สรุปให้แล้ว วิธีการยื่นภาษีเงินได้บุคคลออนไลน์ ปี 65 แบบง่ายๆ

5 ม.ค. 66

เตรียมตัวจะได้ไม่พลาด!! เช็กวิธีการยื่นภาษีเงินได้บุคคลออนไลน์ปี 65 แบบง่ายๆ ได้ที่นี่

 

เริ่มแล้วกับเทศกาลยื่นภาษีเงินได้ หน้าที่สำหรับคนไทยทุกคนที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือคนทำงานฟรีแลนซ์ คือการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  ซึ่งต้องยื่นเงินได้ปี 2565  ภายในวันที่ 1 มกราคม-8 เมษายน 2566 เชื่อว่าแน่นอนมีหลายคนที่เป็นมือใหม่ ที่ต้องยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นครั้งแรก

 

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ออนไลน์ขอสรุป วิธีการภาษีออนไลน์แบบง่ายๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมยื่นภาษี ในปีนี้ มาเช็คความพร้อมและขั้นตอนก่อนยื่นภาษี กันดีกว่า

 

  • ก่อนอื่นให้เรามารู้จักคำนิยามของคำว่า “ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา”?

 

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ภาษีที่จัดเก็บจากบุคคลทั่วไป หรือจากหน่วยภาษีที่มีลักษณะพิเศษ ตามที่กฎหมายกำหนด และมีรายได้เกิดขึ้น ตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยปกติจัดเก็บเป็นรายปี รายได้ท่ีเกิดขึ้นในปีนั้นๆ ผู้มีรายได้มีหน้าที่ต้องนำไปแสดงรายการตนเอง ตามแบบแสดงรายการภาษีที่กำหนดภายในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป

 

  • แล้วใครบ้างที่มีหน้าที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา?

 

คนไทยทุกคนที่มีรายได้พึงประเมินถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ มีหน้าที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบ่งเกณฑ์ตามสถานะโสดและสมรส โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

  1. คนโสดที่มีรายได้เป็นเงินเดือนตั้งแต่ 10,000 บาท ต่อเดือน (ภ.ง.ด. 91) หรือ 120,000 บาท ต่อปี รวมถึงคนโสดที่มีรายได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน (ภ.ง.ด. 90) ตั้งแต่ 5,000 บาท ต่อเดือน หรือ 60,000 บาท ต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่นภาษี

 

  1. คนที่สมรสแล้วที่มีรายได้เป็นเงินเดือน (ภ.ง.ด. 91) ตั้งแต่ 18,333 บาท ต่อเดือน หรือ 220,000 บาท ต่อปี รวมถึงคนที่สมรสแล้วที่มีรายได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน (ภ.ง.ด. 90) ตั้งแต่ 10,000 บาท ต่อเดือน หรือ 120,000 บาท ต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่นภาษี

 

 

โดยปกติการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะยื่นปีละ 1 ครั้ง ภายในวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม ของปีถัดไป เช่น รายได้เกิดขึ้นในปี 2565 (ปีภาษี 2565) ต้องยื่นภาษีภายในวันที่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค. 2566

 

หากเป็นเงินได้บางลักษณะ เช่น การให้เช่าทรัพย์สิน เงินได้จากวิชาชีพอิสระ เงินได้จากการรับเหมา เงินได้จากธุรกิจ การพาณิชย์ เป็นต้น จะต้องยื่นภาษีตอนกลางปี ภายในเดือนกันยายนของทุกปี

 

  • ต้องใช้เอกสารใดในการยื่นภาษีบ้าง?

 

  1. หนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ใบ 50 ทวิ) โดยเป็นเอกสารที่แสดงถึงรายได้รวมทั้งปี หลังจากหักชำระกองทุน หรือเงินทุนสำรองต่างๆ
  2. รายการลดหย่อนภาษีที่รวบรวมไว้ทั้งปี เช่น ค่าเลี้ยงดูบิดา-มารดา ค่าเลี้ยงดูบุตร เป็นต้น
  3. เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษีเพื่อประกอบการกรอกแบบฟอร์มยื่นภาษี เช่น จำนวนเงินที่ซื้อกองทุน เบี้ยประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าหรือบริการ เป็นต้น

 

 

  • วิธีการยื่นภาษีออนไลน์แบบง่ายๆ

 

1.เข้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากร

เข้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากร คลิก และเลือก “ยื่นแบบออนไลน์” หากท่านใดยังไม่มีบัญชีให้กด “สมัครสมาชิก” ก่อน โดยระบบจะให้กรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน (เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร) วันเดือนปีเกิด เลขหลังบัตรประชาชน ที่อยู่ อีเมล พร้อมสร้างรหัสผ่านเพื่อใช้ในการเข้าสู่ระบบ E-filing สำหรับยื่นภาษีออนไลน์

 

ยื่นภาษีออนไลน์

 

2.เข้าสู่ระบบ E-filing ของกรมสรรพากร

เข้าสู่ระบบ E-filing โดยการกรอกเลขบัตรประชาชนในช่องชื่อผู้ใช้งาน พร้อมกรอกรหัสผ่าน และกด “ตกลง” จากนั้นยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP 6 หลัก ผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือ

 

แบบยื่นภาษีเงินได้2

 

3.เลือกยื่นแบบภาษีเงินได้ ภ.ง.ด. 90/91

อ่านและยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขในการใช้บริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร จากนั้นกด “เข้าสู่ระบบ” และเลือก “ยื่นแบบ” ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90/91

 

แบบยื่นภาษีเงินได้

 

4.กรอกข้อมูลผู้เสียภาษี

ตรวจสอบข้อมูลผู้เสียภาษี ได้แก่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด และสถานที่ติดต่อ จากนั้นเลือกสถานะ และกด “ถัดไป”

 

แบบยื่นภาษีเงินได้3

 

5.กรอกเงินได้

กรอกข้อมูลรายได้จากเงินเดือน โดยนำข้อมูลมาจากหนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) พร้อมกรอกเลขผู้จ่ายเงินได้ (เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของบริษัทที่เราทำงานอยู่)

 

ทั้งนี้สำหรับคนที่เปลี่ยนที่ทำงานระหว่างปีให้ขอหนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) กับที่ทำงานเก่าเพื่อนำมากรอกข้อมูลยื่นภาษีเงินได้

และหากใครมีรายได้อื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินเดือน เช่น รายได้จากฟรีแลนซ์ รับจ้างทั่วไป และวิชาชีพอิสระ, รายได้จากทรัพย์สิน และการทำธุรกิจ, รายได้จากการลงทุน และรายได้จากมรดกหรือได้รับมา ให้กรอกข้อมูลลงไปด้วย

หลังจากกรอกข้อมูลเงินได้เรียบร้อยแล้วให้กด “ถัดไป”

 

แบบยื่นภาษีเงินได้4

 

6.กรอกค่าลดหย่อน

กรอกข้อมูลค่าลดหย่อนต่าง ๆ ที่มี เช่น ค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดา-มารดา ค่าลดหย่อนบุตร เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสมทบกองทุนประกันสังคม เบี้ยประกันชีวิต เบี้ยประกันสุขภาพ จำนวนเงินที่ซื้อกองทุน SSF-RMF และเงินบริจาค เป็นต้น

หลังจากกรอกข้อมูลค่าลดหย่อนเรียบร้อยแล้วให้กด “ถัดไป”

 

แบบยื่นภาษีเงินได้5 

 

7.ตรวจสอบข้อมูล

ตรวจสอบข้อมูลเงินได้และค่าลดหย่อนทั้งหมดที่ได้กรอกไป โดยระบบจะทำการคำนวณภาษีที่ต้องชำระให้อัตโนมัติ ซึ่งหากมีการชำระภาษีไปแล้วระบบจะแจ้งยอดที่ชำระเกิน โดยสามารถขอคืนภาษีที่ชำระเกินได้ รวมถึงนำเงินภาษีที่ชำระเกินไปอุดหนุนพรรคการเมืองได้

หลังจากตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดเรียบร้อยแล้วให้กด “ถัดไป”

 

8.ยืนยันการยื่นแบบ

เมื่อตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนแล้ว กด “ยืนยันการยื่นแบบ” เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผ่านช่องทางออนไลน์

 

แต่ทั้งนี้หากไม่สะดวกยื่นภาษีผ่านระบบออนไลน์ ก็สามารถยื่นได้ที่สำนักงานสรรพากรทุกพื้นที่ หรือส่งเอกสารให้หน่วยงานบริษัทที่สังกัดยื่นให้เช่นกัน ส่วนกรณีผู้ที่จะยื่นเอกสาร เสียภาษีแบบกระดาษ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 นี้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส