โวยตร.ไล่บี้โจ๋ 16 ชนเสาดับสั่งห้ามแจ้งความ ผกก.แจงจับท่อดังรถเบียดเกี่ยวล้ม (คลิป)

2 ธ.ค. 65

จากกรณี เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 00.00 น. นายกฤตเมธ มาวงค์ อายุ 16 ปี นักศึกษาชั้น ปวช.ของวิทยาลัยเทคนิคเพชรบูรณ์แผนกช่างยนต์ ได้ประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ชนเสาป้ายริมทางจนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีอาการปอดฉีก ทั้ง 2 ข้าง เลือดคลั่งในสมองและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

243198529950

สาเหตุเกิดจากขับรถหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ที่ขับรถตามประกบ ซึ่งจนถึงขณะนี้สาเหตุยังไม่แน่ชัด ทราบเบื้องต้นว่าน้องผู้ตายขับรถกำลังจะกลับบ้านจากเขตอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เพื่อจะกลับบ้านที่อำเภอหล่มสัก แต่มาถูกเจ้าหน้าที่งานป้องกันปราบปราม (สายตรวจ) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ขับรถจักรยานยนต์ตำรวจติดตามเป็นระยะทางราว 2 กิโลเมตร ก่อนที่ทั้ง 2 จะประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ โดยนายกฤตเมธขับรถจักรยานยนต์ชนเสาป้ายริมทาง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขับชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างริมทาง

323478

ล่าสุด วันที่ 2 ธ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ เลยเเยกไฟแดงหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์มาประมาณ 1.5 กม. ตั้งอยู่บนถนนช่วงคอขวด ทางหลวงมายเลข 21 สายสระบุรี-หล่มสักบริเวณพื้นที่หมู่ 10 บ้านปากปู่ ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ บริเวณสถานที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นถนน 3 เลนส์มุ่งหน้าไปยัง อ.หล่มสัก

121595

นอกจากนี้ ยังพบว่า ป้ายบอกทางมีการงอตัวหลังจากถูกรถ จยย. ของน้องกฤตเมธกระเเทก ส่วนพื้นที่หญ้าริมทางยังคงมีเศษซากรถจยย.ของตำรวจสายตรวจตกอยู่ ส่วนที่พื้นถนนมีรอยครูดเสียดสีจากรถ จยย. ที่ล้ม

342301

ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ หมู่ 5 ต.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พบกับ นางเนตรชนก มาวงค์ หรือ แม่นก อายุ 42 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต หรือ น้องลีโอ อายุ 16 ปี เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนเองมีลูก 2 คน คนโตคือน้องลีโอ ผู้ตาย อายุ 16 ปี ส่วนคนเล็กอายุ 9 ขวบ ปกตินิสัยใจคอของลูกชายเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยเข้าหาพ่อกับแม่ เพราะตนเเละสามีต้องทำงานที่ จ.สมุทรปราการ ส่วนลูก ๆ ต้องอยู่กับยายที่ จ.เพชรบูรณ์

918196

จนกระทั่งช่วงเย็น ลูกชายแชตมาบอกตนว่า "เดี๋ยวจะกินข้าวที่บ้านเพื่อนรุ่นพี่ กินเสร็จเเล้วเดี๋ยวจะกลับ" เมื่อตนทำงานเสร็จก็กลับบ้านนอนเลย ปกติเเล้วลูกชายจะไปเที่ยวหาเพื่อนรุ่นพี่คนนี้ประจำ ทั้งกินข้าว เล่นเกมกันตามประสาวัยรุ่น แต่ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งลูกชายจะขับรถไปกลับที่บ้านและสถานศึกษาทุกวัน บางครั้งจะกลับบ้านดึกบ้าง บางครั้ง 2-4 ทุ่มก็กลับ ต่อมามีเพื่อนของลูกโทรมาบอกว่าลีโอรถล้ม หลังจากนั้นก็ส่งถาพมาให้ดู ตนก็เห็นเเค่นั้น ก่อนที่ตนจะรีบเดินทางมาจากจ.สมุทรปราการ ตามไปหาลูกชายที่โรงพยาบาล ไม่ทราบเลยว่าลูกชายจะอาการหนักขนาดนี้ จนกระทั่งมาเห็นลูกชายนอนห้องไอซียู นอนนิ่งไม่ได้สติ

603955

จนกระทั่งถึงวันที่ 1 ธ.ค.65 เวลาประมาณ 05.00 น. หมอโทรมาบอกตนว่าลูกชายชีพจรอ่อนมากเเล้ว ตนจึงรีบไป รพ. พอไปได้ประมาณครึ่งทาง ตนก็ได้โทรศัพท์โทรมาเเจ้งอีกว่าลูกชายเสียชีวิตเเล้ว หมอแจ้งว่าปอดทั้ง 2 ข้างฉีก มีเลือดออกในสมอง ตนไม่ทราบจริง ๆ ว่าสาเหตุอะไรทำให้ลูกชายถูกตำรวจขับรถไล่ตาม แต่มุมของตนก็มองว่าค่อนข้างเกินกว่าเหตุไปมาก ส่วนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ไปคุยกับผู้กำกับการตอนนี้ก็ต้องรอให้เสร็จสิ้นงานฌาปนกิจศพเสียก่อน ค่อยมีการนัดพูดคุยกันอีกครั้ง ต้องยอมรับว่าตนค่อนข้างกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคู่กรณีเป็นตำรวจ ซึ่งตัวตำรวจคู่กรณี ตนเองยังไม่เคยได้พบหน้าและยังไม่ได้พูดคุยกัน

นางเนตรชนก กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองและสามีไม่ได้มีลางสังหรณ์อะไรมาก่อนเลย ทุกอย่างยังปกติดี พูดคุยกับลูกปกติมาก ส่วนหลังลูกเสียชีวิตไปแล้ว ก็ไม่ได้ฝันถึงหรือมาหาตนเลย ทั้งนี้ ลูกชายของตนเคยพูดเสมอว่าอยากเรียนช่าง ในอนาคตก็อยากเป็นช่าง หากเรียนจบก็จะขอให้พ่อกับเเม่เปิดร้านซ่อมรถให้ ตนและแฟนก็หาที่หาทางเตรียมทุกอย่างไว้ให้ลูกแล้วเรียบร้อย แต่ไม่คิดเลยส่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตนวางแผนอนาคตไว้ให้ลูกทั้งหมดแล้ว ลูกก็บอกแล้วว่าจะเรียนหนังสือให้จบ ตอนนี้เขาเพิ่งจะอายุ 16 ปีเอง ยังเด็กเกินไป เขาไม่เคยเกเรไม่เคยเหลวไหล ส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจทำเกินกว่าเหตุมากเกินไป

สุดท้ายตนอยากจะบอกกับลูกว่า "หากลูกยังอยู่เเถวนี้ ก็ขอให้รู้ว่าแม่ขอโทษ แม่กับพ่อรักเขามาก ห่วงเขามาก เพราะเขาคือชีวิตจิตใจของพ่อกับแม่ ลูกใครใครก็รัก หากชาติหน้ามีจริงก็ขอให้มาเกิดเป็นเเม่ลูกกันอีก"

228250

ด.ช.เจษฎาพร พูลมา อายุ 14 ปี เพื่อนรุ่นน้องของน้องลีโอ ทราบว่า คืนวันนั้น ตนและเพื่อนรุ่นพี่ประมาณ 10 รวมคน นั่งทานข้าวกันเเถวร้านอาหาร ดื่มน้ำกระท่อม ก่อนจะมีปาร์ตี้ เล่นเกมกัน ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการดื่มแอลกอฮอล์เเต่อย่างใด ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 00.00 น. น้องลีโอจะจี่รถจยย.กลับบ้าน ก็มีเพื่อน ๆ ห้ามแล้วว่าอย่ากลับ เพราะมันดึกแล้ว แต่ลีโอก็ยืนยันที่จะกลับให้ได้ ซึ่งช่วงที่ลีโอขับรถออกมาก็ขับมาคนเดียว ทำให้ไม่มีใครทราบว่าถูกขับไล่ตามมาตั้งเเต่ช่วงไหน และคาดว่าสาเหตุที่ถูกตำรวจขับรถไล่ตามเพราะท่อรถดัง

ต่อมามีญาติของลีโอโทรมาบอกพวกตนว่าลีโอประสบอุบัติเหตุ ตนจึงได้รีบไปดูที่เกิดเหตุ ก่อนจะเห็นว่ามีคนกำลังปั๊มหัวใจเพื่อนอยู่ และมีเลือดออกปาก ซึ่งตนก็เห็นว่าเพื่อนรุ่นพี่น่าจะหมดลมหายใจแล้ว ปกติเเล้วลีโอเป็นคนนิสัยดี ใจดี มีอะไรก็คอยช่วยเหลือเพื่อนตลอด ก่อนหน้านี้พวกตนไม่มีลางสังหรณ์อะไรเลย ก่อนที่เขาจะเกิดอุบัติเหตุทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาดูซึม ๆ หน้าดูหมองคล้ำ เงียบผิดปกติ ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม สุดท้ายตนอยากจะบอกกับเพื่อนรุ่นพี่ว่าขอให้ไปสบาย พวกตนจะรักและคิดถึงเสมอ

865850

นางไพวัลย์ รักษาเเดน อายุ 53 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่งที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงคืนวันที่ 29 พ.ย. 65 รอยต่อ 30 พ.ย.65 เวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ ตนเองปิดร้านเข้าบ้านแล้ว กำลังจะนอน ก่อนจะได้ยินเสียงรถ จยย. บิดไล่กันมาเสียงดัง หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงรถล้มดังโครม ด้วยความที่ดึกเเล้วตนเองก็ไม่กล้าออกมาดู ทำได้เพียงเเค่ชะโงกหน้าออกมามอง ก่อนจะเห็นว่ามีผู้หญิงสวมเสื้อสีม่วง คนเห็นเหตุการณ์อีกคนอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ

111268

มีคนมามุงดูอีก 5-6 คน ตนจึงได้กล้าออกมาดู ก่อนจะเห็นว่าน้องกฤตเมธนอนหงายหมดสติอยู่ ดูจากภาพนอกไม่พบบาดเเผลใด ๆ เพียงแต่มีเลือดไหลออกจากศีรษะด้านหลังเท่านั้น ส่วนรถ จยย. ของน้องกฤตเมธ ไถลไปตกอยู่ในพงหญ้าข้างทาง อีกทั้งยังเห็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจอดล้มอยู่ใกล้กัน ส่วนตัวตำรวจสายตรวจสามารถลุกนั่งได้ พูดคุยได้ มีบาดแผลศีรษะเเตก นิ้วเท้าขาด สภาพรถพังกระจังหน้าเเตก

919351

ก่อนที่พวกตนจะบอกให้รีบแจ้งตำรวจ แต่ตำรวจนายดังกล่าวกลับอ้างว่า "ไม่ต้องแจ้งตำรวจนะ ๆ เดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง" พวกตนจึงได้เเจ้งกู้ภัยเเละรถ รพ.แทน ซึ่งจากการสอบถามผู้หญิงพลเมืองดีเสื้อม่วง ทราบว่าเห็นรถตำรวจและรถของน้องกฤตเมธขับไล่บี้กันมา ก่อนที่จะไม่เห็นไฟท้ายรถอีก จึงได้จอดรถดูก็พบว่ารถล้มแล้ว คาดว่ารถ จยย. ของน้องกฤตเมธ น่าจะไปเกี่ยวกับรถตำรวจจนเสียหลัก เมื่อพลเมืองดีเข้าไปดูอาการของนัองกฤตเมธ ก็บอกกับตนว่า "น้องไปแล้วนะป้า" ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ไม่ได้เข้าไปดูตำรวจอีก และไม่ได้สอบถามที่ไปที่มา

โดยถนนเส้นนี้เป็นถนนใหญ่เส้นตรง ยังไม่เคยเกิดกรณีแบบนี้มาก่อน อีกทั้งยังไม่เคยมีตำรวจสายตรวจขับผ่านอีกด้วย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่สามารถบอกได้ว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะตนไม่ทราบที่ไปที่มาที่แท้จริง

698463

พ.ต.อ.รณฤทธิ์ สุธาพจน์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เผยว่า เบื้องต้น ตอนนี้ทางตำรวจยศ ส.ต.อ. อายุ 28 ปี คู่กรณี ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหลังจากได้รับการผ่าตัดนิ้วเท้าข้างซ้ายออกไป 2 นิ้ว คือนิ้วนางและนิ้วก้อย แพทย์ลงความเห็นต้องพักรักษาตัวนาน 2 เดือน เพื่อดูอาการเพราะว่าการผ่านัดอยู่ใกล้กับเส้นเอ็น ส่วนบาดเเผลอื่น ๆ ก็มีศีรษะเเตก ตอนนี้อาการปลอดภัยพ้นขีดอันตรายเเล้ว

420759

จากการสอบปากคำตำรวจนายดังกล่าวเบื้องต้น ทราบว่าเหตุการณ์วันนั้น ตำรวจนายนี้ออกเวรเเล้ว เเละกำลังจะกลับบ้าน ก่อนจะพบผู้ตายขับรถออกจากซอยเเละเลี้ยวซ้ายไปทางเดียวกัน ก่อนผู้ตายจะมีการเบิ้ลเครื่องเหลายครั้ง ในลักษณะท้าทาย ซึ่งเมื่อตำรวจเห็นเด็กผู้ชายมาคนเดียวเเละมีพฤติกรรมดังกล่าว จึงได้ขับตามไปตั้งเเต่จุดทางเเยกอำเภอเมืองเพชร ไปทางมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์ โดยช่วงหนึ่งนายตำรวจขับรถตามเด็กหนุ่มทันและมีการบอกให้หยุดตรวจ แต่เด็กหนุ่มก็มีการก้มหน้าขับรถ ในลักษณะเอาตัวเบี่ยงไปข้างหน้า เเละใช้เท้าพักไว้ที่พักเท้าคนซ้อนด้านหลัง คล้ายกับการนอนขับ เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับรถ และต้องการที่จะหนีตำรวจ เนื่องจากรถของตำรวจมีความเร็วมากกว่ารถของผู้ตาย

จากนั้น เมื่อถึงทางที่เป็นคอขวดคาดว่าผู้ตายน่าจะมีการขับเบี่ยงเพื่อเข้าเส้นทางหลัก ก่อนจะเบี่ยง เสียหลักมาเกี่ยวกับของรถตำรวจ จนทำให้รถสะบัดจนเสียหลักล้มทั้งคู่ และไปกระแทกกับเสาไฟส่องสว่างและเสาป้ายข้างทาง ซึ่งจากการสอบถามแพทย์ชันสูตรศพทราบว่าบริเวณหน้าอกของเด็กหนุ่ม ผู้เสียชีวิตคาดว่าน่าจะถูกกระแทกกับแฮนด์ของรถ ทั้งนี้ ได้มีการสอบถามนายตำรวจคนดังกล่าวถึงเรื่องกล้องพี่ติดกับหมวกของตำรวจหรือติดกับรถ ทราบว่าตัวกล้องถูกใช้งานทั้งวันจนเเบตหมด ทำให้ไม่สามารถบันทึกภาพในช่วงที่เกิดเหตุได้

ขณะนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อกับคำให้การของนายตำรวจคนดังกล่าวแล้วจะต้องมีการหากล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุเพิ่มเติมรวมถึงพยานผู้ที่ขับขี่รถผ่านถนนเส้นที่เกิดเหตุในช่วงนั้น และจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยนายตำรวจว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส