เถ้าแก่รัวหมดแม็กยิงไล่โจ๋ล้อมรถลูกน้อง หนุ่มรักเพื่อนรับเคราะห์กระสุนเจาะโคม่า (คลิป)

สืบเนื่องจากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หน้าพระลาน รับแจ้งเหตุยิงกัน บริเวณถนนสายพุแค-หล่มสัก กม.ที่ 9 ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี

ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 10 ปลอก ตกอยู่บนถนน ใกล้กันพบรถกระบะ สีขาว มีรอยรูกระสุนที่ฝากระโปรงรถ 1 รู จอดอยู่ข้างทาง มีชายอายุ 36 ปี ถูกยิงเข้าที่สะโพก อาการสาหัส เพื่อนจึงนำส่งโรงพยาบาลพระพุทธบาท ก่อนที่ตำรวจและกู้ภัยจะมาถึง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องต้นทราบว่ารถกระบะคันหนึ่งขับปาดหน้ารถกระบะตู้ทึบ ทำให้คู่กรณีหัวร้อน คว้าอาวุธปืนขนาด 9 มม. กราดยิงกลางถนนขนทำให้มีคนได้รับบาดเจ็บและถูกลูกหลงหลายคน ก่อนผู้ก่อเหตุจะหลบหนี

ล่าสุด วันที่ 2 ธ.ค. 65 ทีมข่าวเดินทางไปยัง สภ.หน้าพระลาน จ.สระบุรี ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าทางด้านผู้ก่อเหตุคือ นายศรายุทธ อายุ 35 ปี เป็นเถ้าแก่และเจ้าของรถกระบะตู้ทึบแช่แข็งบรรทุกชิ้นส่วนไก่สดให้บริษัทแห่งหนึ่ง เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

ทราบว่าขณะเกิดเหตุนายศรายุทธพักอาศัยอยู่ที่บ้านในอำเภอวังม่วง ได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องที่ขับรถตู้ทึบว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นขับรถกระบะปิดล้อมรถและพยายามจะเปิดประตูรถ เพื่อจะทำร้ายร่างกาย แต่ลูกน้องตนไม่ยอมเปิดประตูเพราะกลัวเป็นอันตราย จึงให้ทางเจ้าตัวรีบมาช่วย ขับรถมาที่เกิดเหตุตามที่ลูกน้องหรือคนที่ขับรถกระบะทึบได้บอกพิกัดไว้ มาถึงที่เกิดเหตุก็เห็นกลุ่มวัยรุ่นฝั่งผู้บาดขับรถกระบะนับ 10 คน ปิดล้อมรถของลูกน้อง ทางเจ้าตัวจึงใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นจนหนีกระเจิงไป โดยลูกน้องของตนขับรถกระบะหนีออกมาได้และกลับไปที่บ้านของตนที่ จ.สระบุรี

บรรยากาศที่ สภ.หน้าพระลาน ว่ามีทางญาติของฝั่งคนก่อเหตุ ได้เดินทางมายัง สภ.หน้าพระลาน ตั้งแต่เช้า เพื่อขอยื่นหลักทรัพย์ขอประกันกันตัวแต่พนักงานสอบสวน คัดค้านการประกันตัว โดยให้ญาติไปขอประกันตัวที่ศาลจังหวัดสระบุรี ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหาไว้ 2 ข้อหา 1.พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร 2.พยายามฆ่าผู้อื่น พร้อมจะนำตัวส่งศาลจังหวัดสระบุรีภายในวันนี้

สำหรับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น จริงๆแล้วทางฝั่งคนก่อเหตุ และผู้บาดเจ็บเองได้ทีเรื่องขับรถปาดหน้ากันบริเวณหน้าวัดพุแค ห่างจากจุดที่มีการปะทะกันประมาณ 8 กิโลเมตร หลังจากนั้นทางฝั่งผู้บาดเจ็บได้มีการขับรถสกัดให้รถกระบะทึบคันที่เป็นลูกน้องของคนก่อเหตุพยายามหบุดและลงมาเคลียร์ แต่ด้วยความที่คนขับรถกระบะทึบเองหวาดกลัว และไม่กล้าลงไปเคลียร์ ตลอดจนภายในรถยังมีเงินของบริษัทจำนวน 40,000 บาท เลยตัดสินใจขับรถหลบหนี และได้ประสานทางเถ้าแก่คือนายศรายุทธ ที่อยู่ที่บ้านพักในวังม่วงให้ออกมาช่วยเหลือ และพยายามขับหลบหนี จรไปถึงที่เกิดเหตุ ทางฝั่งผู้บาดเจ็บเองได้ตามพวกมาและมีการทุบรถ และพยายามเปิดรถ ก่อนที่ทางนายศรายุทธมาถึงและทำการก่อเหตุดังกล่าว

เวลา 15.30 น. ภายหลังที่ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนนายศรายุทธ นานกว่า 6 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการควบคุมตัวทางผู้ก่อเหตุนำส่งศาลสระบุรี ใน 2 ข้อหาตามที่มีการตั้ง 2 ข้อหาโดยมีการคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน ทั้งนี้ ระหว่างที่นำตัวขึ้นรถส่งตัวทางเจ้าตัวเองมีอาการเศร้าและน้ำตาคลอ ก่อนจะพูดคุยสั้น ๆ ว่า ทำเพื่อป้องกันทรัพย์สินของตนเองและลูกน้องของตน ตลอดจนเงินที่อยู่ในรถจำนวน 5-6 หมื่นบาท ยืนยันว่าส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกับทางผู้บาดเจ็บ และไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว สาเหตุมาจากที่ทางคนเจ็บและลูกน้องของตนปาดหน้ารถกันแค่นั้น เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวอยากจะขอโทษอีกฝั่ง ซึ่งวินาทีนั้นตนเห็นว่าอีกฝั่งมาทุบรถตนเลยต้องมีการยิงออกไป ตลอดจนมีเงินในรถอยู่จำนวนหนึ่ง

นางปทุม สุทธิสังวาร อายุ 65 ปี แม่ของนายปิยะพันธ์ จุลเพ็ญ หรือ ยะ ผู้บาดเจ็บ บอกว่าเมื่อวานนี้ทางลูกชายได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านช่วงประมาณ 6 โมงเย็น บอกว่าจะไปหาเพื่อน มาทราบข่าวอีกทีก็ช่วงประมาณ 2 ทุ่มหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ เบื้องต้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับทางด้านเพื่อนของลูกชายที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่าจริงแล้วทางด้าน นายกานต์ สุรเดช เพื่อนของลูกชายที่เป็นคนขับรถเก๋ง โทรมาหากลุ้มเพื่อนของลูกบอกว่าเขามีเรื่อง ตอนแรกลูกชายของตนไม่ทราบว่าเรื่องไร เลยไม่ได้ออกไป

แต่ทางนายกานต์ สุรเดช พยายามที่จะให้ออกมาช่วย ลูกชายของตนพร้อมเพื่อนอีก 2 คนจึงได้ตัดสินใจขับรถกระบะไปยังจุดเกิดเหตุ หลังจากนั้นพอลงจากรถกระบะได้สักครู่ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านั้นเพียงแค่ยืนดูก็มีรถกระบะของอีกฝั่งขับมาอีกเลนหนึ่ง แล้วมีการลงมาจากรถก่อนแต่กราดยิงใส่ ลูกชายของตนและเพื่อนอีก 2 คนที่เดินทางมาดูเหตุการณ์เลยตัดสินใจขึ้นรถกระบะ ขับออกจากจุดเกิดเหตุ ทั้งที่ตอนนั้นเองทางลูกชายของตนยังไม่ทราบว่าโดนยิง มาทราบว่าโดนยิงตอนที่ออกมาได้ซักระยะหนึ่ง เนื่องจากรู้สึกปวดบริเวณหน้าท้อง

ตนยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกชายของตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางผู้ก่อเหตุ เพียงแค่ไปช่วยเพื่อนที่โทรมาว่ามีเรื่องเท่านั้น อีกทั้งในช่วงที่เกิดเหตุก็แค่ไปยืนดู ยังไม่ได้มีการเข้าไปห้ามหรือเข้าไปพูดคุยกับทางอีกฝั่งนึง แต่พอเห็นว่าท่าทีไม่ดีก็เลยขึ้นรถกลับจนกระทั่งมาทราบว่าโดนยิงเข้าที่บริเวณหน้าท้องทะลุอีกฝั่งนึง ซึ่งอาการล่าสุดตอนนี้ เจ้าตัวเองยังอยู่ห้องไอซียูยังไม่รู้สึกตัว เนื่องจากกระสุนนั้นทะลุผ่านลำไส้ และต้องมีการตัดลำไส้ออก ทีมแพทย์เองก็ยังไม่ยืนยันว่าจะปลอดภัยหรือไม่ หวั่นว่าแผลจะติดเชื้อ

ส่วนตัวว่าตอนนี้เครียดนอนไม่ได้ กินไม่ได้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างกระทบกระเทือนจิตใจคนเป็นแม่ เขาเองไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น แต่กลับมาเจอแบบนี้ ประจวบกับที่เขาเองก็ไม่ได้อยากไปตั้งแต่แรก และมีครอบครัวภรรยาและลูกอีก 3 คน มีภาระที่ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่และผ่อนรถ ทำให้ทำแต่งาน ไม่สนใจเรื่องอื่น พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ตนเองก็ไปไม่ถูก หากเขาเป็นอะไรไปแล้วตนและครอบครัวของเขาจะอยู่อย่างไร