สท.สาวเปิดใจขนแม่บุกบ้านคนอื่น ยัวะถูกใส่ร้ายฉกต้นกฐิน ผู้เสียหายแฉภาพเงินล่องหน (คลิป)

7 ธ.ค. 65

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.เฟื่องฟ้า ฤกษ์จำนง อายุ 46 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ม. 1 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ว่าโดนสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโคกกลอย พร้อมพวกนับ 10 คน บุกมาหน้าบ้านด่ากราด และพูดจาข่มขู่ ท้าทาย เหตุผลเพราะอีกฝ่ายอ้างว่าทางเจ้าตัวนั้นไปกล่าวหาว่าครอบครัวเขานั้นเอาเงินกองกฐินไป เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ในงานทอดกฐินวัดไตรมรรคสถิ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจน

413975

ล่าสุด 7 ธ.ค. 65 น.ส.เฟื่องฟ้า ผู้ร้องเรียน เล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นมาจากช่วงวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา ตนเองเเละครอบครัวได้มีการเดินทางไปร่วมงานทอดกฐินที่วัดไตรมารคสถิต ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้าน ตลอดจนได้ร่วมกันทำบุญติดพุ่มกฐิน จำนวน 1 พุ่ม โดยได้เขียนป้ายชื่อติดไว้ที่พุ่มว่า "อู่ จี เอส เซอร์วิส" ซึ่งวันงานตนเองก็ยกไปคังตามปกติ บริเวณในศาลาที่ทางวัดทำพิธี ก่อนที่หลังจากนั้นตนเองก็ได้เดินออกมาเพื่อจัดการเตรียมเรื่องของผ้าไตรบริเวณด้านนอก และเป็นช่วงที่อยู่ในการทำพิธี ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งในส่วนของพิธีสงฆ์เสร็จสิ้นอล้ว ขั้นตอนต่อไปคือทางเจ้าของพุ่มกฐินจะต้องไปยกพุ่มของแตาละคนมานับจำนวนเงินส่งมอบให้ทางคณะกรรมการวัดเพื่อทำการบันทึกปละส่งมอบให้วัด

641924

ตนเดินกลับไปยัฝตุดที่ตนได้ตั้งพุ่มกฐินไว้ตอนแรก กลับไม่เจอ สอบถามชาวบ้านก็ไม่เห็น ตนเดินวนหาจน 2 รอบ ถึงได้เห็นว่าพุ่มกฐินของตนนั้นเหลือแค่ป้ายชื่อ แต่เงินในกฐินหายไป โดยจุดที่พบพุ่มกฐินนั้นจะตั้งอยู่ตรงกลุ่มของ "เจเจ หรือ น.ส.คมตา ศรีมันตา สมาชิกสภาเทศบาลตำบลโคกกลอย ซึ่งกำลังนั่งนับเงินพุ่มกฐินกันอยู่ ตนเองจึงเข้าไปสอบถามว่าใครเป็นคนนำพุ่มกฐินของตนเองมา แต่กลับไม่มีคำตอบแต่อย่างใด ตนเองเลยเข้าไปสอบถามทางกรรมการวัดว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากพุ่มกฐินของตนเองนั้น ยังไม่ได้นับจำนวนเงินที่จะถวายวัด ก่อนที่จะเดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันก่อนที่ สภ.โคกกลอย แต่สุดท้ายทางเจ้าอาวาสวัดก็เรียกมาพูดคุยกันและมีการทำความเข้าใจกัน ตนเองด้วยความตั้งใจว่าอยากจะทำบุญต่อเลยอยากให้ปัญหาจบ ด้วยความเกรงใจเจ้าอาวาสด้วย เลยตัดสินใจจบเรื่องทั้งหมดเลยไม่คิดอะไร

923047

หลังจากนั้นพอตนเองและครอบครัวได้กลับมาที่บ้านช่วงประมาณ 1-2 ทุ่ม ทางด้านคู่กรณีเห็นว่าตนโพสต์เฟซบุ๊กเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้โพสต์กล่าวหาเป็นการโพสต์เล่าเหตุการณ์ตามความเป็นจริงว่าพบพุ่มกฐินอยู่ตรงข้างคู่กรณี ส่งผลให้อีกฝ่ายไม่พอใจและยกพวกมาที่บ้านประมาณ 10 กว่าคน มาด่าทอตนและครอบครัวด้วยคำหยาบคาย และมีการมาหาว่าพวกตนกุเรื่อง หาว่าตนเองกล่าวหาว่าแม่ของเขาไปขโมยพุ่มกฐินของตนเอง พร้อมถ่ายคลิปวิดีโอ และไลฟ์ผ่านโซเชียล ซึ่งภายในร้านมีผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก ทำให้ตนเองและคนในร้านตกใจกลัว และอับอายขายหน้า ก่อนที่ตนได้บอกกับกลุ่มที่มาว่า "อย่ารีบไปเดี๋ยวไปตามตำรวจมาพูดคุยกัน" หลังจากนั้นกลุ่มคนดังกล่าวก็ต่างกลับขึ้นรถ พร้อมขับออกไปทันที หลังจากนั้น ตนเองก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โคกกลอย ตนเองและครอบครัวอยู่อย่างหวาดกลัวและอับอาย เพราะไม่รู้วันไหนจะโดนแบบนี้อีกหรือหนักว่าเดิม เพราะด้วยเขาเป็นถึง สท.

464938

สุดท้ายผ่านไป 2 วัน มีพลเมืองดีได้ส่งคลิปหลักฐานมาให้ทางตนดู ปรากฏว่าคลิปดังกล่าวจับภาพแม่ของ สท.เจเจ คล้ายว่ายกพุ่มกฐินของตนย้ายไปอีกที่หนึ่งภายหลังที่ตนเอาไปตั้งแล้วออกมา จึงมีความเขื่อได้ว่าเขาเองตั้งใจเอาพุ่มกฐินของตนที่มีเงินอยู่ประมาณ 1 หมื่นกว่าบาทไปรวมกับของเขา ตามที่สันนิษฐานไว้ ประจวบกับที่ทางคู่กรณีบุกมาด่าตนที่หน้าบ้าน ตนเองเลยตั้งใจว่าจะฟ้องดำเนินคดีทรัพย์ และข่มขู่ ตามลำดับ

ตนยืนยันว่าส่วนตัวกับทางคู่กรณีไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน และไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งเรื่องธุรกิจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ต่างฝ่ายต่างบังคุยดีกัน แต่ส่วนตัวไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงทำแบบนี้

222181

สท.เจเจ หรือ น.ส.คมตา ศรีมันตา สมาชิกสภาเทศบาลตำบลโคกกลอย เปิดใจว่าเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองยืนยันว่าไม่ได้เอาพุ่มกฐินของอีกฝ่ายหนึ่งมาเป็นของตัวเอง ตนเองก็ไปร่วมพิธีแห่งานทอดกฐินที่สัดโดยมีการจัดขบวนนางรำทั่วไปและมีพุ่มกฐินกว่า 3 พุ่มที่ตนจัดไป ซึ่งในช่วงพิธีเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตอนจบที่มีการนับเงินพุ่มกฐินเพื่อส่งมอบให้กับทางกรรมการสัด ฝั่งคู่กรณีได้เดินมาทางกลุ่มของพวกตนพร้อมบอกว่าพบพุ่มกฐินแล้วอยู่ข้างตน ก่อนที่ทางอีกฝ่ายจะเดินมาทุบหลังแม่ของตน พร้อมกล่าวหาว่าเอาเงินที่พุ่มกฐินของเขาไป ตอนนั้นตนเองและเเม่ก็เริ่มงงว่าเกิดไรขึ้น เพราะส่วนตัวยืนยันว่าตนและครอบครัวจำพุ่มกฐินของพวกตนได้ จึงได้มีการเคลียร์กันและพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะทางกลุ่มของตนเองก็ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องและไม่ทราบว่าพุ่มกฐินของอีกฝั่งมาอยู่ข้างตนได้อย่างไร ซึ่งพอเรียกทางเจ้าอาวาสและคนที่อยู่ในพื้นที่มาคุยกัน ทั้งตนและอีกฝ่ายก็จบกัน และแยกย้าย

ตกเย็นของวันเดียวกัน ทางอีกฝั่งได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กโจมตี กล่าวหาตนและแม่ของตนโดยมีการกล่าวเอ่ยชื่อชัดเจนในโพสต์ดังกล่าว ด้วยความข้องใจยอมรับว่าวันนั้นตนเองได้ขับรถเดินทางไปยังบ้านของคู่กรณีจริงตามที่อีกฝ่ายออกมาปล่อยคลิป แต่การเดินทางไปนั้นไม่ได้เป็นการไปไปข่มขู่ หรือทำร้าย แต่เป็นการเข้าไปสอบถามว่าทำไมถึงยังมีการโพสต์โจมตีและหล่างหาตน โดยใช้ชื่อของตนให้คนเข้าใจผิด ก่อนที่อีกฝ่ายเองจะท้าให้ตนไปแจ้งความ ย้ำว่าไม่ใช่แต่ฝั่งตนที่ใช้คำหยาบคายแต่อีกฝ่ายกลับท้าทายและด่าทอตนก่อน แต่ที่เขานำคลิปมาลงนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เห็นตอนที่ตนโมโห อีกทั้งตนเองไม่ได้มีการทำร้ายหรือบุกเข้าไปในพื้นที่บ้านของเขา

อย่างไรก็ตาม 2 วันหลังเกิดเรื่องทางคู่กรณีเองก็ได้มีการบุกมาที่บ้านลูกน้องของตน โดยที่ทางสามีของคู่กรณีได้บุกมาทำร้ายคนงานของตนที่บ้านพักของเขา เชื่อว่าน่าจะมาจากสาเหตุดังกล่าว ซึ่งทางตนและลูกได้มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้วเช่นกัน ถามว่าเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดส่วนตัวเคยมีปัญหากับทางคู่กรณีหรือไม่ ในส่วนนี้ยอมรับว่าตนไม่เคยมีปัญหากับทางอีกฝั่งแต่อย่างใด ยังเคยคุยและรู้จักนับถือกันอยู่ ตนยืนยันความบริสุทธิ์ของตนและครอบครัวพร้อมต่อสู้เช่นกัน ส่วนที่มีการโพสต์หาว่าตนบุกบ้านลูกบ้าน ย้ำอีกฝั่งไม่ได้เป็นลูกบ้านตนอยู่กันคนละเขตรับผิดชอบ

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส