วันที่ 30 ม.ค. 66 เวลา 10.00 น. กระทรวงมหาดไทย นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้เดินทางพร้อมด้วยนายปีเตอร์ ชาวฮอลแลนด์ ผู้เสียหาย ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน กับนายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีถูกข้าราชการหญิงระดับสูงในจังหวัดสกลนคร หลอกลวงเงินว่าจะร่วมสร้างอนาคตด้วยกันแต่งงานกัน จนสูญเงินนับล้านบ้านนั้น
นายกัน จอมพลัง กล่าวว่า เมื่อปี 2017 คุณปีเตอร์ พบกับข้าราชการหญิงจากแอพหาคู่ และตกลงคบหากัน โดยฝ่ายหญิงบอกให้ขายบ้านที่ฮอลแลนด์เพื่อมาซื้อบ้านและที่ดินในประเทศไทย เป็นจำนวนเงินรวม 4 ล้านกว่าบาทจนหมดตัว หลังจากนั้นก็ตีตัวออกห่าง เมื่อนายปีเตอร์ทวงถามบ้านและที่ดินที่เคยโอนเงินไปให้ซื้อ ข้าราชการหญิงก็บ่ายเบี่ยงบอกไม่รู้เรื่อง ครั้งนี้ ตนต้องออกมาทวงคืนศักดิ์ศรีให้ผู้หญิงไทยในฮอลแลนด์ เพราะที่นั่นเป็นเรื่องดังมากในยุโรป ทำให้ผู้หญิงไทยที่มีสามีชาวต่างชาติถูกเหมารวมว่าไม่ดี โดยเฉพาะคู่กรณีเป็นข้าราชการระดับสูงมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณจังหวัด แต่มาทำเรื่องเสียหายเอง ตอนนี้ตนเองได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด
ทั้งสลิปการโอนเงิน คลิปบันทึกการสนทนาทั้งหมด อาทิเช่น คลิปวิดีโอคอลที่ข้าราชการสาวบอกว่าเป็นเอกสารการกู้เงิน โดยขอค่าดำเนินการเป็นหมื่น เพื่อให้รวดเร็วขึ้น แต่แท้จริงแล้วมันคือเอกสารบริษัทประกันซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันเลย โดยตนเองให้เวลาข้าราชการหญิงคนนี้ 3 วัน ให้เคลียร์เรื่องให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นจะปล่อยหลักฐานให้สื่อทั้งหมด เชื่อว่าสามีคนปัจจุบันของข้าราชการสาวคงไม่อยากเห็นแน่ และตนได้สอบถามไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เพื่อให้ตรวจสอบ แต่ผู้ว่าฯบอกว่าไม่มีอำนาจ เพราะเป็นความผิดส่วนตัว
นายปีเตอร์ ผู้เสียหาย เปิดใจว่า รู้จักกับสาวรายนี้ช่วง พ.ค.60 และเคยเจอกันประมาณ 4 ครั้ง ครั้งล่าสุดคือปี 2562 ก็เลิกกับแฟน ขายบ้าน โอนเงินให้ จนทะเลาะกับครอบครัวเดือดร้อน ตอนนี้สูญเสียทุกสิ่ง รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เหลืออะไรแล้ว ทุกอย่างมันจบแล้ว
ด้าน น.ส.รีญ่า อดีตภรรยา กล่าวว่า ตัวเองรู้จักกับนายปีเตอร์มากว่า 7-8 ปี เมื่อปี 60 นายปีเตอร์ได้ขอคุยกับผู้หญิงชาวไทยคนหนึ่ง และหลังจากที่นายปีเตอร์เดินทางกลับจากประเทศไทย ก็เริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปโดยให้เหตุผลว่าตัวเองรัก ผู้หญิงชาวไทยซึ่งเป็นคน จ.สกลนคร ซึ่งตัวเองก็เข้าใจและจากกันด้วยดี หลังจากนั้นไม่ได้ติดต่อกัน และมารู้ว่านายปีเตอร์ถูกผู้หญิงคนดังกล่าวหลอก จึงหาทางช่วยเหลือ กระทั่งมาทราบว่า นายปีเตอร์โดนหลอกจนหมดตัวจึงเดินทางมาช่วยเหลือ
โดยครั้งแรกปี 60 นายปีเตอร์ได้มาเปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพมี่ประเทศไทย ได้โอนเงินจำนวน 100,000 บาทให้กับผู้หญิงคนนี้ หลังจากนั้น แล้วก็มีการโอนเงินเรื่อยมา หนักสุดผู้หญิงคนดังกล่าวออกอุบายให้นายปีเตอร์ขายบ้านที่ประเทศฮอลแลนด์ เพื่อนำเงินมาซื้อที่ดินและสร้างบ้านที่ประเทศไทย รวมเงินที่นายปีเตอร์สูญเสียทั้งหมดตอนนี้ประมาณ 4 ล้านบาท ส่วนตัวรู้สึกสงสารนายปีเตอร์มาก และตัวเองก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้หญิงคนนี้แล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่ผู้หญิงจะไม่รู้ว่านายปีเตอร์มีภรรยามาก่อน โดยวันที่ตัวเองได้มีการพูดคุยผู้หญิงคนนี้ใช้ถ้อยคำและน้ำเสียงในเชิงประชดประชัน บอกว่า "ตนเองอยู่ประเทศฮอลแลนด์ สามารถเจอผู้ชายฝรั่งรวยรวยก็ให้หาใหม่ได้เลย" พอได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกตกใจมากไม่คิดว่าจะเป็นคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของผู้หญิงไทย
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เพื่อจะมาขอรับฟังคำชี้แจงจาก น.ส.แสนรู้ หรือแสนดี (นามสมมติ) ผู้ถูกกล่าวหา บอกว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อมให้คำชี้แจงอะไรกับสื่อ เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว และขณะนี้อยู่ระหว่างการมอบหมายให้ทนายจัดการถึงเรื่องที่ถูกกล่าวหา ส่วนตัวไม่ได้กังวลใจเรื่องที่เกิด ตั้งแต่เป็นข่าวทางผู้บังคับบัญชาคือนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนครได้ทราบเรื่องแล้ว หากทางผู้ร้องเรียนเข้าแจ้งความกับตำรวจหรือกับหน่วยงานต้นสังกัด ก็พร้อมที่จะทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร หากพร้อมที่จะชี้แจงกับสื่อจะโทรศัพท์ไปแจ้งกับทางอมรินทร์เป็นช่องแรก
ด้าน ดร.ชูพงศ์ คำจวง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร บอกว่า สำหรับ น.ส.แสนรู้ หรือ แสนดี ย้ายมาประจำอยู่ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ปีนี้เป็นปีที่ 4 ซึ่งส่วนตัวไม่ได้สนิทกับเจ้าตัว และได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจากทางสื่อ เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าตัว ไม่เคยมาพูดอะไรให้ฟัง สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ยังไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนถึงเรื่องคุณธรรมในการเป็นข้าราชการของ น.ส.แสนรู้ เนื่องจากถึงตอนนี้ยังไม่มีการเข้ามาร้องเรียนที่ต้นสังกัด และเรื่องดังกล่าวเท่าที่ฟังจากปากเจ้าตัว ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งวันนี้เจ้าตัวขอลางาน และยังไม่ได้บอกว่าจะกลับเข้ามาทำงานเมื่อไร
อย่างไรก็ตามวันนี้พอทราบเรื่องแล้วว่าผู้ร้องเรียน ได้ไปพบกับผู้ใหญ่ใน กระทรวงมหาดไทย หากมีหนังสือร้องเรียนมาถึงหน่วยงานต้นสังกัด ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาของ น.ส.แสนรู้ ก็พร้อมที่จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หรือหากคุณกัน จอมพลัง จะพาผู้เสียหายหรือผู้ร้องเรียน เดินทางมาร้องเรียนที่หน่วยงานต้นสังกัดด้วยตัวเอง ตนเองก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ส่วนเรื่องคดีความ ยืนยันเป็นเรื่องส่วนตัวที่ตนเองไม่สามารถเอาผิดกับ น.ส.แสนรู้ ได้ทางกฏหมายแต่อย่างใด
นายอาร์ต อายุ 26 ปี เลขาคนสนิทของ น.ส.แสนรู้ หรือ แสนดี เปิดเผยว่า ส่วนตัวทำงานกันมาประมาณ 2 ปี แต่ก่อนมาทำงานรู้จักกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่เดียวกัน ยืนยันว่า ที่ผ่านมาทุกคนในที่ทำงาน รู้มาตลอดว่า น.ส.แสนรู้ คบหากับชาวต่างชาติ แต่ไม่เคยวิดีโอคอลให้เห็นมีแต่เอาภาพเวลาไปเที่ยวกับชาวต่างชาติมาให้ดู ส่วนเรื่องการซื้อที่ดิน หรือที่ชาวต่างชาติ คนที่ร้องเรียนว่า ถูกหลอกให้โอนเงินมาตามที่เป็นข่าว ยืนยันว่าทุกคนที่ทำงานไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เนื่องจากทาง น.ส.แสนรู้ ไม่เคยมาพูดเรื่องส่วนตัวให้ใครในที่ทำงานฟัง
ถามว่าที่ผ่านมา น.ส.แสนรู้ ใช้ชีวิตหรูหราให้เห็นบ้างหรือไม่ เรื่องนี้บอกได้เท่าที่รู้คือเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา น.ส.แสนรู้ ได้ออกรถฮอนด้าแอคคอร์ดป้ายแดงแต่ไม่มีใครสนใจ เพราะทุกคนรู้ว่าบ้านของ น.ส.แสนรู้ เป็นคนมีฐานะอยู่แล้ว อีกอย่างก่อนที่ น.ส.แสนรู้ จะคบหากับชาวต่างชาติที่ร้องเรียน น.ส.แสนรู้ ก็เคยคบหากับชาวต่างชาติมาก่อน แต่ไม่รู้ว่าเป็นคนชาติไหน ยอมรับว่าตอนนี้ทุกคนในที่ทำงานก็รู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกคนเมื่อทราบข่าวก็ให้กำลังใจ น.ส.แสนรู้ เพราะตัว น.ส.แสนรู้ ในที่ทำงานเป็นหัวหน้าที่ดีและเป็นคนตั้งใจทำงาน ส่วนตัวมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นไปได้ก็อยากจะให้ น.ส.แสนรู้ ออกมาชี้แจงกับสื่อ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น หากมองในมุมกลับ ทั้ง 2 คนสมัครใจคบหากัน และเรื่องเงินก็ให้กันด้วยความเสน่หา โดย น.ส.แสนรู้ ไม่ได้เอามีดไปจี้คอหรือบีบบังคับให้โอนเงินมาให้ หากเรื่องนี้มองในมุมคนไทยด้วยกัน ถือว่าชาวต่างชาติคนดังกล่าวไม่แฟร์กับ น.ส.แสนรู้ เนื่องจากให้ของเขาแล้วพอเลิกกันก็มาทวงของตัวเองคืนแบบนี้
