บุกรวบหมอเถื่อน! เปิดเพจรับฝังมุก ทำเจ้าโลกเน่าใช้งานไม่ได้

8 ธ.ค. 65

ตร.บุกรวบหมอเถื่อน! เปิดเพจรับฝังมุกอวัยวะเพศชาย สุดท้ายอวัยวะเพศเน่า ใช้งานไม่ได้! เจ้าตัวเผยทำมานานกว่า 5 ปีแล้ว

วันที่ 7 ธันวาคม 2565 กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ. ธรากร เลิศพรเจริญ , พ.ต.อ.สําเริง อําพรรทอง, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.สมเกียรติ ตันติกนกพร รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ., กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยนพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยนพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา

ร่วมกันแถลงผลงานจับกุม นายอภิชาต (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ดําเนินคดีในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต,ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต,ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตํารับยาและขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตรวจยึดของกลาง 25 รายการ

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนให้ทําการสืบสวน กรณีมีบุคคลเปิดให้บริการผ่าตัดฝังมุกเสริมซิลิโคนและฉีดฟิลเลอร์อวัยวะเพศชาย ผ่านเฟสบุ๊ก “รับฝังมุก ซิลิโคน และฉีดฟิลเลอร์ sub skin” จนแผลเกิดการอักเสบและติดเชื้อรุนแรงมีหนองไหลออกมา โดยหลังรับการรักษาอาการอักเสบแล้ว ยังมีอาการเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง,กลั้นปัสสาวะไม่อยู่,อวัยวะเพศไม่แข็งตัวและไม่สามารถใช้งานหรือมีเพศสัมพันธ์ได้ตั้งแต่ไปฝังมาจนถึงปัจจุบัน ทําให้เกิดความเครียดซึมเศร้าจนเคยคิดฆ่าตัวตาย จึงทําการสืบสวนจนทราบถึงตัวผู้กระทําผิด แล้วจึงให้สายลับทําการนัดหมายเพื่อทําการฉีดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย

ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.4 บก.ปคบ. จึงร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) และสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจสอบห้องพักรายวันไม่ทราบเลขที่ แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่นัดหมาย พบนายอภิชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี กําลังให้บริการลูกค้าที่นัดหมายฉีดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย

โดยรับว่าตนไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์และไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นยา,เวชภัณฑ์,เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ในการผ่าตัด รวม 25 รายการ จึงร่วมกันจับกุมนายอภิชาต ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 ดําเนินคดีในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต,ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต,ขายยาที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนตํารับยา และขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต”

โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และรับว่าตนไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด จบการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยเคยทํางานในคลินิกช่วยหมอทํางาน หลังจากนั้นออกมาทําเองได้ประมาณ 5 ปี โดยเปิดเฟสบุ๊กรับงาน จากนั้นนัดหมายลูกค้าทําการผ่าตัดฝังมุกฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายตามโรงแรมม่านรูด หรือห้องพักรายวัน โดยคิดค่าใช้จ่ายครั้งละ 15,000-20,000 บาท แล้วแต่ลักษณะการทําและจํานวนมุกที่ฝัง

เบื้องต้นการกระทําดังกล่าวเป็นความผิดตาม

  1. พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษ

จําคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

  1. พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี และ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ “ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตํารับยา” ระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
  2. พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ฐาน “ขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวาง โทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.กล่าวฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชน ว่าการฝังมุกหรือฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายเป็นรสนิยมทางเพศส่วนตัวในแต่ละบุคคล ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสุขภาพในแง่ทางการแพทย์แต่อย่างใด การผ่าตัดเพ่ือใส่ส่ิงแปลกปลอมเข้าไปในอวัยวะเพศอาจทําให้เส่ียงต่อการอักเสบจนถึงขั้นติดเชื้อและอาจส่งผลร้ายให้อวัยวะเพศใช้การไม่ได้

และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทําความผิดไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อนหรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตํารวจจะดําเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดําเนินคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค

 

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส