โรงเรียนดังจ.อุบลฯ ชี้แจง! ปมให้นักเรียนชั้น ม. 5 เข้าอบรม "ลัทธิประหลาด" ตั้งแง่ใครไม่เข้าหักคะแนน สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ต
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.อุบลราชธานี มีการจัดอบรมค่ายธรรมะ โดยมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 18 ห้องเรียน เข้ารับการอบรม แต่ภายหลังเข้ารับการอบรมปรากฏว่ามีเด็กนักเรียนจำนวนหนึ่งไม่ยอมเข้าร่วมกิจกรรมอบรมในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการเข้ารับการอบรมลัทธิ “อนุตรธรรม”
ซึ่งเป็นลัทธิความเชื่อหนึ่งที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ไม่ใช่พระพุทธศาสนาซึ่งลัทธิอนุตรธรรมสอนว่าจิตวิญญาณเท่านั้น ที่มาจาก "พระองค์ธรรมมารดา" ร่างกายเป็นเพียงที่พำนักชั่วคราวการได้รับถ่ายทอด "วิถีอนุตรธรรม" ทำให้เราได้รับสิ่งวิเศษ 3 อย่างคือ 1.มโนทวา 2.สัจจคาถา 3.ลัญจกรการขอรับวิถีธรรมจะนำพาตัวเองขึ้นไปสู่ความเป็นนิรันดร
ต่อมามีทวิตเตอร์ของผู้ปกครองและนักเรียน โพตส์ทวิตเตอร์โดยใช้แฮชแท็ก #bmfact จนทำให้ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 วิพากษ์วิจารณ์การจัดอบรมดังกล่าวว่าไม่เหมาะสม ซึ่งถ้านักเรียนไม่เข้ารับการอบรมจะต้องถูกหัก 5 คะแนน ทางโรงเรียนโดย ผู้อำนวยการโรงเรียนต้องสั่งให้หยุดการอบรมในช่วงบ่ายทันที นอกจากนี้ยังมีทวิตเตอร์ของผู้ปกครองนักเรียนเข้าไปโพตส์ วิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานของผู้อำนวยการโรงเรียน เช่น เรื่องโครงอาหารไม่มีสุขอนามัยเพียงพอ ปล่อยให้นกพิราบไปเกาะในถ้วยชามอาหารที่ให้บริการเด็ก และมีมดอยู่ในขนม
บางโพตส์ระบุเรื่องสุขอนามัยโรงเรียนไม่เคยตรวจสอบ แต่เรื่องสิทธิเสรีภาพของนักเรียนทางโรงเรียนตั้งกฎระเบียบขึ้นมาใหม่อย่างเข้มงวด ภายหลังจากที่ ผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่เข้ามารับหน้าที่ได้ 2 เดือนเช่น ชุดพละซึ่งก็เป็นชุดที่ทางโรงเรียนกำหนดและก็เป็นไปตามกฎของกระทรวง แต่วันที่มีการเรียนพละไม่ให้เด็กนักเรียนใส่ไปตั้งแต่ช่วงเช้า
ซึ่งกลายเป็นประเด็นของปัญหาเด็กนักเรียนต้องถือชุดพละไปเปลี่ยนที่โรงเรียนให้ใส่ชุดนักเรียนไปก่อน ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงแล้วก็เป็นกันที่รับรู้ทั้งกระทรวงแต่ละโรงเรียนก็จะมีแบบชุดพละของโรงเรียนของตัวเอง แต่บังคับให้เด็กไม่ให้ใส่ไปโรงเรียนให้ไป ใส่ได้เฉพาะในช่วงของการเรียนพละเท่านั้น แต่กระบวนการในการเปลี่ยนเสื้อผ้าซึ่งไม่มีห้องในการเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เป็นห้องน้ำรวมโดยเด็กนักเรียนจะต้องดำเนินการเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ ซึ่งจะต้องมีการเข้าในแต่ละครั้งไม่สะดวก
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนเปิดเผยว่า เป็นวิชาเรียนวิชาศาสนา แต่เด็กว่าเป็นลัทธิอื่นกำลังให้ทางชมรมผู้ปกครอง รองผอ.ฝ่ายวิชาการ และครูสาระสังคม คุยกับผู้จัดซึ่งถ้าไม่ดีก็จะยกเลิกและในส่วนประเด็นอื่นๆ ที่อยู่ในทวิตเตอร์วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักนั้น ก็จะมีการพูดคุยกับเด็กนักเรียนแก้ปัญหาภายในกรอบถ้ามีการออกกฎระเบียบเกินก็จะต้องมีการประชุมพูดคุยกับเด็กนักเรียนตัวแทนหัวหน้าชั้นเรียน 99 ห้องเรียน จากจำนวนนักเรียน 3,800 คน และครูที่ปรึกษาในวันที่ 6 ธันวาคม 2565 นี้
ถ้ามีประเด็นอะไรที่เอาลงในทวิตเตอร์ก็จะได้มีการพูดคุยกัน หรือถ้าขัดแย้งกันต้องแก้เป็นจุดๆ ไป จุดที่เป็นปัญหาใครเป็นคนทำให้เกิดปัญหา ปัญหานั้นเด็กคับข้องใจอย่างไรก็ต้องใช้ขบวนการภายในโรงเรียนซึ่งไม่ใช่เป็นนโยบายที่กระทบประชาชนในมุมกว้าง สำหรับกิจกรรมดังกล่าวทางโรงเรียนได้ให้หยุดกิจกรรมไปแล้ว เพื่อความสบายใจ
