"ย่า" เด็กนั่งพี้กัญชาริมหาดพัทยาเปิดใจ หลานมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง!

2 ธ.ค. 65

"ย่า" เด็กนั่งพี้กัญชาริมหาดพัทยาเปิดใจ หลานมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงหลังคบเพื่อน ยอมรับกลัวตาย! วอนหลานกลับตัว เป็นคนดี

จากกรณีที่ปรากฏภาพทางโลกโซเซียล เด็กกำลังนั่งพี้กัญชาด้วยบ้องไม้ไผ่ ริมชายหาดพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยาควบคุมตัวได้ในขณะกำลังนอนหลับอยู่ริมหายทราย ห่างจากจุดนั่งพี้กัญชาประมาณ 100 เมตร โดยพบประวัติว่า เด็กชายเอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ เพิ่งหนีออกมาจากศูนย์บ้านพักเด็กและครอบครัวบางละมุง

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ( 2 ธ.ค. 65 ) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านพักหลังหนึ่ง ภายในหมู่พัทยารุ่งเรือง ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยได้พูดคุย กับนางทองสา (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี เป็นย่าแท้ๆ ของ ด.ช.เอ นามสมมุติ อายุ 10 ขวบ เด็กพี้กัญชารายนี้ เบื้องต้น คุณย่า เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า หลานเป็นลูกของลูกชายคนโต โดยพ่อกับแม่เด็กแยกทางกัน ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ หลังจากนั้นพ่อเด็กก็หนีไปเพราะเรื่องหนี้สิน ส่วนแม่เด็กรู้เพียงว่าทำงานอยู่ จ.ระยอง

ในอดีต ด.ช.เอ เป็นเด็กเรียบร้อย พูดจาเพราะ เวลาเรียกย่า จะเรียก “ย่าครับ” ทุกคำ ต่อมาช่วงอายุ 7 ขวบ ก็เริ่มมีพฤติกรรมลักขโมย ตามร้านค้า ร้านขายของชิ้นละ 20 บาท และ ถูกจับส่งตำรวจเป็นประจำ

จนช่วงเมื่อต้นปีนี้ที่ผ่านมา เริ่มมีพฤติกรรมติดเพื่อนชอบหนีออกจากบ้านกลับมาบ้านก็ชอบมาทะเลาะกับย่า จึงตัดสินใจขอส่งเด็กให้บ้านพักเด็กและครอบครัวเพื่อดูแลและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่ไปอยู่ได้ไม่กี่วันหลานก็หนีออกมา  จนล่าสุดเมื่อต้นพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลานพยายามจะเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเพื่อไปอยู่ที่อื่น ย่าพยายามห้ามจนเกิดการฉุดกระชากกัน แต่สุดท้ายก็ถูกหลานกระโดดถีบกระโดดต่อยและเอาหมวกกันน็อกฟาดจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนหลานก็หนีไปจากนั้นก็ไม่ทราบข่าวหลานอีกเลย ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กติดต่อมาเมื่อเช้าว่าจะรับหลานกลับไปเข้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจ.ชลบุรี

นางทองสา (สงวนนามสกุล ) อายุ 63 ปี ยอมรับว่ารู้สึกตกใจ ที่เห็นข่าวว่าหลานไปดูดกัญชากับเพื่อน อีกทั้งยังยอมรับว่าหลานเป็นเด็กขาดความอบอุ่นไม่มีพ่อแม่คอยเลี้ยงดู แต่จะให้เอาหลานกลับมาเลี้ยงดูก็คงรับไม่ไหว เพราะไม่รู้ว่าจะถูกหลานฆ่าตายวันไหนพร้อมทั้งอยากบอกหลานว่า “อยากให้เค้าเป็นเด็กดี กลับตัวกลับใจ  สิ่งไหนไม่ดีก็ขอให้เลิกทำ” ก่อนปิดท้ายอีกว่าที่หลานเป็นแบบนี้ ก็เพราะว่ารุ่นพี่และเพื่อนพาหลานเสียคน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส