ตำรวจบุกรวบ! เปิดร้านขายเสื้อผ้าบังหน้า แอบขายบุหรี่ไฟฟ้าให้นักเรียน

1 ก.พ. 66

ตำรวจบุกรวบ! เปิดร้านขายเสื้อผ้าบังหน้า แอบขายบุหรี่ไฟฟ้าให้นักเรียน อึ้งเด็ก ป.5 สูบด้วย รวบของกลางได้กว่า 11 รายกาย แจ้ง 2 ข้อหาเจ้าของร้าน

ปลัดอำเภอเมืองตรังนำกำลัง เจ้าหน้าที่ อส.บุกเข้าจับหนุ่ม 31 ปี เปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ ให้เด็กและเยาวชน ใจกลางเมืองตรังของกลางอื้อ พบเปิดเป็นร้านขายเสื้อผ้ามือสองบังหน้า หลังสืบทราบจากนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งซื้อมาจากร้านดังกล่าว อึ้ง! เด็กชั้น ป.5 และ ป.6 สูบด้วยเช่นกัน ความแตกขณะจับกุมมีเด็กนักเรียนเดินทางเข้ามาซื้อเช่นเดียวกัน ทางปลัดฯ ทำการว่ากล่าวตักเตือน และลงโทษด้วยการดันพื้น

เมื่อเวลา 11.20 น. วันนี้ 1 ก.พ. 66 นายจักรพงษ์ รัชนีกุล นายอำเภอเมืองตรัง ได้สั่งการให้ นายสมพร อ่อนชาติ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายธวัชชัย กรเพชร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และกำลังกองร้อย อส.อ.เมืองตรัง ที่ 3 เข้าตรวจสอบร้าน้าแห่งหนึ่ง บนถนนรัษฎา ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง สืบเนื่องจาก นายสมพร อ่อนชาติ ปลัดอำเภอได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ว่ามีนักเรียนนำบุหรี่ไฟฟ้ามาสูบในสถานศึกษา

ฝ่ายปกครองจึงเดินทางไปยังโรงเรียนดังกล่าว เพื่อร่วมประชุมปรึกษาหารือร่วมกับตัวแทนผู้ปกครอง ที่ได้รับความเดือด จากการประชุมนักเรียนได้ให้ข้อมูลว่าได้ไปซื้อบุหรี่ไฟฟ้ามาจากร้านค้าดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานศึกษา ฝ่ายปกครองจึงรายงานให้นายอำเภอเมืองตรังทราบ พร้อมวางแผนเข้าจับกุม พร้อมนำกำลังไปยังร้านดังกล่าว ตามที่ได้รับข้อมูลจากนักเรียน

ซึ่งพบว่าร้านดังกล่าว ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายเสื้อผ้ามือสอง และมีร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ด้านใน พบนายเรวัฒน์ สงวนนามสกุล อายุ 31 ปี ชาว อ.นาโยง จ.ตรัง แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน ชุดจับกุมจึงได้ขอทำการตรวจค้น โดยที่นายเรวัฒน์ ยินยอมให้ตรวจค้นแต่โดยดี ก่อนจะพบของกลางจำนวน 11 รายการ ได้แก่

1.บุหรี่ไฟฟ้า (ชนิดสูบแล้วทิ้ง 2000 คำ) จำนวน 269 ชิ้น

2.บุหรี่ไฟฟ้า (ชนิดเปลี่ยนหัว) จำนวน 32 ชิ้น

3.ตัวเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 32 ชิ้น

4.อุปกรณ์ (คอย) สำหรับตัวเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 110 ชิ้น

5.อุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนหัวบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 44 ชิ้น

6.เครื่องบันทึกข้อมูลและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง

7.เงินสด จำนวน 2,910 บาท  

8.น้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า

9.แผ่นป้ายโปรโมชั่นการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 1 ป้าย

10.บันทึกข้อมูลสต๊อกสิ้นค้า จำนวน 31 แผ่น

11.สมุดบันทึกการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 1 เล่ม

บุหรี่ไฟฟ้า

และบางส่วนเป็นกล่องเปล่าตั้งโชว์อีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ทำการยึดของกลางและจับกุมตัวมาทำการบันทึกจับกุมที่ที่ว่าการอำเภอเมืองตรัง โดยรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ในขณะเดียวกันปรากฏว่า ได้มีกลุ่มนักเรียน ซึ่งเป็นเด็กและเยาวชน ประมาณ 6 คน ได้ขับ จยย.เข้ามาจอดหน้าร้าน เพื่อที่จะเดินเข้าไปซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจำนวนมาก ก่อนเจ้าหน้าที่จะทำการสอบถามนักเรียนรายหนึ่ง อายุ 15 ปี บอกว่า ตนเคยมาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าที่ร้านแห่งนี้ รู้จักร้านนี้เพราะมีเพื่อนแนะนำมา

ซึ่งซื้อมาแล้วประมาณ 2-3 เดือน ราคาก็ไม่ได้แพงมากอยู่ที่ประมาณ 200 – 300 บาท โดยมีเพื่อนจำนวนหนึ่งมาซื้อร้านนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนจะมีร้านอื่นๆ อีกหรือไม่ตนก็ไม่รู้ เพราะมาซื้อในร้านนี้ร้านเดียว ก่อนที่ทางปลัดอำเภอจะทำการว่ากล่าวตักเตือน และลงโทษด้วยกันให้เด็กและเยาวชนกลุ่มดังกล่าว ทำการดันพื้น หรือวิดพื้น เพื่อเป็นการลงโทษคนละ 10 ครั้งโดยที่ไม่ได้เอาผิดแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่มีการซื้อขายกัน

เสื้อผ้า

ด้าน นายสมพร อ่อนชาติ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องจากทางโรงเรียนและผู้ปกครอง จึงได้มีการประชุมหาทางออกร่วมกัน และได้นำมาสู่การดำเนินการเข้าจับกุมโดยทันที เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ถือเป็นการสร้างปัญหาความเดือดร้อน ให้กับเด็กนักเรียนและเยาวชนเป็นอย่างมากในสถานศึกษา และอีกทั้งอยู่ใกล้กับสถานศึกษาด้วยเช่นกัน 

ขณะที่ นายยงยุทธ (สงวนสกุล) อายุ 50 ปี คุณครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง กล่าวว่า จริงๆ แล้วทางโรงเรียนได้สุ่มตรวจกระเป๋านักเรียนอยู่เป็นประจำ หากพบบุหรี่ หรือสารเสพติด ก็จะแจ้งผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้รับทราบและแก้ไขปัญหาร่วมกัน เช่นการให้พักการเรียน และบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าถือว่ามาแรงในปัจจุบัน ซึ่งที่พบมีเยอะในกลุ่มของนักเรียนระดับชั้นมัธยม และที่น่าเป็นห่วงก็พบในระดับชั้น ป.5 และ ป. 6 เช่นเดียวกัน เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้ที่มีการระบากดของโควิด-19 มีการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ ทางโรงเรียนไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมนักเรียนได้ จะกระทำได้แค่เพียงภายในโรงเรียน ทำให้นักเรียนมีปัญหาเยอะขึ้น จึงอยากฝากเตือนให้ทุกโรงเรียนตรวจค้นและควบคุมดูแลนักเรียน เพื่อเป็นการป้องกันให้กับเด็กและเยาวชน เพราะเด็กในช่วงนี้จะอยากรู้อยากเห็นอยากลองและตามเพื่อน ซึ่งเด็กที่มีการสูบบุหรี่จะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม

เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเจ้าของร้าน ในข้อกล่าวหา

  1. ขาย หรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า โดยผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งห้ามขาย หรือห้ามให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า หรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า ตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มาตรา 29/9 มาตรา 56/4 และคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ลงวันที่ 28 มกราคม 2558
  2. ซ่อนเร้น จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าโดยผิดกฎหมาย ฝ่าฝืน พรบ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ก่อนจะนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

 

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส