เสี่ยร้านทองโชว์แม่นปืนสยบลือขึ้นแท่นแชมป์ งัดหลักฐานสู้โจรส่อรอดคุก (คลิป)

9 ธ.ค. 65

จากกรณีเหตุคนร้าย 4 คน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนเข้าปล้นร้านทอง โดยเจ้าของร้านได้ใช้ปืนยิงสวน จนคนร้ายบาดเจ็บ 1 ราย คือ นายวิชัย แซว่าง อายุ 32 ปี

628019517748

และตำรวจสามารถติดตามจับกุมได้ 1 ราย คือ นายเต้อ แซ่ท้าว ส่วนอีก 2 คน หลบหนีไปได้คือ นายต้ายี และ นายกิ้งกู้ เหตุเกิดที่ร้านทองในเมือง จ.ตาก เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 65 โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ต่างวิจารณ์ถึงกรณีการยิงคนร้ายของเจ้าของร้านทองที่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

611314

ล่าสุดวันที่ 9 ธ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ร้านทองจุดเกิดเหตุ นายพิสิฐ ระพิทย์พันธ์ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านทอง กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าตัวเองยิงปืนออกไปทั้งที่คนร้ายวิ่งออกไปแล้วเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ยืนยันว่าเป็นการยิงป้องกันตัว

902827340828245860

และตนก็ไม่ใช่นักแม่นปืนตามที่มีข่าว และภาพที่มีการแชร์กันในโลกออนไลน์และสื่อต่าง ๆ ทั้งภาพปืนและภาพถ้วยรางวัลไม่ใช่ภาพจากร้านตน

748331233535

ที่ผ่านมาแค่เคยฝึกยิงปืน แต่ไม่เคยแข่งขันได้รางวัล ยอมรับว่ากังวลเมื่อมีข่าวออกมาก็พูดไม่ออก ซึ่งตนก็กลัวแต่อาชีพเปิดร้านขายทองต้องระมัดระวังให้ถึงที่สุด โดยทราบว่าหลังจากนี้จะต้องเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องการใช้อาวุธปืนยิงคนร้ายด้วย ซึ่งก็มีปรึกษาทนายไว้เบื้องต้นแล้ว

525758

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่สนามยิงปืนมณฑลทหารบกที่ 310 ซึ่งเป็นสถานที่ซ้อมยิงปืน นายพิสิฐ ระพิทย์พันธ์ เจ้าของร้านทองและภรรยามาซ้อมยิงปืนเป็นประจำ พ.ต.กิตติ เกิดผล ครูฝึกสอนยิงปืน ได้นำปืนลูกซองและลูกกระสุนมาให้ทีมข่าวดู

346049

พร้อมระบุว่า เป็นอาวุธปืนชนิดเดียวกับของ นายพิสิฐ แต่เป็นคนละรุ่น เพราะปืนที่นายพิสิฐใช้เป็นปืนลูกซองระบบอัตโนมัติ ยี่ห้อ Benelli M4 (เบนาลรี่ เอ็มโฟร์) ราคาประมาณ 80,000 บาท ปืนชนิดนี้สามารถบรรจุกระสุนได้ประมาณ 5 นัด หรือ 8 นัด แล้วแต่แมกกาซีน แต่ละนัดเมื่อยิงออกไปจะแตกออกเป็นลูกเล็ก ๆ อีกหลายลูกแล้วแต่ขนาด ฉะนั้นความแม่นยำในระยะใกล้จึงค่อนข้างสูง

181683

พ.ต.กิตติ กล่าวว่า นายพิสิฐมาฝึกหลักสูตรการใช้อาวุธปืนเบื้องต้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว หลังจากนั้นรู้สึกชื่นชอบประกอบกับเจ้าตัวเปิดร้านทองจึงตัดสินใจซื้ออาวุธปืน ซึ่งตอนแรกก็ใช้ปืนสั้น หลังจากนั้นก็มาเรียนหลักสูตรต่อสู้เพิ่มเติม ซึ่งตนก็นำปืนลูกซองมาให้ลองยิง และแนะนำไปว่าหากใช้ลูกซองโอกาสหวังผลจะมากกว่าใช้ปืนสั้น เพราะลูกปืนจะแตกออกเป็นหลายเม็ดไม่เหมือนปืนสั้นที่ยิงได้ที่ละนัดเท่านั้น นายพิสิฐก็ตัดสินใจซื้อปืนลูกซองเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา

217318

โดยตนดูจากคลิปเหตุการณ์ ยืนยันว่า ลูกศิษย์คนนี้ใช้อาวุธปืนตามยุทธวิธีที่ได้สอนไป เพราะนัดแรกที่ยิงออกไปเป็นการยิงขึ้นเพดาน สาเหตุเพราะภัยใกล้จะถึงตัวแล้ว หากโจรตัดเหล็กเข้ามาได้ก็อาจจะอันตรายถึงชีวิต

949465

ยืนยันว่า การยิงแต่ละนัดก็ไม่ได้หวังผลเพราะยิงระดับเอว ลักษณะยิงไล่โดยนัดที่ 2 และ 3 เป็นการยิงสุ่ม แต่นัดที่ 4 ยิงออกไปเพราะคนร้ายหันปืนกลับเข้ามาในร้าน ซึ่งนัดนี้ก็โดนหนึ่งในคนร้ายได้รับบาดเจ็บ ส่วนนัดที่ 5 เป็นการยิงไล่ออกไป ส่วนตัวมองว่าไม่ได้ยิงแบบหวังผลเพราะหากเล็กเป้าจริงในระยะไม่เกิน 10 เมตร ไม่น่าพลาดเป้าคนร้ายเสียชีวิตแน่นอน ด้วยประสิทธิภาพของอาวุธปืนและความแม่นยำของเจ้าของร้าน

424782

กรณีที่มีการดราม่าว่าทำเกินกว่าเหตุ ตนมองว่าไม่ใช่แบบนั้น เพราะหากดูภาพดี ๆ คนร้ายยังเล็งปืนมาที่ร้านตอนวิ่งออกไป เจ้าของร้านจึงต้องลั่นปืนออกไปเพื่อป้องกันตัวเพราะภัยยังไม่พ้นตัว และนัดที่ 5 ต้องยิงไล่เพราะทั้งหมดยังไม่ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป

ส่วนตัวไม่ได้ห่วงลูกศิษย์ รู้ว่าน่าจะต้องมีการแจ้งข้อหาเบื้องต้น แต่สามารถแก้ต่างได้ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าเจ้าของร้านได้รางวัลนั้น ไม่ได้เป็นความจริง เพราะนายพิสิฐไม่เคยลงแข่งขัน แต่มาฝึกซ้อมประจำเป็นคนยิงปืนได้ดีในระดับหนึ่ง และนายพิสิฐก็เป็นคนใจเย็น ไม่ได้อารมณ์ร้อนแต่ชอบเล่นปืน

635452

ด้าน นายแมน (นามสมมติ) บุรุษพยาบาลที่ทำการช่วยชีวิต นายวิชัย แซ่ว่าง ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตัวเองและแฟนสาวซึ่งเป็นพยาบาล ได้ขับรถกำลังจะเข้ามาโรงพยาบาลเพื่อทำงาน พอขับผ่านที่เกิดเหตุเห็นชาวบ้านกำลังมุงดูผู้บาดเจ็บที่ถนนหน้าร้านทองอยู่ โดยชาวบ้านบอกว่าชายรายดังกล่าวโดนยิง ตัวเองเห็นว่าเป็นคนไข้ที่ได้รับบาดเจ็บจึงเข้าไปช่วยเหลือ ก็เห็นชายรายดังกล่าวนอนคว่ำหน้า มีเลือดที่สะโพกและอวัยวะเพศ

832047

จากนั้นตัวเองได้พลิกตัวขึ้นมาแล้วจับชีพจรก็พบว่าชีพจรไม่เต้น ตัวเองจึงทำการปั๊มหัวใจชายคนดังกล่าวจึงหายใจเฮือก ๆ แต่ไม่สามารถพูดคุยอะไรได้ พอรถโรงพยาบาลมารับตัวผู้บาดเจ็บถึงโรงพยาบาลแล้วทำการรักษาเบื้องต้นก็พบว่าหัวใจชายคนดังกล่าวกลับมาเต้นแล้ว แต่ก็ยังถือว่าไม่ได้อยู่ในอาการที่พ้นขีดอันตราย ยอมรับว่าตอนที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บตอนนั้นตัวเองไม่รู้ว่าเขาเป็นคนร้ายมาก่อน

972324

ส่วนกรณีที่โซเชียลฯ คอมเมนต์ทำนองว่า ตัวเองไปช่วยคนร้ายทำไม ทำไมไม่ปล่อยให้คนร้ายเสียชีวิตนั้น ตัวเองมองว่าตัวเองเป็นพยาบาลมีหน้าที่ช่วยเหลือคนป่วย ไม่ว่าคนป่วยจะเป็นโจรหรือคนร้าย ตัวเองก็น้องช่วยเหลือเขาอยู่ดี ตอนนี้ญาติของ นายวิชัย ก็ยังไม่ได้มาติดต่อขอเยี่ยมแต่อย่างใด ส่วนอาการของ นายวิชัย ก็ยังคงทรงตัว รู้สึกตัวแล้ว แต่ยังไม่ตอบสนองตามคำสั่งของแพทย์ และรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู

384803

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดที่ นายเต้อ แซ่ท้าว ผู้ต้องหา วิ่งไปหลบในพงหญ้า ก่อนถูกตำรวจจับกุมได้ ซึ่งจุดนี้อยู่ในซอยห่างที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ลักษณะเป็นพงหญ้าขึ้นรก มีต้นไม้เป็นพุ่มเตี้ย ๆ อยู่ด้านใน ซึ่ง นายเต้อ เข้าไปซ่อนตัวก่อนตำรวจจะติดตามจับกุมได้

ขณะที่กล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเวลา 13.03 น. จับภาพ นายเต้อ เดินเข้าไปหลบในพุ่มไม้ เวลา 13.25 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเข้าไปคุมตัวนายเต้อออกมาสำเร็จและนำตัวขึ้นรถออกไป

250072242345

นอกจากนี้กล้องวงจรปิดบริเวณ 3 แยกข้างวัดท่านา อ.เมือง จ.ตาก ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร จับภาพคนร้าย 2 คน ที่ยังหลบหนีคือ นายต้ายี และ นายกิ้งกู้ ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางบ้านหนองบัวใต้ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งเส้นทางนี้เป็นถนนเลียบแม่น้ำปิง มุ่งหน้าไปได้หลายทาง

201642

เวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตาก คุมตัว นายเต้อ แซ่ท้าว ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยมีการจำลองให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใส่หมายเลขที่หน้าอก สมมติเป็นคนร้ายที่เหลืออีก 3 คน

จุดแรกด้านข้างร้านทองที่เกิดเหตุนายเต้อและผู้ก่อเหตุรวม 4 คน จอดรถรอจังหวะ จากนั้นทั้งหมดขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดข้างร้านที่เกิดเหตุ ซึ่ง นายเต้อ ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่ 2 โดยมี นายกิ้งกู้ เป็นคนขับ ตอนนี้หลบหนีอยู่ ส่วนรถคันแรกนายวิชัยเป็นคนขับ นายต้ายี เป็นคนซ้อน หลบหนีอยู่

โดย นายต้ายี เป็นคนยิงประตูจนกระจกแตก จากนั้นเดินไปถีบประตู แล้วทั้ง 4 คน เดินเข้าไปในร้าน นายเต้อ นำเครื่องเจียรตัดลูกกรงเหล็กตรงหน้าเคาท์เตอร์ ส่วน นายกิ้งกู้ ถือปืนยืนคุมเชิง ส่วน นายวิชัย ไม่มีปืนยืนอยู่ข้าง ๆ

157516

จากนั้นช่วงที่เจ้าของร้านยิงสวนออกมา ทั้งหมดวิ่งหนี นายต้ายี วิ่งไปถึงหน้าร้านหันหลังกลับมายิงใส่ร้านทองอีก 1 นัด ก่อนที่นายต้ายี จะขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงินหลบหนีไป โดยมี นายกิ้งกู้ ซ้อนท้ายไปด้วย ส่วน นายเต้อ วิ่งหนีไปหลบในป่าห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ขณะที่ นายวิชัย ถูกยิงได้รับบาดเจ็บนอนกองอยู่กับพื้นหน้าร้านทอง

144559

โดยหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายเต้อ กลับไปที่ สภ.เมืองตาก ทีมข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใด ๆ

167076

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ไปพูดคุยกับ “อาจารย์ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม” อัยการอาวุโสสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ถึงกรณีที่ของเจ้าของร้านทองได้ยิงปืนใส่แก๊งโจร จนทำให้หลาย ๆ คนมองว่าเจ้าของร้านทองทำเกินกว่าเหตุ “อาจารย์ปรเมศวร์” ได้ให้ความเห็นว่า เรื่องนี้มีคนดราม่ากันว่าเป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ ต้องเข้าใจก่อนว่าการป้องกันตัวเพื่อให้พ้นจากภัยอันตราย ถ้าเราดูในกล้องวงจรปิดเริ่มต้นมาคนร้ายใช้ปืนยิงกระจกแล้วก็ถีบเข้ามา นั่นคืออันตรายร้ายแรง ตัวสามีเจ้าของร้านทองบอกภรรยาให้หลบ

ระหว่างที่คนร้ายกำลังตัดกรงเหล็กเจ้าของร้านทองก็ยิงสวนออกไป คนร้ายก็หนีออกไปมันเหมือนจะจบแต่ไม่จบ เพราะคนร้ายก็ยิงสวนกลับมาอีก ตราบใดที่คนร้ายยังไม่พ้นจากหน้าร้านทองถ้าคนร้ายมีมีดไม่มีปืนยิงสวนแบบนั้นคือเกินกว่าเหตุ แต่คนร้ายยิงสวนมีปืน 3-4 กระบอก เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาไม่กลับมายิงเราอีก เพราะฉะนั้นเจ้าของร้านทองเขาก็มีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะป้องกันตัวเอง

178628

ตนอยากบอกสังคมอย่าไปว่าเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกปล้นเลย เพราะคนที่เข้ามาปล้นเขาก็ไม่ได้กลัวตายอยู่แล้ว ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ แต่ถ้ายิงแล้วเขาล้มลงแล้วไปยิงซ้ำแบบนั้นคือเกินกว่าเหตุหลักคิดมีแค่นี้เอง สังคมไปดราม่าเกินไปแทนที่จะดูแลผู้เสียหายกลับไปดูแลคนร้าย ตนอยากให้อ่านกฎหมายให้เป็นดูกฎหมายให้ออก

ตนมองว่าคนที่มองว่าเกินกว่าเหตุ ต้องเข้าใจว่าภาษากฎหมายไม่ใช่ภาษาไทยธรรมดา มันเขียนด้วยภาษาไทยที่บอกว่าจนกว่าภัยอันตรายจะพ้นไป คำถามคือภัยอันตรายจะพ้นไปตอนไหน ตนคิดว่าสังคมมองเรื่องนี้ด้วยความที่ไม่เข้าใจมากกว่า ถ้าเข้าใจหลักกฎหมายสิทธิของทุกคนต้องมี ส่วนที่หลายคนใช้คำว่าสังคมดัดจริตตนไม่กล้าใช้คำนั้น อยากให้มองให้ครบทุกมิติแล้วเราจะอยู่อย่างปลอดภัย คนร้ายจะได้เข้าใจว่าเขาทำแบบนั้นไม่ได้ไปละเมิดสิทธิ์คนอื่นอาจจะเจ็บตัวได้ ย้ำคำว่าไม่เกินกว่าเหตุคือจนกว่าภัยอันตรายจะหมดไป อย่างที่ตนบอกถ้าโจรขับรถออกไปแล้ว แล้วเรายิงถือว่าเกินกว่าเหตุแต่ครั้งนี้คือโจรยังหันหลังกลับมายิง

ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าเจ้าของร้านทองมีความผิดทางกฎหมายไหม ตนคิดว่าไม่ผิดเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ถ้าถามว่าร้านที่ประสบเหตุการณ์แบบนี้ต้องทำอย่างไร แต่ละร้านก็ต้องมีประตูที่รักษาความปลอดภัย หรือต่อไปก็คงจะต้องมีการต่อสู้ได้ จะบอกให้ตำรวจไปเฝ้าร้านทองทั้งวันมันก็ไม่ใช่ อยากให้คิดแบบนี้มากกว่า บอกแค่ว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะป้องกันตนเองแค่นั้นพอ และเข้าใจในข้อกฎหมายให้ชัดกว่านี้ อาจารย์ปรเมศร์ กล่าว 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส