รวบ “เท้าแชร์” สาวสุดแสบ โกง “ลูกแชร์” ความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

9 ม.ค. 66

“ตำรวจสอบสวนกลาง” บุกรวบตัว “เท้าแชร์” สาวสุดแสบ โกง “ลูกแชร์” มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 5 ล้านบาท อ้างไม่ได้หนี แต่มาขายของเพื่อหาเงินไปคืน

วันที่ 9 ม.ค. 66 ที่บริเวณวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ต.แดนรบ สมัยชูเกียรติ สว.กก.6 บก.ป., ร.ต.อ.ยุทธนา จิตจำนอง รอง สว.กก.6 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.ฐิติมา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี

เท้าแชร์

ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 453/2565 ลงวันที่ 20 ธ.ค. 65 , ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 454/2565 ลงวันที่ 20 ธ.ค. 65 และตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 455/2565 ลงวันที่ 20 ธ.ค. 65 ในฐานความผิดฐาน “เป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนสมาชิกวงแชร์รวมกันทุกวงมากกว่าสามสิบคน เป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนวงแชร์รวมกันมากกว่าสามวง”

ทั้งนี้พฤติการณ์ สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้เปิดให้กลุ่มผู้เสียหายเข้าร่วมเล่นแชร์กับผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาได้เปิดวงแชร์จำนวนหลายวงมานานกว่า 3 ปี ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าร่วมเล่นแชร์กับผู้ต้องหามากกว่า 50 ราย ในช่วงแรกผู้ต้องหาสามารถจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายตามที่ตกลงกันไว้ได้ ต่อมาเริ่มมีผู้เสียหายหลายรายไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงกันไว้ และไม่สามารถติดต่อกับผู้ต้องหาได้

โดยพบว่ามีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 5 ล้านบาท กลุ่มผู้เสียหายจึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตามจนกระทั่งได้เบาะแสว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาประกอบอาชีพค้าขาย อยู่ภายในงานประจำปีของวัดในพื้นที่ ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ พบตัวผู้ต้องหากำลังขายของอยู่ภายในวัดดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวและทำการจับกุมผู้ต้องหา จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เท้าแชร์

ทั้งนี้จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับว่าได้ตั้งตัวเป็นเท้าแชร์ เปิดให้มีสมาชิกเข้าร่วมเล่นแชร์กับตน โดยจัดให้มีการเล่นแชร์มีจำนวนสมาชิกวงแชร์มากกว่าสามสิบคน มีจำนวนวงแชร์หลายวงแชร์ ซึ่งผู้ต้องหาไม่สามารถจำได้ว่ามีกี่วง หลังจากเปิดให้สมาชิกเล่นได้ระยะหนึ่งแชร์ก็ล้ม จึงได้หลบหนีไปประกอบอาชีพค้าขายตามงานต่างๆ จนกระทั่งเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมเข้าจับกุมดังกล่าว

แต่ทางผู้ต้องหาให้การในชั้นจับกุมว่าไม่มีเจตนาที่จะหลบหนีลูกแชร์ เพียงแต่มาขายของ เพื่อนำเงินที่ได้ไปชดใช้ให้แก่ลูกแชร์ที่ยังไม่ได้รับเงินจากการเล่นแชร์จากตนเท่านั้น

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส