพบเป็นชายสูงวัย 1 คน พิการขาด้านซ้าย นั่งอยู่ใกล้กับจยย.พ่วงข้าง ตนก็เลยถามว่า “เข้ามาทำอะไร” เขาก็บอกว่า “แวะมาเข้าห้องน้ำ กำลังจะกลับแล้ว” แต่ผ่านไปไม่นานก็มีชายวัยรุ่น 1 คน ทราบภายหลังว่าเป็นพ่อกับลูกเดินออกจากบ้านพัก 2 ชั้นของตนที่อยู่ภายในปั๊มดังกล่าวแต่ปัจจุบันไม่มีผู้พักอาศัย พร้อมกับถุงพลาสติกที่ใส่ก๊อกน้ำเต็มถุง

ตนก็เหลือบไปเห็นว่า ประตูถูกงัดจึงมั่นใจว่าทั้งคู่เป็นขโมยแน่นอน จึงตัดสินใจกับลูกน้องวิ่งเข้าไปจับตัวไว้แต่คนร้ายขัดขืนและสะบัดตัวหลบหนี ตนก็สู้แรงไม่ไหวเนื่องจากชายวัยรุ่นตัวใหญ่ ทำให้ทั้ง 2 หลุดมือตนกับลูกน้องไปแล้วขี่รถจยย.พ่วงข้างหลบหนีออกไป โดยชายวัยรุ่นเป็นคนขับแล้วชายสูงวัยกระโดดขึ้นซ้อนท้าย

663529

นายเฉลิมเกียรติ เล่าต่อว่า หลังจากนั้นตนกับลูกน้องจึงรีบขับรถยนต์ติดตามไปประมาณ 10 กม. และพบคนร้ายขี่ จยย.หลบหนีเข้าไปในป่าซึ่งคาดว่าน่าจะมีบ้านพักของพวกเขาอยู่ ตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชะอำ ให้เดินทางเข้าจับกุมตัว ระหว่างรอเจ้าหน้าที่คนร้ายก็ยังพยายามบิดรถหนีต่อเนื่องตนก็พยายามสกัด ชายวัยรุ่นพยายามจะยกมือไหว้ขอโทษและขับหนีเข้าซอยเล็ก ๆ ไป ซึ่งรถยนต์ของตนเข้าไปไม่ได้ แต่สุดท้ายทราบว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้แค่ชายสูงวัยหรือผู้เป็นพ่อได้ที่บ้าน และยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าเพิ่งเสพยาบ้ามาก่อนก่อเหตุด้วย

ส่วนลูกชายหลบหนีไปได้ทางหลังบ้าน ปล่อยให้พ่อซึ่งพิการต้องรับกรรมเพียงลำพัง และที่สำคัญมาทราบอีกว่าพ่อลูกคู่นี้ถูกชาวบ้านร้องเรียนว่าไปขโมยของตามบ้านคนแล้วหลายครั้ง เบื้องต้นตนจึงได้แจ้งความกับคนร้ายทั้ง 2 รายในข้อหา “ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี”

ทั้งนี้ใจลึก ๆ ตนก็แอบสงสารทั้งคู่เหมือนกันเพราะด้วยสภาพทางร่างกายของผู้เป็นพ่อ ส่วนคนที่ยังหลบหนีก็ขอให้มามอบตัว ดังนั้นเพื่อเป็นบทเรียนชีวิตครั้งนี้ก็จะขอดำเนินคดีตามกฎหมายกับทั้ง 2 คน หวังว่าหากพ้นโทษออกมาจะได้หางานที่สุจริตทำไม่ไปลักของชาวบ้านอีก

599963

ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น เท่าที่ตนประเมินก็น่าจะร่วมแสนบาท เนื่องจากพบว่าประตูไม้สักถูกงัดหายไปประมาณ 3 บาน สายไฟภายในบ้านถูกลักตัดออกไปหมดทั้งหลัง แม้กระทั่งก๊อกน้ำภายในห้องน้ำ รวมถึงก๊อกตามจุดต่าง ๆ ในบ้านก็หายเกลี้ยง คาดว่าคนร้ายคงนำไปขายแล้วบางส่วน

ส่วนตัวตนและเชื่อว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่สองพ่อลูกนี้เข้ามาก่อเหตุ เพราะที่ผ่านมาช่วง 1 เดือนก่อนหน้านี้ ตนเคยติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้แต่มีสัญญาณเตือนว่าถูกตัดสัญญาณทิ้ง พอตนมาดูก็พบเพียงแค่ร่องรอยของสายไฟเส้นหลักที่เชื่อมไปยังกล้องทั้ง 6 ตัวรอบบ้าน ถูกตัดจริง ๆ ประตูหน้าต่างถูกแงะและมีรอยล้อรถจยย.พ่วง รวมถึงรอยรองเท้าเหยีบบนพื้นไม้ชั้น 2 ของบ้านทั่วทั้งหลังแต่ไม่เจอคาหนังคาเขาแบบนี้

875072

ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปยัง สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งพบว่า “นายจรูญ ทองโล่ง” หรือ “นายรูญ” อายุ 57 ปี ถูกจับกุมอยู่ภายในห้องขังและจะคุมตัวฝากขังในวันพรุ่งนี้ ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ” พร้อมกับของกลางเป็นรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้าเวฟไอสีดำมีพ่วงข้าง

โดยเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุกับลูกชายจริง ตนเองเป็นคนชวนเนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่ได้มีอาชีพหลัก จึงต้องการนำของที่ขโมยไปขายเพื่อนำมาเลี้ยงชีพ และของที่ขโมยมาได้เมื่อวานนี้เป็นเพียงแค่ก๊อกน้ำ 2 ชิ้น แต่ได้ปาทิ้งข้างทางขณะขับหลบหนีแล้ว ยืนยันว่าเพิ่งมาก่อเหตุที่บ้านหลังเกิดแค่ครั้งแรก

ส่วนลูกชายหรือ “นายธนรัฐ ทองโล่ง” หรือ “นายเลิฟ” อายุ 19 เบื้องต้นอยู่ระหว่างหลบหนี ตอนนี้อยู่ระหว่างออกหมายจับในข้อหาเดียวกัน โดย “นายรูญ” บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะถูกจับกุมที่บ้านเมื่อวานนี้ว่า ลูกชายเห็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจเลี้ยวเข้ามาแถวบ้านจึงกระโดดกำแพงหลังบ้านหลบหนีไปก่อน ปล่อยให้ตนซึ่งพิการนั่งอยู่ในบ้านเพียงลำพัง

335694

ด้าน “นางพิศวาส” (นามสมมติ) ภรรยาของ “นายจรูญ” และเป็นแม่ของ “นายเลิฟ” ผู้ก่อเหตุ บอกกับทีมข่าวด้วยท่าทีไม่สู้ดีว่า หลังจากสามีและลูกชายกลับมาที่บ้านเมื่อวานนี้ทั้งคู่ก็ไม่ได้บอกอะไร มารู้อีกทีคือตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตอนเย็นแล้ว พอลูกชายเห็นตำรวจก็วิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้าน ส่วนสามีนั่งอยู่ในบ้านจึงถูกจับ พอเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไปตกค่ำลูกชายก็กลับมาที่บ้านก่อนจะออกไปกับเพื่อนอีกทีเมื่อตอน 10.00-11.00 น. ของวันนี้ 15 ก.พ. 66 โดยบอกกับตนว่าจะไปหาคนช่วยเรื่องคดี แต่ไม่รู้ว่าไปที่ไหน

ส่วนเหตุผลที่สามีขาพิการเพราะเมื่อ 2 ปีก่อนประสบอุบัติเหตุพลักตกต้นมะพร้าว ขณะขึ้นไปเก็บมาให้ตนขายทำให้ขาหักและต้องตัดขาทิ้งตั้งแต่ตอนนั้น พร้อมกับยืนยันว่าจริง ๆ แล้วสามีเป็นคนดี เป็นคนซื่อมาก ๆ ไม่มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย ส่วนลูกชายก็ยอมรับว่ามีนิสัยดื้อหน่อยพูดอะไรไม่ค่อยฟัง ที่ผ่านมาตนก็พยายามชวนลูกไปขายมะพร้าวที่ตลาดด้วยตลอด และเตือนลูกว่าอย่าไปลักเล็กขโมยน้อย ตนสงสารลูก สงสารสามีที่ต้องติดคุกใจจริงก็อยากประกันตัวแต่ไม่มีเงิน เชื่อว่าลูกชายคงสามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่ก็อยากให้ลูกกลับมามอบตัวเพราะตนกลัวว่าหากทั้งสามีทั้งลูกติดคุกตนจะอยู่คนเดียว ชีวิตนี้ไม่อยากอยู่คนเดียว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส