ลูกทรพีคมแฝกทุบหัวพ่อทิ้งศพเถียงนา ตร.รวบมือฆ่า รับจิตหลอนฉุนถูกบ่น (คลิป)

สืบเนื่องจากเหตุการณ์วันที่ 19 ม.ค. 66 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พังโคน พร้อมกู้ชีพสมาคมกู้ภัยสว่างพังโคน ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เถียงนาบ้านม่วงไข่ ต.ม่วงไข่ อ.พังโคน จ.สกลนคร จุดเกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย เพศชาย อายุประมาณ 71 ปี มีบาดแผลที่ศีรษะเหมือนโดนของแข็งฟาดที่หัวทำให้เสียชีวิตทันที ทราบชื่อภายหลังคือนายสุดใจ โพธิราช

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณเขียงนา ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 2 กิโลเมตร สภาพเเวดล้อมจะเป็นไร่และทุ่งนาสลับไปตามทาง จุดที่พบศพจะเป็นกระท่อมเถียงนาของผู้ตาย เป็นกระท่อมไม้ยกสูงภายในมีข้าวของเครื่องใช้อยู่เต็ม ขณะที่จุดที่เสียชีวิตจะเป็นบริเวณชั้นล่างข้างกองไฟ มีกาต้มน้ำ และกองฟืนอยู่

สภาพศพที่พบ ลักษณะเหมือนผู้ตายกำลังจะก่อกองไฟเพื่อต้มน้ำร้อนตอนเช้า หลังจากนั้น โดนตีบริเวณศีรษะท้ายทอยด้วยของแข็งก่อนจะหงายหลังนอนจมกองเลือดเสียชีวิต ห่างไปไม่ไกลประมาณ 300 เมตรข้างกระท่อม พบท่อนไม้ฟืนมีคราบเลือดติดอยู่ ซึ่งคาดว่าเป็นอาวุธในการใช้ก่อเหตุ

ความคืบหน้าคดีเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามตัวคนก่อเหตุได้ คือลูกชายของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายสาธิต โพธิราช อายุ 41 ปี ตรวจสอบเบื้องต้นทางผูัก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตเวชมานานกว่า 5 ปี ขณะที่ทางเข้าหน้าที่ตำรวจตามไปตรวจสอบ พบว่าหลังก่อเหตุทางเจ้าตัวได้หลบหนีไปเขียงนาอีกที ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร

เจ้าตัวได้รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่าช่วงเช้าของวันที่เกิดเหตุ โดนพ่อบ่นเเละดุด่าเรื่องงาน ทำให้โมโหประจวบกับมีอาการคลั่ง จากการขาดยาทางจิตเวช เลยตัดสินใจหยิบท่อนไม้ฟืนที่อยู่ในกระท่อม ตีที่ท้ายทอยของพ่อจำนวน 1 ครั้ง ก่อนที่พ่อจะนอนจมกองเลือดข้างกองไฟ ขณะที่ผู้ตายกำลังจะจุดไฟต้มน้ำร้อนกินช่วงประมาณ 6 โมงเช้า

หลังจากนั้น ตำรวจได้มีการตรวจสอบไม่พบยาเสพติด ส่วนผู้ก่อเหตุยังรู้สึกผิดและอยากขอขมาพ่อ จากการจรวจสอบประวัติพบว่าไม่เคยก่อเหตุแบบนี้มาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าบุพการีโดยเจตนา ได้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายไปตั้งแต่เมื่อวาน

ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุขณะที่ทีทข่าวลงพื้นที่นั้น พบว่าทางญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ มีการขึงสายสิญจน์ล้อมรอบกระท่อม 4 ทิศ ตั้งของเซ่นไหว้เชิญดวงวิญญาณ ขณะที่คุณลุงที่พาทีมข่าวไปดูที่เกิดเหตุเขาเองก็ให้เป็นข้อมูลเบื้องต้นหลังเข้ามาดูศพเป็นคนที่ 2 โดยให้ข้อมูลว่าตอนที่มาเจอนั้นไม่ได้พบลูกชายของผู้ตาย ที่ผ่านมาเขาเองมาอาศัยอยู่กับทางลูกชาย 2 คน โดยที่ลูกชายมีอาการป่วยทางจิต ทางชาวบ้านเองก็ไม่กล้าฟันธง ปล่อยให้เป็นเรื่องของคดี

นายประสิทธิ์ โพธิราช อายุ 62 ปี น้องชายของผู้ตาย เล่าาช่วงเช้าของวันที่เกิดเหตุประมาณช่วง 6 โมงเช้า ขณะที่ตนเองอยู่ที่เถียงนาของตนห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 400 เมตร ก็มีคนรู้จักอย่างนายถวิล มาตามให้ตนไปดูพี่ชาย อ้างว่าเขาเองเสียชีวิตแล้ว ตนเลยเดินตามนายถวิลไป และสอบถามเบื้องต้นว่าไปเจอเหตุการณ์ได้อย่างไร นายถวิลได้เล่าให้ตนฟังประมาณว่า ขณะที่เขากำลังขี่รถจักรยานยนต์จะเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อซื้อของมาทำกับข้าวกินตอนเช้า ผ่านเถียงนาผู้ตาย ก็เห็นว่าผู้ตายนอนอยู่ริมบันใดทางขึ้นจึงพยายามเข้าไปตะโกนเรียก แต่เขากลับไม่ตื่น ในใจตอนนัเนคิดว่าผู้ตายเมาแล้วมานอนตรงนี้ ลงจากรถเพื่อไปปลุก แต่พอดูไปดูมาก็เห็นว่ามีบาดแผลที่ท้ายทอย จึงตัดสินใจมาแจ้งตน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าญาติพอจะรู้ทันทีว่าใครเป็นคนก่อเหตุ หลังเกิดเรื่อง ทุกคนมุ่งเป้าไปที่ลูกชายของผู้ตาย เพราะปกติเขาจะอยู่ด้วยกันแค่ 2 คน มีอาการป่วยทางจิตเวชมานานแล้ว เพิ่งมาประสบอุบัติเหตุเมื่อช่วงต้นปี เลยทำให้เขาขาดยา และไม่ได้เข้ารับการรักษา อาจจะเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เขาเองก่อเหตุครั้งนี้ ก่อนเกิดเรื่องตนเองไม่เห็นว่าทั้งคู่ทะเลาะกัน จะเห็นช่วงประมาณก่อนทราบเรื่อง เห็นทางผู้ก่อเหตุเดินผ่านหน้าเถียงนาของตน มีกระเป๋าเป้ 1 ใบ และข้าวของบางส่วน เดินไปโดยที่ไม่ได้ทักทายหรือพูดคุยแต่อย่างใด ประจวบกับปกติเขาเองก็เดินไปเดินมาแบบนี้เป็นปกติ จึงไม่ได้สงสัยอะไร

ส่วนพฤติกรรมของคนตายและคนก่อเหตุ ยอมรับว่าที่ผ่านมาทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะกัน ด้วยความที่คนตายเองเลิกรากับทางภรรยา และตัดสินใจมาปลูกกระท่อมกลางนา เอาลูกชายมาดูแลด้วย เพราะเขาเป็นห่วงเรื่องอาการป่วย ที่ผ่านมาทางลูกก็ปกติ ช่วยพ่อทำนา และช่วยทำมาหากิน ไม่เคยมีอาการคลั่งแบบนี้มาก่อน ไม่ทราบว่าก่อนเกิดเรื่องทั้งคู่มีปากเสียงอะไรกันหรือไม่

ขณะที่ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบอาวุธในก่อเหตุ เป็นไม้ลักษณะคล้ายคมแฝก ถูกทิ้งไว้ห่างจากจุดที่เจอศพประมาณ 200 เมตร กลางทุ่งนา ก่อนที่จะไปตรวจสอบพบผู้ก่อเหตุตามเบาะแสญาติที่ให้ข้อมูลว่าเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต คือนายสาธิต โพธิราช อายุ 41 ปี หลังจากก่อเหตุก็ได้หอบเสื้อผ้าออกจากเถียงนาเดินไปนอนที่เถียงนาของชาวบ้าน ก่อนจะถูกตำรวจจับกุมตัวได้

ซึ่งตอนที่ควบคุมตัวนั้นเจ้าตัวยังให้การไม่ได้เนื่องจากขากยามาเป็นเวลานาน ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาผู้ก่อเหตุมายังจุดเกิดเหตุ และชี้จุดทำแผนช่วงที่ก่อเหตุ มีช่วงหนึ่งทางเจ้าตัวได้นิ่งและรู้สึกสลดกับสิ่งที่กระทำ ก่อนที่จะยกมือไหว้กราบเท้าขอขมาพ่อที่นอนไร้ลมหายใจจำนวน 1 ครั้ง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคุมตัวไปโรงพัก ดำเนินคดี