“โรม” ซัดกลับหลัง ภท.ยื่นปลด “พิธา” ปมค้านคำสั่งย้าย “หมอสุภัทร”

2 ก.พ. 66

“โรม” ประกาศศึก ‘ภูมิใจไทย’ หลังยื่นปลด “พิธา” ปมค้านคำสั่งย้าย “หมอสุภัทร” ชี้เป็นการทำลายกลไกอำนาจการตรวจสอบ

 

วันที่ 2 ก.พ. นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ส.ส. พรรคภูมิใจไทยยื่นถอดถอน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผ่านนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

 

โดย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากพรรคก้าวไกล โดยนายพิธา ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการโยกย้ายข้าราชการอย่างไม่เป็นธรรม คือ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบทและผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ซึ่งแถลงการณ์ของพรรคในเวลานั้นเป็นการแถลงที่ไม่เห็นด้วยต่อการโยกย้ายดังกล่าว ปรากฏว่าพรรคภูมิใจไทยไปร้องต่อประธานสภาฯ เพื่อส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่าการกระทำของนายพิธา เป็นการกระทำที่มีการแทรกแซงหรือเข้าไปก้าวก่าย การทำงานของข้าราชการประจำ

 

นายรังสิมันต์ ชี้แจงว่า แถลงการณ์ของพรรคก้าวไกลเป็นการกระทำที่สามารถทำได้ ชอบด้วยกฎหมาย ด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่ผ่านมาก็แถลงแบบนี้เป็นประจำ แต่สิ่งที่ต้องตั้งคำถามคือหลังจากที่ออกแถลงการณ์ดังกล่าวนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย ได้มีการเขียนข้อความใน Facebook ส่วนตัวในลักษณะ ที่พยายามเชื่อมโยง นพ.สุภัทร กับพรรคก้าวไกลว่า มีการกระทำที่สอดคล้องกัน จึงมองว่าใครกันแน่ที่ผิด พร้อมยืนยันว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านทำหน้าที่ทำในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาพยายามแสดงจุดยืนในการปกป้องข้าราชการน้ำดี ข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ถูกรังแกจากผู้บริหารระดับสูง ถ้า นพ.สุภัทร มีประเด็นในเรื่องของการทุจริตมีการปฏิบัติหน้าที่ไม่โปร่งใสก็จะไม่ว่าสักคำ แต่ นพ.สุภัทร คือตัวอย่างของข้าราชการน้ำดี เช่นนี้แล้ว การที่พรรคภูมิใจไทยเข้าชื่อแบบนี้ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนี้ต่างหากที่ใช้เครื่องมือทางกฎหมายเพื่อทำลายการตรวจสอบของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน

 

พร้อมยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่มีทางอยู่เฉย อาจจะมีการตอบโต้แน่นอน ถ้าเป็นเช่นนี้พรรคก้าวไกลและพรรคภูมิใจไทยคงต้องสู้รบกันไปอีกนาน

ส่วนจะนำเรื่องนี้ไปเป็นข้อมูลในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ด้วยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในการอภิปรายเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และจะตรวจสอบรัฐมนตรีทุกคนโดยจะพิจารณาจากเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งก็รวมไปถึงรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยที่เคยมีการตรวจสอบเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม และการเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส