วันที่ 26 ม.ค. 66 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุมีการยิงกันตาย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.7 ต.ดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม จึงรายงาน พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมชุดสืบสวนเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน 7 เจ้าหน้าที่แพทย์เวรโรงพยาบาลนครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐมเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุ เป็นร้านขายอาหารแบบเพลิงไม้อยู่ข้างมหาวิทยาลัยคริสเตียน ในห้องครัวพบศพ น.ส.ภัทรา อู่ทรัพย์ อายุ 42 ปี นอนหงายหน้า สวมหน้ากากอนามัย โดยสวมเสื้อยืดสีแดง มีผ้ากันเปื้อนลายการ์ตูนสีเหลืองคล้องคอ สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ถูกยิงที่ลำตัวและขารวม 8 นัด
ในที่เกิดเหตุพบ หัวและปลอกกระสุนขนาด 9มม. ตกอยู่ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นหญิง 1 ราย หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์เก๋งฟอร์จูนเนอร์สีบอรนซ์เงิน หลบหนีออกไปหลังก่อเหตุ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พบรถยนต์คันก่อเหตุจอดที่หน้าบ้านในพื้นที่ ต.ดอนยายหอม ลักษณะล้อจมดินอยู่เกือบครึ่งล้อ ซึ่งทราบว่ามีคนยิงตัวตายในบ้านพัก จึงได้เข้าตรวจสอบภายในบ้านพักชั้นเดียว โดยพบศพของ นางกัญญา มีหว่าง อายุ 54 ปี หรือ จิ๋ว ลักษณะนั่งกึ่งนอน เสียชีวิตอยู่บ้านโซฟาภายในบ้าน สภาพศพสวมชุดลายเสือแขนยาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9มม. โดยมีอาวุธปืนซิกซาวเออร์ขนาด 9มม. ตกอยู่ที่พื้นติดกับขาซ้าย ที่กระจกหน้าต่างมีร่องรอยของกระสุน 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บหลักฐาน
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุร้านขายอาหาร จุดที่พบศพ น.ส.ภัทรา พบคราบเลือดติดตามมี่เกิดเหตุ ที่บริเวณห้องครัว และยังมีรอยปลอดกระสุนปืนอีก 8 จุด ในที่เกิดเหตุยังพบสุนัขพันธ์ชิวาวา เพศเมีย ชื่อ น้ำแข็ง อายุ 3 ขวบ ซึ่งสุนัขตัวนี้เป็นสุนัขที่ น.ส.ภัทรา ผู้เสียชีวิตรักมากแล้วก็อยู่ในที่เกิดเหตุกับ น.ส.ภัทรา ด้วย โดยทางครอบครัวของผู้ตาย อดีตสามี ที่บวชเป็นพระสงฆ์ ได้นั่งเหม่อมองดูคราบเลือดและจุดที่ภรรยาของตัวเองถูกยิงเสียชีวืต
นางวันเพ็ญ มีหว่าง ลูกพี่ลูกน้องของ น.ส.ภัทรา ผู้ตาย และเป็นพี่สะไภ้ของ นางกัญญา ผู้ก่อเหตุ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ก่อนจะเกิดเหตุ นางกัญญา ได้ขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีบรอนซ์มาที่ร้านของ น.ส.ภัทรา 1 รอบ โดมเข้ามาพูดคุยกับ น.ส.ภัทรา แล้วเขาก็ขับรถออกไปจอดรถยนต์ร้องเพลงที่หน้าวัดแถวหมู่บ้าน ชาวบ้านก็เห็นเขาร้องเพลงอารมย์ดี
จากนั้น น.ส.ภัทรา ได้โทรศัพท์ไปหาตัวเอง พร้อมบอกตัวเองว่า “พี่ ๆ ไม่ต้องเข้ามาร้านนะ เดี๋ยวจะมีเรื่อง” ซึ่งหลังจาก น.ส.ภัทรา โทรหาตัวเองเสร็จ ก็คาดว่า นางกัญญา น่าจะขับรถกลับมาหา น.ส.ภัทรารอบ 2 แล้วก็มามีปากเสียงกัน ก่อนจะก่อเหตุยิง น.ส.ภัทรา ถึง 8 นัด โดยปกติตัวเองจะออกมาหา น.ส.ภัทรา ที่ร้านประมาณ 10.30 ของทุกวัน ถ้าวันนี้ น.ส.ภัทรา ไม่โทรไปบอกตัวเองก่อน ตัวเองคงออกมาที่เกิดเหตุ แล้วโดน นางกัญญา ยิงเสียชีวิตไปอีกรายเลยก็ว่าได้
สำหรับ นางกัญญา นั้น เขาเป็นน้องสะไภ้ตัวเอง เพราะเขาเป็นภรรยาน้องชาย แล้วน้องชายตัวเองได้ตายไปกว่า 10 ปีแล้ว ตัวเองยอมรับว่าเมื่อ 5 ปี ที่แล้ว เคยมีปัญหาเรื่องที่ดินกับ นางกัญญา จริง โดยตัวเองมีที่ดิน 19 ไร่ จากนั้นตัวเองได้มีปัญหาเรื่องการเงิน จึงเอาที่ดินจำนวน 19 ไร่ ไปจำนอง ต่อมา นางกัญญา จึงเสนอว่าจะไปไถ่ถอนที่ดินให้ตัวเอง จำนวนเงิน 600,000 บาท แต่เขามีข้อแม้ว่าถ้าเขาถอนที่ดินมาแล้ว ที่ทั้ง 19 ไร่ดังกล่าวต้องเป็นของเขาครอบครอง ทางตัวเองและลูกสาวของ นางกัญญา ก็ต่างพากันไม่ยอมที่จะให้ นางกัญญา ทำแบบนั้น ซึ่งลูกสาวของ นางกัญญา ก็เข้าข้างตัวเอง ไม่เข้าข้างแม่ของเขา จากนั้นมาตัวเองและ นางกัญญา ก็มีปัญหากัน แล้ว นางกัญญา ก็ย้ายออกจากบ้าน ไปอยู่ที่อื่น
ที่ผ่านมา นางกัญญา ก็จะคอยมาระรานตัวเองและญาติ ๆ เป็นประจำ แต่สำหรับ นางกัญญา ผู้ก่อเหตุ กับ น.ส.ภัทรา นั้น ทั้งสองไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกันมาก่อน ที่ผ่านมาสองคนนี้ก็พูดคุยกันดี ๆ อยู่เลย ตัวเองก็ยังงงเลยว่าทำไมกัญญาจึงมายิงภัทราถึง 8 นัดถึงกัญญาจะไปก่อเหตุฆ่าตัวตายแล้วก็ตาม ตัวเองไม่มีทางให้อภัยกับสิ่งที่เขาทำลงไป เพราะว่ายังคาใจที่เขามาก่อเหตุยิงภัทรา ทั้งที่เขาไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน
ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อน นางกัญญา จะลงมือก่อเหตุ วงจรปิดตัวที่ 1 เวลา 09.19 น. ผู้ก่อเหตุ ขับรถฟอจูนเนอร์ มาจอดที่หอพักแห่งหนึ่ง เพื่อมาร้องคาราโอเกะกับคนรู้จัก เวลา 09.19 น. คนก่อเหตุลงจากรถแล้วเดินเข้าไปหาคนรู้จักในห้องแล้วร้องคาราโอเกะในห้อง วงจรปิดตัวที่ 2 คนก่อเหตุ ร้องคาราโอเกะเสร็จแล้วได้เดินออกจากห้องไปขึ้นรถ กล้องวงจรปิดตัวที่ 3 เวลา 10.20 น. คนก่อเหตุ เดินมาขึ้นรถฟอจูนเนอร์ แล้วขับออกจากห้องแถวดังกล่าวเพื่อไปก่อเหตุที่ร้านของ น.ส.ภัทรา
กล้องตัวที่ 4 เวลา 10.17 น. จับภาพรถฟอจูนเนอร์ของ นางกัญญา ขับมาจากร้องคาราโอเกะเพื่อไปก่อเหตุ ซึ่งจุดเกิดเหตุร้านของ น.ส.ภัทรา อยู่ห่างขากกล้องตัวนี้ 200 เมตร เท่านั้น กล้องตัวที่ 5 อีกมุมหนึ่ง จับภาพรถฟอจูนเนอร์ของกัญญา ขับมาจากร้องคาราโอเกะเพื่อไปก่อเหตุ กล้องตัวที่ 6 หลังก่อเหตุเสร็จ ซึ่งผู้ก่อเหตุใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น เวลา 10.57 น. จับภาพรถฟอจูนเนอร์ของกัญญาหลังยิงภัทราเสร็จ ได้ขับรถออกจากที่เกิดเหตุ มุ่งหน้าจุดเกิดเหตุจุดที่สองเพื่อไปฆ่าตัวตาย
กล้องตัวที่ 7 เวลา 10.28.00 น. จับภาพรถฟอจูนเนอร์ของกัญญาหลังยิงภัทราเสร็จ ได้ขับรถออกจากที่เกิดเหตุมุ่งหน้าจุดเกิดเหตุจุดที่สองเพื่อไปฆ่าตัวตาย กล้องตัวที่ 8 ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ จุดที่ 2 เวลา 10.29 น. จับภาพรถฟอจูนเนอร์ ขับผ่านร้านค้าของชำด้วยความเร็ว เพื่อไปยังจุดเกิดเหตุจุดที่สองอีก 300 เมตร กล้อง 9 ความยาว เวลา 10.30 น. ได้ยินเสียงปืน 1 นัด ซึ่งเป็นเสียงปืนที่กัญญา ฆ่าตัวตาย แต่ตอนนั้นท่าทีชาวบ้านที่ร้านค้ายังปกติ เนื่องจากยังไม่มีใครรู้เรื่อง
ด้าน นางละมัย ยอดทอง ชาวบ้านที่ นางกัญญา มาร้องคาราโอเกะให้ฟังก่อนไปก่อเหตุ บอกกับทีมข่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. นางกัญญา ผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถฟอจูนเนอร์มาที่ห้องเช่าของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นมีญาติของตัวเองเป็นผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับผู้ก่อเหตุอยู่ด้วยอีก 2 คน รวมอยู่ในห้อง 4 คน
จากนั้น นางกัญญา ได้นำกุญเชียง 1 ถุง กล้วยตาก 1 กล่อง มาเป็นของฝากให้ตัวเอง จากนั้นกัญญาก็เข้ามาในห้องตัวเอง แล้วร้องเพลงพระคุณแม่ให้ตัวเองและผู้หญิงอีก 2 คนฟัง โดยเขาถือขวดพลาสติดมาทำเป็นไมค์ จากนั้นเขาก็ร้องบทเพลงอื่น ๆ อีกหลายบทเพลง ตอนนั้นสีหน้าของกัญญาก็ยังปกติ แล้วก็ไม่ได้พูดถึง น.ส.ภัทรา คนตายแต่อย่างใด
พอเขาร้องเพลงเสร็จ กัญญาได้พูดกับผู้หญิงอีกคนที่นั่งฟังเพลงว่า “เงินที่ยืมกัญญาไป กัญญาไม่เอาคืนนะ กัญญาถือเป็นการทำบุญไปด้วย” แล้วจู่ ๆ กัญญาก็บอกว่า “ขอตัวไปจัดการธุระก่อนนะ” แล้วเขาก็รีบเดินขึ้นรถฟอร์จูนเนอร์แล้วขับไปก่อเหตุยิง น.ส.ภัทรา แล้วยิงตัวตาย
หลังจากกัญญาออกไปไม่นาน ตัวเองก็ไปเข้าห้องน้ำ สักพักก็มีชาวบ้านโทรมาบอกว่ากัญญายิงตัวตายแล้ว ตอนนั้นยอมรับว่าตัวเองตกใจมาก เพราะกัญญาพึ่งมาร้องเพลงให้ตัวเองฟังดี ๆ อยู่เลย
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุจุดที่ 2 ที่บ้านของ นางอุไร เพชรยื้อ อายุ 76 ปี แม่ของ น.ส.ภัทรา ผู้เสียชีวิต ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนพึ่งสร้างใหม่มีรั้วรอบขอบชิด ขณะทีมข่าวลงพื้นที่พบว่า มีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 7 ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังจาก พฐ ตรวจสอบที่เกิดเหตุเสร็จแล้วเจ้าของบ้านได้พาทีมข่าวไปดูจุดเกิดเหตุที่ นางกัญญา ก่อเหตุ ยิงตัวตาย พบว่าเป็นห้องโถงมีเลือดอยู่พื้นกระเบื้องและโชฟาและพบรอยกระสุนที่กระจกบ้าน 1 รู
นางอุไร เพชรยื้อ อายุ 76 ปี แม่ของ น.ส.ภัทรา เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อเวลา 10.29 น. ตัวเองได้ยินเสียงหมาเห่า ซึ่งที่บ้านตัวเอง จะปิดประตูรั้วไว้อยู่แล้วเพื่อป้องกันขโมย พอตัวเองออกมาดูหน้าบ้านก็เห็น นางกัญญา จอดรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ไว้หน้ารั้วแล้วตัวเขากำลังปีนรั้วเข้ามาในบ้าน ตัวเองจึงถามเขาว่า “จิ๋ว มีอะไร ทำไมต้องปีนรั้วด้วย” แต่เขาก็ไม่พูดกับตัวเอง แล้วได้เดินมุ่งหน้าเข้าบ้านตัวเอง
ระหว่างที่เขาเดินเข้ามานั้น ตัวเองก็สังเกตุเห็นว่าในมือของจิ๋วมีอาวุธปืนอยู่ 1 กระบอก จึงถามเขาว่า “ถือปืนไปไหน” จิ๋วก็พูดกับตัวเองว่า “น้าอย่าเข้ามานะ” ตัวเองก็บอกเขาอีกว่า “จิ๋ว อย่าทำอะไรนะ ใจเย็น ๆ นะ” จากนั้นเขาก็ขึ้นไปในบ้านตัวเอง แล้วก่อเหตุยิงตัวตายอยู่ในห้องโถงบ้านตัวเอง 1 นัด
ซึ่งตอนนั้น ก็มีแค่ตัวเองกับน้องสาวที่อยู่ในบ้านเพียง 2 คน หลังจิ้วก่อเหตุ ตัวเองจึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ซึ่งก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่าจิ๋ว พึ่งไปก่อเหตุยิงภัทรา ลูกสาวตัวเองมา ตัวเองขอยืนยันว่า ภัทราลูกสาวตัวเอง ไม่เคยมีเรื่องกับกัญญามาก่อน เพราะทั้งสองคนนี้เขาไม่เคยมีปัญหากันเลย
เหตุครั้งนี้ ตัวเองก็ขออโหสิกรรมให้กับกัญญา ผู้ก่อเหตุ ตัวเองมีลูกแค่คนเดียวเขาตายไปแล้วไม่ฟื้นคืนมาแล้ว ส่วนคนที่ยิงก็ฆ่าตัวตายจึงไม่รู้ว่าจะไปเรียกร้องกับใคร
ขณะที่ทีมข่าวตรวจสอบเฟชบุ๊กของผู้ก่อเหตุ นางกัญญา พบว่าก่อนเกิดเหตุ 1 วัน มีการโพสต์ภาพลงเฟชบุ๊ก พร้อมข้อความว่า “มองหาสวรรค์แน่ ๆ เลยคุณจิ๋ว” และอีกโพสต์เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 66 ว่า “มารับโชคลาภเดินเที่ยวเยาวราชสดชื่น"
