ส่อพลิก! เปิด จ.ม.เด็ก 15 ลาโลกน้อยใจบ้านแตก พ่อโต้แฉตายยังถูกบูลลี่ (คลิป)

23 ม.ค. 66

วันที่ 23 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณี น้องปุ้ย อายุ 15 ปี เด็กนักเรียน ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา เสียชีวิต หลังผูกคอตายคาห้องนอนในบ้านพัก

805561

ซึ่งได้เขียนจดหมายลาก่อนดับชีวิตตนเอง ระบุว่า “ไม่ต้องโทษใครนะให้โทษตัวหนู ที่เป็นตัวปัญหาของเรื่องทั้งหมด ในเมื่อเป็นตัวปัญหาแล้ว งั้นหนูขอสร้างปัญหาสุดท้ายต่อไป มันจะได้ไม่มีปัญหา หนูเองก็จะได้ไม่สร้างปัญหาให้อีกไง หนูก็จะได้ไปอยู่ในที่ ที่หนูอยากไป มันไม่ใช่เรื่องครอบครัวแค่เรื่องเดียว มันมีทั้งเรื่องที่โรงเรียนที่หนูเคยถูกบูลลี่ โดนดูถูกโดนว่าหน้าตาหนู เก็บกดมาตลอดแต่ไม่อยากบอกใคร การเป็นโรคซึมเศร้ามันทรมาน และขอโทษด้วยนะที่ทำแบบนี้ ลาโลก จากปุ้ย”

339426433130182287

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ รร.ชำป่างามวิทยาคม ผอ.ปรีชา เสาวกุล ผอ.รร.ชำป่างามวิทยาคม พร้อมด้วยครูประจำชั้นของน้องปุ้ย ได้เปิดห้องประชุมที่อาคารโรงเรียนชำป่างาม ตอนรับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแก้ไขป้องกันการเกิดเหตุโรคซึมเศร้าซ้ำในน้อง ๆ นักเรียน โดยหน้วยงานที่เกี่ยวข้องระบุ่าต้องเริ่มต้นวางแนวทางแก้ไขปัญหาทันที ไม่ต้องรอเพราะถือว่าทุกหน่วยงานมากันครบ โดยจะเริ่มการให้กำลังใจและเปิดอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจสร้างความรักระหว่างสถาบันครอบครัวและรั้วโรงเรียน 

525189

ขณะที่ ผอ.ปรีชา เสาวกุล ได้เรียนเด็กนักเรียนและเพื่อนของผู้ตายเข้ามาสอบถาม พร้อมกับให้ดูบทความที่ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยเขียนไว้ในขณะที่เรียนหนังสื่อ ซึ่งคาดว่าผู้ตายอาจจะเครียดปัญหาครอบครัวเนื่องจากพ่อกับแม่เลิกกัน โดยเรียกความที่ผู้ตายเคยเขียนไว้ให้วันเด็กระบุว่า เครียดเรื่องปัญหาครอบครัว ซึ่งจากการที่ได้อ่านก็จะพูดถึงครอบครัวส่วนใหญ่

625969

และกระดาษเรียงความอีกหนึ่งใบที่น้องได้เขียนก่อนตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า "ความสุขของหนูที่เคยมีหายไป" กับการบรรยายเรื่องปัญหาภายในครอบครัว ซึ่งจากการสอบถามเพื่อนที่โรงเรียนไม่มีใครไปบูลลี่น้อง ตอนที่น้องมีชีวิตอยู่ตอนอยู่ที่โรงเรียนเป็นเด็กที่ร่าเริง ร่วมกิจกรรมปกติ ส่วนตัวคาดว่าเด็กน่าจะเก็บกด  ผอ.ปรีชา กล่าว

856115

ทีมข่าวได้เดินทางลงพื้นที่งานศพของ น้องปุ้ย นายทวีวัฒน์​ กินาวัน​ อายุ​ 45 ปี​ ยังคงเศร้า​ บอกกับทีมข่าวทั้งน้ำตา​ ว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากทำใจไม่ได้​ ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ลูกสาวบอกว่าอยากจะขอย้ายไปอยู่กับแม่จะย้ายโรงเรียนเลย จึงบอกกับลูกสาวว่าต้องเรียนให้จบก่อนชั้นก่อนค่อยไป​เขาก็ดูงอนนิดหน่อย

244939

นายทวีวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากจดหมายที่เขาเขียนลา​ เขาเขียนทำนองน้อยใจ​ถูกเพื่อนบูลลี่ และบอกว่าเขาผิดเองที่เกิดมามีหน้าตาแบบนี้​ ปัญหามันเกิดที่ตัวเขาเองเพราะฉะนั้นเขาขอแก้ปัญหาครั้งสุดท้าย​คือลาโลก​

ตนเชื่อสาเหตุที่ทำให้ลูกสาวจากไป​เพราะถูกบูลลี่จากเพื่อนจริง ๆ​ เพราะตนบอกว่าตนจำได้ว่าก่อนปีใหม่สังเกตเห็นโทรศัพท์มือถือของลูกสาวหน้าจอแตก จึงได้สอบถามลูกสาวก็บอกว่าหนูตีกับเพื่อน​ เป็นเพื่อนผู้ชาย พ่อก็เลยถามว่าทำไม น้องบอกว่าเพื่อนมาว่าหนูอ้วน​ มาดึงผม​ มาแหย่​ พ่อจึงถามว่าอ้าวไปตีกับเขาแล้วสู้เขาได้ไหมน้องก็บอกว่าสบายมาก​

299483

โดยทางครอบครัวได้นำ Facebook ของคนหนึ่งที่โพสต์ถึงลูกสาวเอามาให้ตนดู​ ปรากฏว่า Facebook ของบุคคลดังกล่าวระบุข้อความว่า​ "ขนาดยังไม่ตายกลิ่นตัวยังเหม็นเปรี้ยวขนาดนี้ถ้าตายจะขนาดไหน​ 5555" ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับคนเป็นพ่ออย่างมากเพราะขนาดลูกสาวตายแล้วยังมีคนโพสต์บูลลี่ขนาดนี้​ แต่ก็ไม่ได้คิดจะไปเอาเรื่องเอาความอะไรกับเขาตอนนี้โฟกัสที่งานศพของน้องมากกว่า​

371204

จากกรณีที่ทางโรงเรียนบอกว่า สาเหตุที่น้องฆ่าตัวตายเพราะปัญหาครอบครัว ตนยืนยันเลยว่าทางครอบครัวไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยพ่อก็ดูว่าน้องปกติ​ ส่วนแม่เลี้ยงของเขายิ่งไม่มีปัญหาอะไรกับเขาเลย​ ดูเข้ากันดีมาก​ ล่าสุดเขายังเซอร์ไพรส์วันเกิดแม่เลี้ยงของเขาอยู่เลย ทั้งนี้ตนขอให้เคสของลูกสาวตนเป็นเคสสุดท้าย​ในเรื่องของการถูกบูลลี่ ขอสังคม​ให้ที่ยืนกับคนอื่น​อย่าบูลลี่เขาเลย​ไม่ว่าใครจะรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร​ก็ขอให้ยอมรับ​

351171

ด้าน น้องเอ (นามสมมติ) นักเรียนในโรงเรียน บอกกับทีมข่าวว่า เคยเห็นต่อหน้าต่อตา​ว่าน้องปุ้ย​ทะเลาะกับเพื่อนผู้ชาย​ ด่ากันกลางโรงอาหาร โดยปุ้ยบอกว่าเพื่อนคนนี้แหย่ว่าน้องอ้วน​ กลิ่นตัวเหม็นเปรี้ยว​ ปุ้ยจึงด่ากลับ​ และตนก็เห็นโทรศัพท์มือถือของปุ้ยหน้าจอแตกสอบถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ยอมบอก จึงไปถามเพื่อนสนิทของปุ้ย เพื่อนสนิทของปุ้ยบอกว่าปุ้ยทะเลาะตบตีกับเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง ที่ชอบพูดวิจารณ์หุ่นและหน้าตาและมาดึงผมเธอ ก่อนปุ้ยจะคิดสั้น 2-3 วันก่อน ได้มาหาตนแล้วฝากสมุดการบ้านไปให้เพื่อนสนิท จึงถามน้องปุ้ยว่าทำไม น้องปุ้ยก็บอกว่าจะไม่ไปโรงเรียนแล้ว

 

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส