"จุรินทร์" ชี้ไร้สัญญาณยุบสภาจากนายกฯ แต่การเมืองไม่เเน่นอน

11 ธ.ค. 65

"จุรินทร์" ชี้บริหารเสียงในสภาฯหน้าที่ "บิ๊กตู่" ส่วนหนึ่ง ไร้สัญญาณยุบสภา แต่การเมืองไม่เเน่นอน ปลุก ปชช.ไม่เลือกผู้สมัครขายตัว  

วันที่ 11 ธ.ค. 65 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นห่วงถึงองค์ประชุมสภาฯ ว่า เป็นเรื่องที่ต้องรับฟัง องค์ประชุม เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาทุกฝ่าย สำหรับพรรคประชาธิปัตย์มีปัญหา ทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือ

นายจุรินทร์ กล่าวถึงกรณีนายชวน ให้นายกฯไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาองค์ประชุมสภาฯล่มว่า เรื่องนี้ก็เป็นหน้าที่ของนายกฯ ส่วนหนึ่งด้วยในฐานะที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร หากนายกฯ จะช่วยกำชับด้วยอีกแรงหนึ่ง จะเป็นเรื่องที่ดี พรรคประชาธิปัตย์เรารู้หน้าที่ดี แต่ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร ก็ต้องถือว่า ในระบบรัฐสภาต้องให้ความร่วมมือกับรัฐสภา ทำให้งานทุกอย่างไปได้ด้วยความราบรื่น ฝ่ายบริหารต้องพึ่งรัฐสภา นอกจากพึ่งแล้ว ต้องกำชับในเรื่องของเสียงสนับสนุนรัฐบาลในสภา ให้เพียงพอด้วยในการที่จะผ่านร่างกฎหมาย

เมื่อถามถึงกระแสการยุบสภาที่แรงขึ้นเรื่อยๆ ได้รับสัญญาณอะไรแล้วหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่มีสัญญาณอะไรจากนายกฯ แต่การเมืองมันไม่แน่นอน อย่างที่นายชวนพูดไว้ ตนเห็นด้วย 100% มันไม่มีหลักประกันอะไรว่าอุบัติเหตุมันจะเกิดหรือไม่เกิด หรือมันจะเกิดตอนไหน ทุกฝ่ายต้องเตรียมพร้อม พรรคการเมืองต้องเตรียมพร้อม โดยเฉพาะใกล้เดินหน้าไปสู่การครบวาระของสภาฯสมัยนี้ มันอาจจะครบ หรือไม่ครบ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ทั้งหมด เป็นสิ่งที่ตนคิดว่าทุกพรรคก็ต้องเตรียมตัว ประชาชนก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายจุรินทร์ กล่าวว่า มีเรื่องที่น่าห่วงอีกเรื่องที่สังคมจะต้องตระหนักติดตามใกล้ชิด ก็คือเรื่อง ธนกิจการเมือง อันตรายมาก ทำลายประเทศมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว การประมูลตัว ส.ส. ตัวผู้สมัคร สุดท้าย เป็นที่มาของการถอนทุน การทุจริต คอร์รัปชั่น ทำลายประเทศ ประชาธิปไตย คนไทยทั้งประเทศต้องไม่เลือกนักการเมืองที่คนอื่นเขามาประมูลตัวได้ ขออนุญาตฝากไว้ ให้ทุกฝ่ายช่วยกันตระหนักเป็นพิเศษ ห่วงภัยคุกคามใหญ่ระบอบประชาธิปไตย ณ เวลานี้  ประวัติศาสตร์มันสอนเรา  ธนกิจการเมืองรุ่งเรืองเมื่อไหร่ ใช้เงินประมูลตัว ส.ส. เมื่อไหร่ ใช้เงินเป็นปัจจัยหลักในการซื้อตัวคนนั้นคนนี้มาลงรับเลือกตั้ง ทุ่มเทเงินมหาศาล สุดท้ายถอนเงินคืนทุจริตกันบานเบอะ ไม่อยากเห็นสิ่งนี้เกิดอีก ไม่เช่นนั้นการคอร์รัปชั่น การถอนทุนคืน จะกลายเป็นเงื่อนไขกล่าวอ้าง นำไปสู่สิ่งที่เราไม่อยากเห็นเกิดขึ้นอีก ไม่อยากให้ย้อนยุคกลับไปอีก ประชาชนต้องติดตาม ไม่สนับสนุนสิ่งนี้ ใครที่ถูกประมูลตัวซื้อไป ก็ต้องไม่เลือก

นายจุรินทร์ กล่าวว่ถึงกรณีมีสมาชิกพรรคลาออก เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้สมัครของพรรคว่า เคยพูดไปแล้วว่า แต่ละคนก็มีสาเหตุที่แตกต่างกัน เมื่อพรรคตัดสินใจส่งนาย ก แล้วนาย ข ไม่ได้รับการพิจารณา ก็เป็นสิทธิ์ของ นาย ข ที่จะย้ายพรรค หากเขาประสงค์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งอีก เรื่องปักษ์ใต้ สะท้อนข้อนึงว่า ความนิยมของพรรคยังดีอยู่ มั่นใจว่าดีขึ้นเป็นลำดับ ถึงมีคนแย่งกันลง เมื่อมีคนแย่งกันลง ปัญหาใหม่ก็ตามมา การเมืองมี 2 ด้านเสมอ 1. สะท้อนว่าพรรคมีคะแนนนิยมดี มีคนอยากลง เขตนึงมีคนสนใจแย่งกันลง 2 คน 3 คน แต่มันก็จะมีอีกมุมคือ คนที่พรรคไม่ตัดสินใจเลือกให้ลงก็อาจจะไม่พอใจ ก็ต้องไปอยู่พรรคอื่น อันนี้เป็นปรากฎการณ์ทางการเมืองปกติ เกิดได้กับทุกพรรค

ผู้สื่อข่าวถามถึงความเหนียวแน่นระหว่างพรรคร่วม โดยเฉพาะเรื่องกฎหมายกัญชา นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหา  การทำงานร่วมกันในฐานะรัฐบาลผสม เราจึงรู้หน้าที่ดี  กรณีกัญชานั้น มันไม่ใช่เรื่องของกฎหมายรัฐบาล แต่เป็นเรื่องกฎหมายพรรคการเมือง เป็นนโยบายเฉพาะของบางพรรค ต้องเคารพในนโยบายของเขา แต่จะให้ทุกพรรคร่วมรัฐบาลมาเคารพนโยบายของพรรคการเมืองเฉพาะพรรค มันจะไปกะเกณฑ์อย่างนั้นไม่ได้เสมอไป เว้นแต่ว่าเป็นนโยบายรัฐบาล  เรื่องกัญชา นโยบายรัฐบาลชัดอยู่แล้ว แถลงต่อรัฐสภาผูกพันไปชัดเจนแล้วว่า สนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์ ถ้าเป็นเศรษฐกิจ ก็เป็นเศรษฐกิจเพื่อการแพทย์เท่านั้น ไม่มีเรื่องเสรี ไม่มีเรื่องสันทนาการ หรือนันทนาการ ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ก็เดินไปตามแนวนี้ อะไรที่นอกเหนือไปจากขอบเขตอันนี้เราก็เป็นสิทธิ์ในการที่เราจะไม่เห็นด้วยได้ มันไม่ใช่นโยบายรัฐบาล เป็นแค่นโยบายพรรคการเมือง หรือบางพรรคการเมือง หรือจะเป็น หรือไม่เป็น ก็สุดแล้วแต่ พรรคประชาธิปัตย์มีหลัก มีเกณฑ์ในการพิจารณาตัดสินใจ ที่ถามว่าแล้วในฐานะพรรคร่วมมีปัญหามั้ย ไม่มี เราแยกออกว่าอันไหนนโยบายรัฐบาล อันไหนไม่ใช่นโยบายรัฐบาล

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส