บิสกิต โซลูชั่น ชี้ธุรกิจอาหารบูม แนะธุรกิจร้านอาหารใช้ AI เพิ่มยอดขาย คว้าโอกาสธุรกิจ บริหารประสบการณ์ลูกค้า ลดต้นทุน ลดเวลา แม่นยำสูง
นายสุทธิพันธุ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิสกิต โซลูชั่น (BIZCUIT Solution) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2566 นับเป็นปีทองของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยจะเห็นได้ว่าธุรกิจกลุ่มนี้เริ่มกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และโดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 ที่ผ่านมามีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกำลังจับจ่ายของคนในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เริ่มกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและเกิดกระแสโหยหาการใช้ชีวิตนอกบ้าน ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2566 นี้ จากปัจจัยบวกเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวต่อเนื่องส่งผลต่อสภาพคล่องและการจับจ่ายที่มากขึ้นของคนไทย ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวจะไหลเข้าประเทศไทยมากขึ้น จากคาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยระบุว่านักท่องเที่ยวจะทะลักเข้าไทยกว่า 30 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ซึ่งถือเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะการจับจ่ายให้กับกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มในระหว่างการท่องเที่ยว
“ปีนี้นับเป็นช่วงขาขึ้นของธุรกิจร้านอาหาร ที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารยังต้องเผชิญกับหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เราพบว่าธุรกิจร้านอาหารกำลังเผชิญกับ 3 ความท้าทายสำคัญด้านต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่าแรง ค่าวัตถุดิบ และค่าเชื้อเพลิง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้และผลกำไร ทำให้ผู้ประกอบการบางรายต้องปรับขึ้นราคาค่าอาหารและค่าบริการเพื่อความอยู่รอด นอกจากนี้ ยังพบผลกระทบในด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เป็นข้อจำกัด ซึ่งเป็นอีกความท้าทายของผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร ที่ต้องบริหารแรงกดดันด้านต้นทุนที่สูงขึ้น และการแข่งขันที่เข้มข้น” นายสุทธิพันธุ์ กล่าว
นายสุทธิพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในจังหวะที่ธุรกิจอยู่ในช่วงขาขึ้น มีโอกาสเติบโตสูง ผู้ประกอบการร้านอาหาร และเครื่องดื่มควรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีความแม่นยำสูง โดยเฉพาะเทคโนโลยี AI ตัวช่วยวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค มาใช้ต่อยอดในการวางกลยุทธ์ส่งเสริมการขายที่ทรงประสิทธิภาพ หรือคิดค้นสินค้าและบริการใหม่ที่ตอบโจทย์และตรงความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างถูกต้องแม่นยำ โดย AI มีความสามารถในการช่วยบริหารประสบการณ์ลูกค้า สู่การเพิ่มยอดขาย ต่อยอดด้านการให้บริการที่ดีกว่าเดิม โดยเป็นการ ทรานส์ฟอร์มจากความต้องการของลูกค้า ช่วยให้ร้านอาหารมีข้อมูลที่สามารถบริหารจัดการธุรกิจได้ในทันที
ทั้งนี้ บิสกิต โซลูชั่น ได้พัฒนา FullLoop CX แพลตฟอร์มพัฒนาประสบการณ์ลูกค้าครบวงจร ผ่าน “ระบบฟังเสียงผู้บริโภค” ที่มี AI บริหารความรู้สึกลูกค้า รวบรวมความคิดเห็นผู้บริโภคที่มาใช้บริการ ด้วยจุดเด่นดังต่อไปนี้
- การสร้าง Workflow อัตโนมัติ
- ระบบสามารถขอโทษทันที เมื่อลูกค้ามีข้อร้องเรียน (Complain)
- เป็นตัวช่วยในการบริหารจัดวิกฤติ แตกต่างจากระบบผลสำรวจความพึงพอใจทั่วไป
- สามารถนำมาเป็นตัวช่วยเพิ่มยอดขาย และสนับสนุนให้ลูกค้าตัดสินใจใช้จ่ายได้มากขึ้น (Upselling)
- ช่วยส่งเสริมการขายสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าหลัก (Cross-selling) ได้เพิ่มขึ้นด้วย
- ระบบสามารถใช้งานได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งเหมาะกับทั้งธุรกิจนั่งทานในร้านและเดลิเวอรี่
- ทำน้อยแต่ได้มาก ใช้งบการลงทุนน้อย โดยเฉพาะกับร้านอาหารที่มีหลายสาขา และมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสุขให้กับลูกค้าจากการได้รับบริการและเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า
อย่างไรก็ดี FullLoop CX นับเป็นโซลูชันเรือธงของ บิสกิต โซลูชั่น ที่สามารถทดแทนระบบ CRM ได้บางส่วน ซึ่งมีตัวอย่างร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จแล้วว่า FullLoop CX ยังได้เข้าไปช่วยร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในการปรับปรุงระบบร้านได้จริง จนเกิดยอดขาย และความพึงพอใจสูงขึ้น โดยมีจุดเด่นที่สามารถทำให้ร้านอาหารมีระบบบริหารจัดการลูกค้าอย่างมืออาชีพ ที่ทำงานบนคลาวด์ โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรม สามารถใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ที่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ เพื่อเป็นตัวช่วยสำคัญให้กับผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารในยุคฟื้นฟู โดยสามารถตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ไปพร้อมกับการลดต้นทุน และประหยัดเวลา ช่วยติดสปีดธุรกิจร้านอาหารให้สามารถเพิ่มรายได้และกำไร ด้วยค่าบริการที่เข้าถึงได้ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ สามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว