หนุ่มแกร็บบุกโรงพักเอาเรื่องลูกน้องนักการเมืองกร่างรุมตืบ ส.จ.เปี๊ยก ลั่นเอาผิดไม่เลี้ยงคนชั่ว (คลิป)

จากกรณี นายศิลปชัย ประณตน้อมสิน  หรือ หนึ่ง อายุ 40 ปี อาชีพขับแกร็บ ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า ตนเองถูกลูกน้องนักการเมืองชื่อดังรุมทำร้าย บริเวณหน้าลานจอดรถสถานบันเทิงชื่อดังย่านถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เหตุเกิดช่วงเวลา 00.40 น. ของคืนวันที่ 29 ม.ค. 66

วันที่ 31 ม.ค. 66 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปพูดคุยกับ นายศิลปชัย หรือ หนึ่ง ผู้เสียหาย เล่าว่าคืนวันที่ 28 ม.ค. เวลาประมาณ 20.00 น. ตนและเพื่อนรวม 6 คนไปกินดื่มที่สถานบันเทิงย่านปากเกร็ด

นายศิลปชัย กล่าวต่อว่า ขณะที่นั่งอยู่ก็เห็นว่าโต๊ะด้านหลังมีการจองไว้เป็นโต๊ะยาวกว่า 20 ที่นั่ง และเริ่มมีกลุ่มคนเป็นผู้ชายสวมเสื้อเขียนข้อความชื่อของ ส.จ.เปี๊ยก จ.อุทัยธานี จึงรู้ว่าน่าจะเป็นกลุ่มของลูกน้อง สจ.เปี๊ยก ระหว่างนั้นมีจังหวะที่ตนนั่งอยู่แล้วคนข้างหลังผลักตนจึงหันไปถามว่า “พี่มีอะไรกับผมรึเปล่า” อีกฝ่ายบอกว่าไม่มีอะไร

จากนั้นตนก็นั่งต่อตามปกติจนเวลาประมาณ 00.40 น. ตนเดินออกไปสูบบุหรี่ที่ลานจอดรถ จู่ ๆ กลุ่มผู้ก่อเหตุขับรถยนต์ติดไฟไซเรนออกมาจากร้าน หนึ่งในนั้นเปิดกระจกถามว่าตามออกมามีปัญหาอะไร ตนบอกว่าไม่มี จู่ ๆ อีกฝ่ายลงมาจากรถหลายคนตามภาพกล้องวงจรปิดเข้ามารุมทำร้าย ทั้งเตะต่อยจนตนล้มลงไป ไม่เห็นว่าใครเป็นใคร ก่อนจะขับรถหนีไป

โดยตนบาดเจ็บฟกช้ำทั่วใบหน้าและปวดคอกับหลังมาก ตอนนี้ได้ตรวจร่างกายและเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ไว้แล้ว ยอมรับว่ากลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะอีกฝ่ายเป็นลูกน้องของผู้มีอิทธิพล ยืนยันตนไม่ได้หาเรื่องฝั่งคู่กรณีก่อน เพราะอยู่คนเดียวคงไม่ไปหาเรื่องฝั่งตรงข้ามซึ่งอยู่กันราว 10 คนแน่นอน

ทั้งนี้ช่วงเข้าที่ผ่านมา ส.จ.เปี๊ยก ก็โทรศัพท์มาหาบอกว่าไม่รู้เรื่อง ตนก็เชื่อว่า ส.จ. คงไม่รู้เรื่องจริง ๆ เพราะไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ โดย ส.จ.เปี๊ยก บอกว่าจะรับผิดชอบ ตนก็คิดว่าหากคุยกันได้อีกฝ่ายรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลก็จะยอมจบ

ด้าน ส.จ.เปี๊ยก กล่าวว่าได้โทรศัพท์สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทางผู้เสียหายแล้ว โดยยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุตนไปที่สถานบันเทิงดังกล่าวจริงพร้อมกับลูกน้อง แต่ตอนเกิดเรื่องเป็นช่วงที่ตนขึ้นรถเดินทางออกมาจากสถานบันเทิงดังกล่าวแล้ว จึงไม่ทราบว่าลูกนัองไปรุมทำร้ายผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บ จนมาทราบเรื่องจากข่าวที่นำเสนอออกไปจึงได้รีบโทรศัพท์มาขอโทษผู้เสียหาย พร้อมจะดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด เพราะลูกน้องของตนทำผิดจริง ซึ่งตนไม่ชอบให้ลูกน้องทำพฤติกรรมแบบนี้ที่ไปรุมทำร้ายใคร