สยองฆ่ายิงหัวจับฝังดินสะกดผี แฉก่อนตายคุยสายปริศนานัดสาว (คลิป)

วันที่ 3 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงาน พบศพหนุ่มวัย 26 ปี ทราบชื่อ “นายธิติศักดิ์ ทูลฉลอง” หรือ “นายเท่” เป็นชาวบ้านหมู่ 6 บ.เสลาโสง ต.ทรัพย์พระยา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ครอบครัวผู้ตายประกาศแจ้งคนหายไปเมื่อประมาณเกือบ 10 วันที่ผ่านมา

โดยสภาพศพ ถูกฝังดินอยู่บริเวณกลางร่องน้ำสวนผลไม้ติดกับไร่อ้อยของชาวบ้าน ห่างจากชุมชนประมาณ 3.5 กม. ลักษณะศพนอนคว่ำหน้า บวมอืด คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-10 วัน สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ บริเวณลำคอมีรอยเชือกรัด ข้อมือและข้อเท้ามีหญ้ามัดติดกันเอาไว้ ใกล้กันพบเชือกไนล่อนสีเขียวยาวประมาณ 100 ซม. และพบเหรียญซึ่งตามความเชื่อของคนในพื้นที่เหมือนเป็นการสะกดวิญญาณของผู้ตาย ที่ศรีษะด้านหน้าขวาพบบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบชนิด 1 นัด กระสุนฝังใน หน้าอกแผลกระสุน 1 นัด

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปคุยกับ “นางบุญทิ้ง หล่าจันทึก” อายุ 58 ปี เจ้าของที่ดินที่พบศพ เล่าว่าปกติแล้วตนไม่ค่อยได้เข้าไปที่เกิดเหตุบ่อยนัก เพราะมันไกลจากหมู่บ้าน แล้วไปครั้งล่าสุดคือเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน กระทั่งตอนเวลา 08.00 น. ของวันนี้ตนเองก็เข้าไปดูไร่อ้อยตามปกติ ปรากฎว่าพอเดินไปถึงร่องน้ำก็เห็นว่ามีร่องรอยของการขุดดินจึงเดินไปดู ตอนแรกที่ยังไม่รู้ว่าเป็นศพคนก็คิดว่าเป็นศพหมาที่คนเอามาฝังไว้ เพื่อให้เป็นปุ๋ยของต้นกล้วยตรงนั้น

แต่ก็เอะใจว่าถ้าเป็นศพหมาจริง ทำไมเจ้าของถึงไม่เอาไปปรุงอาหารกิน เนื่องจากชาวบ้านละแวกนี้บางบ้านจะกินหมากัน ตนก็เลยยืนนึกอยู่พักใหญ่ก็จำได้ว่ามีการประกาศตามหา “นายเท่” อยู่แล้ว วินาทีนั้นก็ขนลุกวาบ มือสั่นผิดปกติ จึงชะเง้อคอไปดูอีกครั้งปรากฎว่าเห็นเข็มขัดและมีร่องรอยของการลากตามพื้นหญ้า แล้วพอหันไปหันมาก็เหลือบไปเห็นท่อนไม้ใหญ่ลอยอยู่ในน้ำอีกจากปกติท่อนไม้ท่อนนี้จะตั้งอยู่ริมฝั่ง รู้สึกแปลกใจเข้าไปใหญ่ ขนหัวลูกก็ลุก

จึงรีบขับ จยย. กลับมาที่บ้าน แล้วบอกชาวบ้าน บอกญาติ “นายเท่” และผู้ใหญ่บ้านทันที เพื่อพากันไปดู ว่าเป็นศพคนหรือศพหมากันแน่ พอพากันไปดูก็สังเกตุที่เข็มขัด พบว่าเป็นเข็มขัดที่เกี่ยวกับกางเกงและเห็นก้นของผู้ตายโผล่ออกมา เนื่องจากดินที่ถูกถมมันชะล้างด้วยฝนไปบ้างแล้ว ซึ่งตอนนั้นตนก็สันนิษฐานว่าก้นของผู้ตายเป็นหน้าอกจึงคิดว่าเป็นศพผู้หญิง

ชาวบ้านก็เลยช่วยกันใช้จอบขุดหน้าดินตรงนั้นออก ถึงแน่ใจว่าเป็นก้นของผู้ชาย ครอบครัวของ “นายเท่” ก็ยืนยันว่าเป็นศพลูกชาย จริงมีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกู้ภัยให้เข้ามาตรวจสอบ ส่วนไหที่เจอตรงบริเวณริมสระนั้นตนก็ยังแปลกใจว่าเป็นไหของใคร เพราะก่อนหน้านี้ไม่มี

สำหรับ “นายเท่” แล้ว ปกติเขาจะอยู่บ้านคนเดียวมานานแล้ว เพราะพ่อแม่แยกทางกัน และชอบดื่มเหล้ากับวัยรุ่นในหมู่บ้านประจำ ไม่รู้ว่าไปดื่มกันที่ไหน บวกกับทราบว่าเขาป่วยเป็นโรคประสาทมาหลายปีต้องกินยาประจำ แต่ถ้าถามว่า “นายเท่” เคยมีปัญหาอะไรกับคนในหมู่บ้านไหม ตนบอกว่าไม่เคยเห็น ภรรยาก็ไม่มีเขาตัวคนเดียว

ขณะที่ สภ.หนองไทร จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลา 19.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำที่โรงพัก หลังจากพบศพและเคลื่อนย้ายศพส่งชันสูตรตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. จนถึงเวลา 20.00 น. และยังอยู่ระหว่างสอบปากคำต่อเนื่องตลอดทั้งคืน โดยมี 1.นางลิ้ม ทูลฉลอง แม่ของผู้ตาย ในฐานะครอบครัว, 2.นายปรีชา พ่อเลี้ยงของผู้ตาย ในฐานะครอบครัว, 3.นายสุนันท์ พระกระโทก ในฐานะเพื่อนของผู้ตาย, 4.นายสมบัติ บรรเทาบุญ ในฐานะเพื่อนของผู้ตาย และ 5.นายคนวิน บังกระโทก ในฐานะเพื่อนของผู้ตาย 

ซึ่งทางพนักงานสอบสวนให้ข้อมูลว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างไล่สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง บวกกับไล่ตรวจสอบกลัองวงจรปิด เบื้องต้นยังไม่มีผู้ต้องสงสัย

นายคนวิน หรือ เตอร์ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งที่ถูกเรียกมาสอบ ยอมรับว่าเคยนั่งดื่มเหล้ากับผู้ตายเป็นประจำ แต่ไม่เห็นมาประมาณ 10 วัน ไม่รู้ว่าไปไหน ในกลุ่มดื่มเหล้าขาวของตนก็ไม่สนใจใครจะไปจะมา เป็นเรื่องปกติกระทั่งมาทราบข่าวดังกล่าว

นายสมบัติ บรรเทาบุญ อายุ 40 ปี เพื่อนของผู้ตายที่ผู้ตายมายืมโทรศัพท์เพื่อโทรหาผู้หญิงคนหนึ่ง เจ้าตัวบอกว่าจริง ๆ แล้วเหตุการณ์ดังกล่าวมันเกิดขึ้นเมื่อช่วง 23.00 น. ของวันที่ 11 พ.ย. 65 แต่ตนเอาไปบอกชาวบ้านเมื่อวันที่ 29-30 พ.ย. 65 หลังจากมีข่าวว่าผู้ตายหายตัวไป และคาดว่าชาวบ้านที่ให้ข้อมูลตอนแรกน่าจะจำวันที่สับสน

โดยเหตุการณ์ที่ผู้ตายมายืมโทรศัพท์ เกิดขึ้นที่บ้านของตน ผู้ตายก็ขับ จยย. มาที่บ้าน เพราะตอนกลางวันคุยกันว่าตนจะคั่วนกกิน จึงชวนกัน แต่พอผู้ตายมาถึงที่บ้านประมาณ 23.00 น. เขาก็ขอยืมโทรศัพท์ตนบอกว่าจะขอโทรหาผู้หญิงตนก็เลยยื่นโทรศัพท์ให้ ซึ่งวันนี้ตำรวจก็เช็กข้อมูลแล้วพบว่าเขาโทรแค่ 26 วินาที และตนจำได้ว่าสิ่งที่ผู้ตายคุยกับปลายสายคือถามผู้หญิงว่า “จะกลับบ้านเลยไหม” แล้วผู้หญิงก็ตอบว่า “กลับ” จากนั้นผู้ตายก็วางสายและยื่นโทรศัพท์ให้ตน ก่อนจะขับ จยย. ออกไปทันที ไม่ได้บอกตนว่าจะไปไหน

ต่อมาเมื่อประมาณ 3 อาทิตย์ก่อน ตนเจอผู้ตายเดินถือถุงเนื้อวัวอยู่บนถนน ตนกับเพื่อน 3 คนขับรถกระบะผ่านพอดีก็แซวกันว่า “วันนี้ไอ้เท่มันได้เนื้อเว้ย” แต่ก็ไม่ได้จอดทักทายผู้ตาย และหลังจากนั้นก็ไม่เจอผู้ตายอีกเลย จนกระทั่งมาทราบเมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย. ว่าผู้ตายหายตัวไป บวกกับมีชาวบ้านบอกว่าช่วงกลางเดือน พ.ย. มีคนเห็นว่ามีผู้หญิงต่างหมู่บ้านปิดหน้าปิดตาขับ จยย. มารับผู้ตายออกจากหมู่บ้านไป ก็เลยบอกกับญาติของผู้ตายว่าผู้ตายเคยเอาโทรศัพท์ตนไปโทรหาผู้หญิง ก็เลยมีการพูดเรื่องนี้กันปากต่อปาก ส่วนใหญ่ตนกับผู้ตายก็ไม่ได้กินเหล้ากันบ่อยด้วย เพราะตนทำงานทุกวัน ดังนั้นตนก็ตอบไม่ได้ว่าใครจะเป็นผู้ก่อเหตุ