ป้ายิงหัวหลานห่อเสื่อเผาอำพรางแม่ซัดจงใจฆ่า ผัวหนีตายกอดลาส่งคุก (คลิป)

9 ธ.ค. 65

จากกรณีเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 8 ธ.ค. 65 “นายภูเยี่ยม จันสมรสุข” อายุ 45 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ต.คำเลาะ อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์เข้าที่ศีรษะ 1 นัด มีรูกระสุนเข้าที่ใบหน้าด้านซ้าย 2 รู และมีร่องรอยการเผาทำลายศพบนเก้าอี้ไม้ยาวหน้ากระท่อมเพื่ออำพรางคดี

154296
665840

เหตุเกิดบริเวณกระท่อมท้ายหมู่บ้านวังงามพัฒนา หมู่8 ต.คำเลาะ อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ซึ่งผู้ก่อเหตุคือ “น.ส.ปรียาดี จันทร์เหนือ” หรือ “น.ส.น้อย” อายุ 56 ปี ป้าของผู้ตาย 

124754

เบื้องต้น “น.ส.ปรียาดี” รับสารภาพว่าตนเองทะเลาะกับ “นายสองเมือง จรรยาโน” หรือ “นายแก่น” อายุ 52 ปี อดีตสามี เรื่องแบ่งข้าว เพราะจะต้องแบ่งให้เป็นค่าเช่าที่นาทุกปีจะได้ข้าวประมาณ 20 กระสอบ แบ่งเป็น 3 ส่วน ตนจะได้ 1 ส่วน แต่ที่ผ่านมาสามีอ้างว่าจะไม่แบ่งข้าวให้ จึงทะเลาะกันในหมู่บ้านมาแล้ว ครั้งนี้ตนยังคาใจในประเด็นดังกล่าว จึงตัดสินใจมาหาอดีตสามีที่กระท่อมพร้อมถือปืนมาด้วยเพื่อใช้ป้องกันตัว เพราะเป็นเวลากลางคืน ไม่ได้ตั้งใจเอามาก่อเหตุยิงใคร แต่เมื่อไปถึงอดีตสามีไม่คุยด้วยพร้อมกับเดินเข้ากระท่อมไป

cg

ตนจึงเดินไปหา “นายภูเยี่ยม” หลานชายทีนั่งอยู่หน้ากระท่อมอีกหลัง ห่างกันประมาณ 100 เมตร แต่หลานชายก็พูดจาไม่ดีใส่ เหมือนไม่เข้าข้างตน บอกเพียงว่าลุงเอาข้าวไปขายหมดแล้ว ตนได้ยินเช่นนั้นก็เลยโมโหจึงชักปืนออกมาข่มขู่หลานว่าให้พูดจาดี ๆ หลานใช้มือตบมาที่ปืนทำให้ปืนจึงลั่นใส่หน้า ด้วยความตกใจทำอะไรไม่ถูกกลัวความผิดจึงทำการเผาศพเพื่ออำพราง

386080

จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.ปรียาดี ขึ้นรถควบคุมตัวผู้ต้องหาไปส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดอุดรธานี ขณะกำลังจะขึ้นรถมี นายสองเมือง อดีตสามี ได้เข้ามาสวมกอดครั้งสุดท้ายและนำเสื้อผ้าสิ่งของใช้ส่วนตัวให้อดีตภรรยาส่วน น.ส.ปรียาดี ได้ฝากโทรศัพท์มือไว้กับอดีตสามี และทั้งคู่ได้บอกสั่งลาด้วยน้ำตาคลอว่าให้ดูแลบ้านและลูกสาวให้ดี ซึ่งทั้งสองคนก็ได้ให้คำมั่นสัญญากันว่าจะรอจนกว่าจะพ้นโทษออกมา ถึงนานแค่ไหนก็จะรออดีตเมียรัก เพราะในใจทั้งสองคนยังมีความรักต่อกันอยู่ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่ค่อยลงรอยกันและอยู่ด้วยกันมานานเกือบ 30 ปี

433371

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา น.ส.ปรียาดี ใน 4 ข้อหา 1.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 2.ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย 3.พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือตามทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร 4.ทำอันตรายต่อศพให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ต่อศพ โดยผู้ต้องหารับสารภาพคดีไม่มีความซับซ้อน จึงไม่มีการคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลและไม่มีทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

869123

ล่าสุดวันที่ 9 ธ.ค. 65 เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา “นางสอน จันสมรสุข” อายุ 77 ปี แม่ของผู้ตายและเป็นน้าของ “น.ส.ปรียาดี” ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมายังสถาบันนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น พร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งเสริมธรรม จ.อุดรธานี เพื่อนำร่างส่งชันสูตรศพอย่างละเอียด

“นางสอน” ให้สัมภาษณ์กับอมรินทร์ ทีวี ว่าตอนเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะนอนหลับอยู่ที่บ้าน แต่จุดเกิดเหตุเป็นกระท่อมของลูกชายที่สร้างบนที่นาของตน ลูกชายไปสร้างไว้พักอาศัยแค่บางคืน เนื่องจากเขาชอบออกหาปลา ตกปลา หากวันไหนเสร็จดึกก็จะนอนที่กระท่อม บวกกับเดิมที “นายสองเมือง” ก็ได้สร้างกระท่อมอยู่บนที่นาของตนไว้ก่อนแล้ว เพราะที่นาของ “น.ส.ปรียาดี” ประมาณ 3 ไร่ที่ “นายสองเมือง” ทำอยู่ก็อยู่ติดกับที่นาตน

438954

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น ตนบอกว่าเท่าที่รู้ก็เป็นเรื่องของการแบ่งข้าวไม่ลงตัวจริง แต่ “นายสองเมือง” ไม่ได้ห้าม ไม่ให้ “น.ส.ปรียาดี” มาเอาข้าว กลับกันคือที่ผ่านมา “นายสองเมือง” บอกตลอดว่าถ้าอยากได้ข้าวก็มาปันเอาเอง ซึ่งช่วงแรก “น.ส.ปรียาดี” ปฎิเสธว่าจะไม่เอาข้าว คาดว่าภายหลังคงเปลี่ยนใจเกิดอยากได้ข้าวขึ้นมา แต่ “นางสองเมือง” เอาข้าวไปขายหมดแล้ว

และถ้าถามว่านิสัยใจคอของลูกชายเป็นอย่างไร เจ้าตัวบอกว่าเป็นคนไม่สู้คน ไม่เคยมีปัญหาส่วนตัวกับ “น.ส.ปรียาดี” และ “นายสองเมือง” ที่ผ่านมาก็พูดกันดีตลอด อย่างไรตนก็ไม่เชื่อว่า “น.ส.ปรียาดี” ทำปืนลั่นเนื่องจากทะเลาะกับ “นายสองเมือง” แต่มองว่าเป็นการตั้งใจจ่อยิงมากกว่า เพราะตนเห็นสภาพศพลูกชายเมื่อคืนกระสุนเข้าที่หน้าจัง ๆ และมั่นใจว่า “น.ส.ปรียาดี” ตั้งใจจะเผาอำพรางศพด้วย

สุดท้ายถ้าถามว่าอโหสิกรรมให้หรือไม่นั้น เจ้าตัวก็ยังไม่ขอตัดสินใจตอนนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีจนถึงที่สุดก่อน พร้อมกับยอมรับว่าคิดไม่ถึงเหมือนกันว่า “น.ส.ปรียาดี” จะทำแบบนี้ได้ มองเป็นการกระทำที่ใจดำมาก ทั้ง ๆ ที่ตนก็เป็นน้าสาวและผู้ตายก็เป็นหลาน อยากจะถามเหมือนกันว่าทำลงได้อย่างไร

708125

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้าน ซึ่งพบว่าก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.20 น. “นายสองเมือง” ยังเข้ามาซื้อปลากระป๋องกับกะปิที่ร้านค้าชุมชน เพื่อนำไปทำกับข้าวกินกับผู้ตายที่กระท่อมเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าคงเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของผู้ตาย

373339

ขณะที่ “นายสะไกร ฤทธิจรจาก” กำนัน ต.คำเลาะ ซึ่งเป็นคนแรกที่ “นายสองเมือง” วิ่งลัดทุ่งมาแจ้งเหตุว่า มีการเผาบางอย่างกันที่กระท่อม เจ้าตัวเล่าให้ฟังว่าเวลาประมาณ 23.00 น. จู่ ๆ “นายสองเมือง” ก็วิ่งหน้าตั้งมาบอกกับภรรยาตนว่า “มันเผาบ้านแล้ว มันจะฆ่าผม” ตนที่เพิ่งจะกลับมาจากธุระพอดีก็เลยรีบขับ จยย. เข้าจุดเกิดเหตุ

ปรากฏว่าพอไปถึงก็เห็นว่ามีไฟลุกอยู่ที่บริเวณมานั่ง ตอนแรกยังไม่คิดว่าคนถูกเผาจึงเดินเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อจะหาน้ำดับไฟ แต่ปรากฏว่าเหลือบไปเห็นขามนุษย์ตอนนั้นก็ถึงกับผงะ จึงถอยออกมาแล้วรีบโทรขอความช่วยเหลือ ชรบ.หมู่บ้านให้มาช่วยกันเอาน้ำดับไฟ จนไฟมอด ใช้เวลาประมาณ 10 นาที แต่ตอนนั้นผู้ตายก็ถูกเผาเกรียมแล้ว ก็เลยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อตำรวจมาถึง “นายสองเมือง” ก็ให้ข้อมูลตามที่เขาสารภาพกับตำรวจไป ตนก็ชี้จุดบ้านพักของ “น.ส.ปรียาดี” ให้ จึงสามารถเข้าไปจับกุมพร้อมค้นหาอาวุธปืนได้ เจ้าตัวยอมรับว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจมาก เพราะที่ผ่านมา “น.ส.ปริยาดี” ไม่มีวี่แววว่าจากก่อเหตุลักษณะนี้ได้เลย แม้ว่าเขนจะเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ส่วนใหญ่อยู่แต่บ้าน ปกติเขาจะออกไปหากบ หาเขียดมาขายตามหมู่บ้าน

ส่วน “นายสองเมือง” ก็ถือว่าเป็นคนดีคนนึง ทำงานรับเหมาก่อสร้าง ไม่เคยสร้างปัญหาให้ใคร แต่เรื่องปัญหาภายในครอบครัวตนก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียด รู้แค่ว่าทั้งคู่เคยฟ้องหย่ากันไปรอบนึง แล้วยิ่งผู้เสียชีวิตก็ถือไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใครเลย ช็อกมากพอเห็นว่าเขากลายเป็นศพ

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส