"บิ๊กโจ๊ก" เร่งสรุปสำนวนคดีทุนจีนสีเทา-ออกหมายเรียกเพิ่มเติม พร้อมเผยมีอดีตสารวัตรเอี่ยว!!
วันที่ 2 ธ.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) พร้อมสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พร้อมตัวแทนเจ้าพนักงานอัยการร่วมประชุมพนักงานสืบสวนสอบสวนที่รับผิดชอบการสอบสวนคดีสถานบันเทิงจินหลิง ถนนเจริญราษฎร์ แขวงยานนาวา เขตสาธร กรุงเทพฯ
โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า เป็นการประชุมร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยนำข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆที่ตรวจค้นได้จากหลายจุดมาเข้าสู่สำนวนการสอบสวนคดีเพื่อกำหนดแนวทางการสอบปากคำและเส้นทางการเงินโดยใช้ระบบเทคนิคว่าเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดอื่นอีกหรือไม่ ส่วนทั้งทรัพย์สินที่ยึดมาได้มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ส. ใช้อำนาจดำเนินคดีฐานสมคบและบังคับใช้กฎหมายการฟอกเงินดังนั้นคาดว่าจะเร่งสรุปสำนวนคดีเพื่อส่งให้พนักงานอัยการในเร็ววัน ขณะที่ในกลุ่มของผู้ต้องหาที่ถูกจับจำนวน 102 คน แบ่งเป็นการดำเนินคดี 3 กลุ่มคือความผิดฐานสมคบจำหน่ายยาเสพติด เฮโรอีน และยาบ้า, ความผิดฐาน นอมินี ถือครองทรัพย์สินแทนบุคคลต่างชาติ และความผิดที่เกี่ยวข้องกับการสวมบัตรประชาชน
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่าส่วนความผิดนายเฉิน เจ้าฮุ้ย หรือ โทนี่ 1 ใน 5 กลุ่มทุนจีนสีเทา ดำเนินคดีฐานความผิดเป็นนอมินี ให้คนอื่นถือครองทรัพย์สินแทน ส่วนความผิดอื่นยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ทั้งนี้ส่วนการขยายผลความเชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องกับนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ตำรวจออกหมายเรียกเพิ่มเติม 3 คนคือ นางพัชรินทร์ หลบหนีอยู่ในประเทศไทย นางสุชาดา และอดีตนายตำรวจระดับสารวัตรคนหนึ่ง ทั้ง 3 คนมีข้อมูลว่าร่วมกันเป็นกรรมการบริษัทที่มีนายตู้ห่าว เป็นประธาน ดังนั้นหากควบคุมตัวทั้ง 3 คนได้เชื่อว่าจะพบทรัพย์สินที่เป็นเงินสดอีกจำนวนมาก เนื่องจากตั้งข้อสังเกตว่าเงินสดที่ยึดได้จากนายตู้ห่าว มีเพียงแค่หลักแสนบาทจึงเป็นไปไม่ได้ที่นักธุรกิจระดับนี้จะมีเงินสดอยู่ในบัญชีแค่ 100,000 บาท
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานที่เก็บได้จากเครื่องบิน อำเภอบ่อฝ้าย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ระหว่างส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบเกี่ยวกับยาเสพติด DNA และรอยนิ้วมือแฝง เนื่องจากขณะตรวจค้นสุนัขที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดมสารเสพติดมีพฤติกรรมที่แสดงออกชัดเจน นอกจากนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำกัปตัน ที่มีชื่อเป็นผู้ขับเครื่องบินดังกล่าวแล้ว โดยกัปตันให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เปิดเผยข้อมูลของบุคคลที่ใช้เครื่องบินเป็นไปตามที่มีเอกสารหลักฐานยืนยันไว้ชัดเจนก่อนหน้านี้ แต่ในส่วนรายละเอียดว่ามีการใช้สารเสพติดบนเครื่องบินหรือไม่กัปตันไม่ได้ยืนยันในส่วนนี้
.jpg)
