ตร.เร่งสางปมคดีโหด ฆ่ายกครัว 5 ศพ เค้นสอบ 7 ปาก เครือญาติ-คนใกล้ชิด พบบางคนให้การมีพิรุธ แต่ยังไม่ยืนยันว่าเกี่ยวข้องอย่างไร
จากกรณีคดีสะเทือนขวัญ ฆ่ายกครัว 5 ศพ พ่อแม่และลูก สภาพศพถูกแทงเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน และถูกทิ้งอยู่ในไร่ของชาวบ้านพื้นที่หมู่ 11 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก โดยที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 9 ก.พ.66 พ.ต.อ.วสันต์ ศิริกาญโกมล ผู้กำกับการ สภ.วังเจ้า จ.ตาก ประสานกำลังตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นตรวจสอบ โดยพบมีผู้เสียชีวิต 5 ราย เป็นพ่อแม่ และลูกอาศัยอยู่ครอบครัวเดียวกัน
โดยจุดแรกที่ไปตรวจสอบ เป็นจุดกองถุงพลาสติก สีดำจำนวนหลายสิบถุง เป็นถุงที่ชาวบ้านละแวกนี้นำไปใช้บรรจุหน่อขิง พอไม่ได้ใช้งานก็นำมากองสุมรวมกันไว้ รวมทั้งมีเศษใบไม้ปะปนรวมอยู่ด้วย เมื่อหยิบถุงพลาสติกและเศษใบไม้ออก ถึงกับผงะ เมื่อพบศพคนนอนเรียงกัน 3 ศพ แต่ละศพอยู่ในสภาพร่างเริ่มขึ้นอืดส่งกลิ่นคละคลุ้ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน
จากการตรวจสอบทราบว่าชื่อผู้เสียชีวิตประกอบด้วย น.ส.เจี๊ยะ อายุ 34 ปี, ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 10 ขวบ และด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 3 เดือน ทั้ง 3 คนนี้เป็นแม่ลูกกัน จากการพลิกศพในเบื้องต้นพบบาดแผล ลักษณะถูกยิงด้วยปืนเข้าที่ศีรษะทั้ง 3 คน และพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 ปลอก อีกจุดไม่ไกลกัน พบร่างด.ช.ซี (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ นอนอยู่ริมห้วยนาคีรี ที่ศีรษะมีรอยแผลเป็นรูลักษณะถูกยิงด้วยกระสุนปืนเช่นเดียวกัน
ส่วนอีกศพนายเชาว์ อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว ตำรวจไปพบที่บริเวณเชิงเขา ห่างจากจุดแรกไปประมาณ 300 เมตร ตรวจสอบตามร่างกายมีร่องรอยถูกทำร้ายโดยเฉพาะบริเวณลำคอมีรอยถูกอาวุธมีดบาด ถึงหลอดลม จนคอเกือบขาดออกจากกัน
จากร่องรอยบาดแผลที่พบตามร่างกายของนายเชาว์ รวมทั้งพบกระสุนปืนที่ศีรษะของน.ส.เจี๊ยะ และลูกทั้ง 3 คน ทำให้ตำรวจมั่นใจว่าเป็นเหตุฆาตกรรมอย่างแน่นอน แต่ว่าจะเป็นใครนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนอย่างรอบด้าน
จากการสอบปากคำ พ่อแม่และพี่สาวของน.ส.เจี๊ยะผู้เสียชีวิต เพื่อหามูลเหตุของการฆาตกรรม ทำให้ทราบว่าก่อนที่จะไปพบกลายเป็นศพถูกฆาตกรรม ครอบครัวผู้เสียชีวิตพากันไปทำไร่ตั้งแต่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระหว่างที่ทำงานที่ไร่ติดต่อกลับมาหาพี่สาว ขอให้นำข้าวสารไปส่งให้ แต่ตัวพี่สาวติดธุระจึงไม่ได้นำไปส่งให้
หลังจากนั้นก็เงียบหายไป จนผู้เป็นพ่อรู้สึกเป็นห่วง เนื่องจากเห็นว่าเงียบหายกันไปผิดสังเกต และทราบว่าหลานไม่ได้ไปโรงเรียนอีกด้วย ก็ยิ่งร้อนใจหนักขึ้นไปอีก จึงออกไปตามหาที่ไร่ กระทั่งไปพบว่าทั้งลูกและหลานถูกฆาตกรรมยกครัว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ทั้งนี้มีรายงานข่าวเบื้องต้น ตำรวจชุดสืบสวนสอบปากคำเครือญาติ รวมทั้งบุคคลใกล้ชิดกับครอบครัวนี้ รวมแล้ว 7 ปาก ปรากฏพบบางคนให้ปากคำมีพิรุธ แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่า บุคคลนี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร ต้องสอบปากอย่างละเอียดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 มอบหมายให้ พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 สั่งการให้ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 6 สนธิกำลังร่วมกับสืบสวนจังหวัดตาก และตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังเจ้า เดินทางไปตรวจพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อร่วมคลี่คลายคดีสาวหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
