รวม 5 เหตุการณ์เด่น “การเมืองไทย” ฝ่ามรสุมปีเสือ มีทั้งแบบฉบับทุลักทุเล แฮปปี้คละเคล้ากันไปหลากหลายรสชาติ ตั้งแต่ต้นปียันปลายปี
ผ่านปีเสือมาแล้ว สำหรับ “การเมืองไทย” ในปี 2565 ทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี ออนไลน์” ขอนำเสนอ 5 เหตุการณ์เด่นในรอบปี ที่มีทั้งความทุลักทุเล แฮปปี้ เชือดเฉือน คละเคล้ากันไปหลากหลายรสชาติ ได้แก่
- ศึกซักฟอกครั้งสุดท้าย
ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ระหว่างวันที่ 19-22 ก.ค. 2565 ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ มีรัฐมนตรี 11 คนถูกเชือด นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่พรรคฝ่ายค้านให้เหตุผลว่า บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด และมีพฤติกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง จนประเทศตกต่ําอย่างถึงที่สุดในทุกด้าน
แม้ภาพรวมศึกซักฟอกงวดนี้ จะดูไม่ดุเดือดเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา แต่ก็ไม่วายเกิดวิวาทะฟาดฟันกันไปมาระหว่างรัฐบาล กับตัวจี๊ดฝ่ายค้าน ที่บิ้วอารมณ์สรรหาคำพูดมาปลุกเร้าเล่นงาน พร้อมขนพร๊อพมาประกอบฉากมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกระจก ดอกไม้จันทน์ เตาอั้งโล่ พัดสาน เป็นสีสันให้ชวนหายง่วงได้ชั่วคราว บทสรุปแล้ว “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ของสาม ป. ได้คะแนนไว้วางใจมากสุด เพราะมีคะแนนเสียงจาก ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยร่วมด้วย ส่วนเสียงโหวตไม่ไว้วางใจมากที่สุด คือ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พี่รองของสาม ป. เพราะโดน ส.ส.ปากน้ำ พรรคพลังประชารัฐยกมือโหวตสวด ทำเอาเกิดเสียงฮือฮาไปพักใหญ่ ขณะที่ “อู๊ดด้า” นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้รับเสียงไว้วางใจบ๊วยสุด เพราะลูกพรรคประชาธิปัตย์เองยกมือสวนมติพรรค เรียกได้ว่าศึกซักฟอกครั้งนี้ก็พอจะทำให้เห็นภาพการเมืองออกว่าอนาคตใครจะไปพรรคไหน ใครจะร่วมงานกับใครอย่างไร โปรดติดตามกันต่อไปค่ะท่านผู้ชม
- สนามเลือกตั้งพ่อเมืองกรุงเทพฯ
เป็นการเลือกตั้งที่คนกรุง นับนิ้วรอคอยมายาวนานถึง 9 ปีเต็ม เรียกได้ว่าพรรคการเมืองเบิ้มๆ ของไทย หมายมั่นปั่นมืออยากจับจองเป็นเจ้าของพื้นที่ ต่างก็ส่งตัวเกร็ง เป็นผู้เข้าประกวด คัดสรรความเพียบพร้อม ด้วยคุณวุฒิ และวัยวุฒิ แต่ที่ดูแล้วนำโด่ง ตั้งแต่ยังไม่ออกตัว ก็หนีไม่พ้น “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ดีกรีอดีต รมว.คมนาคม เจ้าของฉายาผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ที่เขาเคลมว่าเตรียมตัวมาตั้ง 2 ปี จนผลการเลือกตั้งออกมาชนะถล่มทลายครองใจคนกรุง
ช่วงแรกไม่ว่าจะทำอะไรก็ถูกหยิบเอามาทำเป็นไวรัล โดยเฉพาะวลี “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” ผ่านไปได้ยังไม่ถึงปี แถมทำงานผ่านมาครึ่งปี ผลโพลจากคนกรุงส่วนใหญ่ก็ให้คะแนน “ผู้ว่าฯชัชชาติ” สอบผ่าน แต่ต้องรอดูว่าระยะเวลาที่เหลือ จะเอาใจคนกรุงอยู่มัดต่อไปหรือไม่
- ลุ้น 8 ปี เก้าอี้นายกของ “ลุงตู่”
เรื่องนี้ฝ่ายค้านเป็นตัวตั้งตัวตี และคิดว่านี่แหละคือ “หมัดเด็ด” สุดท้ายที่จะน็อค “บิ๊กตู่” คาเก้าอี้ผู้นำประเทศไทย จึงยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และก่อนหน้าผลวินิจฉัยจะออกมา ก็ล้วนมีแต่โหน ที่ไม่ใช่โหร ออกมาทำนายทายทักว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่ก็มีนักวิชาการชำแหละผลออกมาเป็น 3 แนวทาง สุดท้ายแล้ว ณ วันฟังผลการวินิจฉัย “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ ยังไม่ครบ 8 ปี เพราะนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญประกาศบังคับใช้ ไม่นับรวมก่อนหน้านี้ ดังนั้นเหลือเวลาอีก 2 ปี เรียกได้ว่า ยังไม่หมดอายุขัยความเป็นนายกรัฐมนตรี เส้นทางจากนี้โจทย์ยากคือ “บิ๊กตู่” จะหาเสียงอย่างไร เพราะนายกฯ เขาต้องเป็นผู้นำรัฐบาลถึง 4 ปี แบบนี้ไม่รู้จะใช้ทฤษฎีไหน พี่ครึ่งหนึ่ง น้องครึ่งหนึ่งหรือไม่ แต่มันก็ยังไงๆ อยู่นะ
- “อุ๊งอิ๊ง” ผงาดแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย
ค่อยๆ ซึบซับขยับเป็นสเต็ปทำงานการเมือง สำหรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร “อุ๊งอิ๊ง” ลูกสาวคนสุดท้องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตอนนี้พรรคเพื่อไทย ชูให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค แรกเริ่มฮือฮาเข้ามาเป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ก่อนจะผงาดขึ้นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อยู่แถวหน้าอย่างเต็มตัว ดูแรกๆ ก็จะเขินๆ เวที แต่ออกงานบ่อยๆ ก็เชี่ยวชาญ จังหวะจะโคนเป๊ะๆ แม้ว่าตอนนี้เจ้าตัวจะกำลังอุ้มท้องลูกคนที่สองอยู่ แต่ก็ยืนยันแล้วว่าจะไม่ทิ้งงานการเมือง แต่อนาคตจะไปถึงขั้นไหน ต้องรอดูกันต่อไป
ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอื่น เดือน ธ.ค.นี้ เหล่าบรรดา ส.ส.ทยอยลาออกอย่างคึกคัก แบบฉบับลาก่อนบ้านเก่า ไปเปิดตัวบ้านใหม่ พร้อมรับใช้ประชาชนสมัยหน้า เป็นปรากฎการณ์ปกติของช่วงปลายสมัยรัฐบาล และช่วงปลายสมัยสภาฯ แต่ดูแล้วบ้านที่คึกคักที่สุด มีแต่คนไหลเข้าๆ คงหนีไม่พ้น “ภูมิใจไทย”
- ฟุ้งผลงาน เอเปค เอใจ 2022
การประชุม “ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022” เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นความภาคภูมิใจของรัฐบาล และเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศ ท่ามกลางความสําเร็จอันเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน จนได้รับความชื่นชมจากผู้เข้าร่วมประชุมเป็นอย่างมาก สร้างความประทับใจให้กับผู้นำหลายประเทศ ส่งผลดีต่อประเทศไทยในทุกมิติ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว อาหารการกิน ของที่ระลึก และวัฒนธรรมที่ดีงาม เป็นเอกลักษณ์ของคนไทย ส่งผลให้ได้รับความร่วมมือต่อเนื่องหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือระหว่างเขตเศรษฐกิจเอเปคให้ตอบโจทย์ความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิกเผชิญอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงการถอดบทเรียนผลกระทบจากวิกฤตโควิด–19 เพื่อมุ่งหน้าขับเคลื่อนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่งเสริมการเติบโตในระยะยาวที่สมดุล ยั่งยืน และครอบคลุม อีกทั้งเรื่องแรงงานไทยในต่างประเทศ เกิดอานิสงส์เกาหลีเพิ่มโควตาให้แรงงานไทยได้เข้าไปทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ หรือแม้กระทั่งซาอุดิอาระเบียเองก็ตาม ที่เปิดใจให้กับประเทศไทยมากขึ้น
ที่ดูแฮปปี้สุดๆ คงเป็น ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส หนึ่งในแขกพิเศษของรัฐบาล ใช้เวลาระหว่างเยือนไทยสัมผัสซอฟพาวเวอร์ไทยอย่างใกล้ชิด ทั้งเดินเยาวราช แหล่งสตรีทฟู้ด ไปดูมวยไทย เยี่ยมวัดโพธิ์–ชมพระพุทธไสยาสน์ เยือนพิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สัน ส่วนนายกฯ สิงคโปร์ ลี เซียนลุง โพสต์คลิปวิดีโอเพลงไทย ประทับใจเอเปคมากๆ แขกปลื้มปริ่ม ไทยเราก็อิ่มเอมใจจ้า
