พ่อแม่ "น้องต่อ" สงสัยเพื่อนบ้านถอดกล้องวงจรปิดทำไม (คลิป)

8 ก.พ. 66

วันที่ 8 ก.พ. 66 เข้าสู่วันที่ 3 การหายไปของ ด.ช.ต่อศักดิ์ แสงสว่าง หรือ น้องต่อ อายุ 8 เดือน ตามคำกล่าวอ้างของ น.ส.พิไลภรณ์ ก่อเจริญ หรือ นิ่ม อายุ 17 ปี แม่เด็ก ระบุว่าเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 5 ก.พ. 66 พบเห็นชายสวมเสื้อสีเหลืองยืนหันหลังเข้ามาในบ้านลักษณะอุ้มบางอย่าง ก่อนจะรู้สึกตัวว่าลูกชายหายไป โดยบ้านเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม ตามที่นำเสนอข่าวแล้วนั้น

467582

นายสิทธิโชค แสงสว่าง หรือ พุด อายุ 19 ปี และ น.ส.พิไลภรณ์ ก่อเจริญ หรือ นิ่ม อายุ 17 ปี พ่อและแม่เด็ก เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำตลอดทั้งคืนเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 66 ตัวนิ่มให้การกับทางตำรวจไปในทุก ๆ อย่างแล้วและยืนยันคำเดิมว่ามีคนอุ้มลูกไปแน่นอน เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นหมู่บ้านเปิดคนเอ็นดูลูกเยอะมากและชอบมาอุ้มลูกเพราะลูกเป็นเด็กน่ารัก อัธยาศัยดี ยิ้มเก่ง ประกอบกับตอนนี้ตนติดใจว่าอาจจะเป็นคนนอกพื้นที่ เพราะตัวเองชอบออกไปข้างนอกกับลูก โดยเฉพาะอุ้มไปบ้านพ่อย่าน นครชัยศรี ทุก ๆ วันอังคารและวันพฤหัส พร้อมยืนยันว่าให้ความร่วมมือกับทางตำรวจเต็มที่และได้บอกทุกเรื่องที่รู้

ส่วนเมื่อวานนี้ จากการที่ตำรวจเข้ามาค้นภายในบ้านและบ้านใกล้เคียงยังไม่พบความผิดปกติ แต่ยอมรับว่าสงสัยบ้านตรงข้าม เนื่องจากวันแรกที่น้องหายไปกล้องวงจรปิดยังคงติดอยู่ แต่เมื่อวานนี้ 7 ก.พ. 66 กลับพบว่าบ้านหลังดังกล่าวได้ถอดกล้องออกไปแต่ตำรวจได้ไปตรวจสอบแล้วยังไม่ทราบรายละเอียด โดยส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับบ้านตรงข้ามและพูดคุยกันปกติในฐานะแม่ค้าเพียงแต่ไม่ได้สุงสิงกัน

ทั้งนี้แม่เด็กยอมรับว่า หนักใจกับทุกเรื่องรวมถึงกระแสสังคมที่โยงมาหาตัวเองตอนนี้ โดยยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากันเรื่องเลี้ยงลูกเพียงแต่เป็นการพูดคุยและแซวกันตามปกติว่าให้ช่วยอุ้มลูกไปก่อน เพราะทำนู่นทำนี่อยู่ไม่ได้เกี่ยงกัน ซึ่งตอนนี้ความรู้สึก ยอมรับว่าเป็นห่วงลูกมาก ไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไร และอยากบอกกับคนที่อุ้มลูกไปว่า “เขาดูแลลูกดีหรือไม่ ตอนนี้อยากเจอแค่ลูก อยากให้ลูกปลอดภัย”

ส่วนประเด็นที่มีข้อมูลว่ามีการซื้อขายลูกนั้นยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และได้ตอบประเด็นนี้ไปกับทางตำรวจทั้งหมดแล้ว พร้อมทั้งได้นำโทรศัพท์เอาไปให้ตรวจสอบก็ยืนยันได้ว่าไม่มีการซื้อขายอย่างแน่นอน

488928

ด้าน นางลัดดา พึ่งนุสนธ์ อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านหลังตรงข้ามบ้านนายพุดและน.ส.นิ่ม ที่ทั้งคู่สงสัยว่าบ้านตรงข้ามถอดกล้องวงจรปิด เธอเล่าว่า กล้องตัวนี้อยู่บริเวณโรงจอดรถตรงข้ามบ้านเด็กพอดี เช้าวันที่ 5 ก.พ. 66 วันเกิดเหตุกล้องติดตั้งอยู่ปกติแต่กล้องคงไม่มีประโยชน์อะไรเพราะกล้องเสีย

โดนเช้าวันนั้นเวลา 07.00 น. ตนเองออกมาหน้าบ้านใส่บาตรกับพระวัดคลองคูเมืองไม่เห็นอะไรผิดปกติ ซึ่งหลังใส่บาตรเสร็จตนเองก็จะปิดประตูเพราะในบ้านของตนมีเด็กกลัวว่าจะวิ่งออกถนนแล้วโดนรถชน จึงจำเป็นต้องปิดประตูเงียบ และตนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับนายพุด แต่ตนต้องเลี้ยงหลานและรับจ้างทำกิ๊ฟอยู่ในก็มักจะปิดประตูไม่ยุ่งกับใคร

314931

ซึ่งวันนั้นนายพุดพ่อของเด็กก็มาถามตนว่า เห็นใครอุ้มเด็กผ่านมาทางนี้หรือไม่ตนเองจึงร้องว่า “อ้าว” แล้วย้อนถามกลับว่า “ลูกไปไหนทำไมมึงไม่รู้” แต่นายพุดบอกว่า “นอนอยู่เหมือนมีคนมาอุ้มลูกไป” ตนเองไม่คิดว่าลูกนายพุดจะถูกอุ้มหายไปนานแบบนี้ก็ยังบอกกลับไปว่า “คนรู้จักกับมึงหรือเปล่าหรือมาหยอกเล่นแกล้งอุ้มลูกไป” พร้อมแนะนำไปว่า “หากหยอกกันแบบนี้มันใช้ไม่ได้ เล่นกันแรงเกินไป ถ้าเขาเอาลูกมาคืนมึงต้องด่าว่าเล่นแบบนี้ใช้ไม่ได้” นี่เป็นคำที่ตนพูดกับนายพุด

ส่วนกล่องตัวนี้ที่จู่ ๆ มาสงสัย ตนยืนยันว่ามันเสียมานานแล้ว ส่วนอีกตัวบนบ้านไม่มีการ์ดก่อนหน้านี้พี่สาวนายพุดกระเป๋าตังค์หายมาขอดูกล้องก็เคยบอกไปแล้วว่ากล้องเสีย ดังนั้นบ้านตรงข้ามรู้ดีว่ากล้องบ้านตนเสียนานแล้ว ส่วนสาเหตุที่ไม่ถอดออก เพราะลูกชายบอกว่า ให้ติดไว้แบบนั้นกันขโมย เพราะว่าเคยมีคนมาขโมยกางเกงยีนส์แบรนด์เนมลูกหายไปหลายครั้งจึงติดหลอกไว้

ส่วนที่ทำไมถึงถอดกล้องเพราะเมื่อวานนี้ 7 ก.พ. 66 ลูกสาวตนที่อยู่ จ.ปทุมธานี โทรฯ มาบอกลูกชายที่อยู่บ้านว่าเช็กกล้องให้หน่อยว่ามีเมมโมรี่การ์ดไหม แต่ลูกชายเอื้อมหยิบไม่ถึงจึงเอาเก้าอี้มาต่อ และหยิบกล้องลงมาดูปรากฏว่าไม่มีเมมโมรี่การ์ด พอจะนำไปติดตั้งใหม่ลูกชายติดไม่เป็นก็เลยถอดวางไว้เฉย ๆ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ประสานมาขอดูกล้องวงจรปิด ตนก็ให้ความร่วมมือ พร้อมเอาช่างกล้องมาเช็กด้วยและช่างก็ยืนยันได้ว่ากล้องเสียจริง ๆ อย่างไรก็ตามตนไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องถอดกล้องปกปิดอะไร เพราะก็เสียใจห่วงเหมือนคนเป็นพ่อแม่ น้องหายไปแบบนี้นานกว่า 4 วันแล้ว ตนเองยืนยันว่าวันนั้นยังย้ำกับนายพุดว่าหากใครเอาลูกมาส่งคือให้ด่าไปเลยว่าอย่าเล่นแบบนี้ เล่นไม่ถูกต้อง ตนไม่คิดเลยว่าเด็กจะหายไปนานแบบนี้

609706

ทีมข่าวเดินทางไปยังวัดคลองคูเมือง ซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ 4.7 กม. พบ หลวงพี่ทศพล พระลูกวัดคลองคูเมือง เป็นหนึ่งในพระที่เดินบิณฑบาตสายพื้นที่หมู่ 6 ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม พร้อมพระลูกวัดอีกรูปและลูกศิษย์วัด 1 คน ซึ่งเป็นโยมพ่อของหลวงพี่ทศพล

หลวงพี่ทศพล เล่าว่า เช้าวันที่ 5 ก.พ. 66 อาตมารับบาตรจากโยมลัดดาจริง โดยอาตมาออกจากวัดช่วงเวลา 06.20 น. ก่อนรับบาตรบ้านโยมหลักแรก ๆ อยู่ช่วงริมถนนสายหลัก ก่อนเดินเข้าซอยถึงบ้านโยมลัดดาเป็นหลังที่ 10 ตอน 07.00 น. จากนั้นเดินวนเข้าซอยไปรับบาตรบ้านโยมด้านจนครบก็เดินทางกลับวัดถึงวัด 07.30 น.

649228

หลวงพี่ทศพล บอกว่าช่วงรับบาตรก็ยังยืนคุยกับโยมป้าลัดดานิดหน่อยเรื่องอาหาร แต่ไม่ได้คุยอะไรมากเพราะโยมก็ยุ่งกับหลาน ๆ ก่อนปิดประตูเข้าบ้านไปไม่พบความผิดปกติรอบนอก และไม่เห็นใครอุ้มเด็กหรือมีเด็กคลานออกมาเล่น อีกทั้งอาตมาไม่ได้คุ้นเคยกับบ้านที่เด็กหายเพราะบ้านหลังนี้ไม่เคยใส่บาตรกับตน

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส