โม่งเหี้ยมฆ่าชิงทองเจ๊ เด็ก 3 ขวบรอดตาย แฉพิรุธเสื้อชมพูสะกดรอยยิง (คลิป)

30 พ.ย. 65

เมื่อเวลา 18.55 น.วันที่ 29 พ.ย. 65 ตำรวจ สภ.นครปฐม ได้รับแจ้งจากมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ว่ามีเหตุคนหมดสติภายในบ้าน ทางมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ ถึงที่เกิดเหตุพบว่าไม่ใช่เหตุหมดสติ แต่เป็นเหตุโดนยิงอาการสาหัส มีรอยกระสุนที่ลำตัว ทางมูลนิธิได้ทำการ CPR ผู้บาดเจ็บไม่พบสัญญาณชีพและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

187788936450

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวเฮาส์ 2 ชั้นติดริมถนน ม.9 ต.หนองงูเหลือม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 รายทราบชื่อ นางสาวน้ำอ้อย เวสสะภัคดี อายุ 46 ปี สภาพนอนหมดเสียชีวิตบริเวณหน้าบ้าน สวมเสื้อลายสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีดำ มีรอยเลือดบริเวณหน้าอกข้างซ้ายทะลุด้านหลัง ตรวจสอบพบเป็นกระสุนปืนยังไม่ทราบขนาด ใกล้กันพบเป็นมีดเหรียญตกอยู่บริเวณศีรษะผู้ตาย

186664

กล้องวงจรปิด บริเวณร้านค้าก่อนถึงบ้านคนตายประมาณ 800 เมตร วันที่ 29 พ.ย. 65 ช่วงเวลาจริงประมาณ 15.18 น. จับภาพรถมอเตอร์ไซต์เวฟสีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คนขับใส่เสื้อสีชมพู ปลอกแขนสีดำ หมวกกันน็อกสีดำ รองเท้าลักษณะสีเทา กางเกงขายาวสีดำ ขับผ่านกล้องบริเวณจุดดังกล่าวมุ่งหน้าไปที่บ้านของนางสาวน้ำอ้อยคนตาย

273575

ประมาณ 15.25 น. จับภาพรถคนร้ายขับออกจากหมู่บ้าน หลังจากคาดว่าเข้าไปขับวน แต่เป็นช่วงที่ก่อนช่วงเวลาคนตายจะออกไปรับหลานที่โรงเรียนห่างจากบ้านประมาณ 4 กิโลเมตร หลังจากที่ไปเห็นความเคลื่อนไหวจึงได้ขับออกไป ไม่ได้ก่อเหตุช่วงเวลาประมาณดังกล่าว และหลังจากที่รถคนร้ายขับออกไปแล้ว เวลาประมาณ 15.30 น. คนตายก็ขับตามหลังออกไป เพื่อไปรับหลานที่โรงเรียน

476513

จนกระทั่งกล้องวงจรปิดตัวเดิมจับภาพได้ต่อช่วงเวลาประมาณ 15.37 น. ภายหลังนางสาวน้ำอ้อยคนตายซึ่งขับรถฮอนด้าคลิกสีขาว สวมใส่เสื้อลายเสือ ตัวเดียวกันกับที่ถูกยิงตาย โดยมีหลานสาววัย 3 ขวบนั่งซ้อนท้าย เวลาประมาณ 15.38 น. รถมอเตอร์ไซค์คนร้ายที่มีการขับวนก่อนหน้านี้ ขับตามหลังรถคนตายเข้าไปทิ้งห่างประมาณ 10-20 เมตร เป็นภาพวงจรปิดสุดท้ายที่เห็นเบาะแสว่าตัวของคนก่อเหตุขับรถตามหลังรถคนตาย

946941

และนอกจากนี้ ทีมข่าวได้รับภาพนิ่งจากกล้องวงจรปิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการตรวจสอบและเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยจะเห็นว่าตัวของคนก่อเหตุนั้นได้มีลักษณะขับผ่านวนไปมาบริเวณหน้าบ้านคนตาย และยังมีการจอดบางช่วงบริเวณไร่อ้อยตามที่มีพยานพบเห็น

203880

วันที่ 30 พ.ย. 65 นางสาวณิรดา เวสสะภักดี หรือ นัท ลูกสาวคนตาย พาทีมข่าวเข้าไปดูภายในบ้าน บริเวณชั้นล่าง จุดที่นางสาวน้ำอ้อยผู้เป็นแม่นอนเสียชีวิต อยู่ใกล้กับห้องกระจกที่หลานสาวคนตายวัย 3 ขวบ กำลังนั่งดูทีวี และนั่งเล่นอยู่บริเวณจุดดังกล่าว ดังนั้นในช่วงเวลาก่อเหตุ จึงได้มีการก่อเหตุยิงนางสาวน้ำอ้อยต่อหน้าหลานสาววัย 3 ขวบ ซึ่งกำลังนั่งเล่นอยู่ด้านในห้องกระจกสีดำ แต่สามารถมองออกมาเห็นได้ชัดเจน และตัวของนางสาวณิรดา พาทีมข่าวเข้าไปนั่งบริเวณเตียงในห้องกระจก จุดดังกล่าวคือที่เด็ก 3 ขวบ นั่งเล่นตุ๊กตาและดูทีวีอยู่ แต่หลังจากที่มีการทะเลาะกันก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้น เด็ก 3 ขวบ ได้วิ่งไปหลบที่มุมเสาและบริเวณใต้โต๊ะ แล้วแอบส่องดูพฤติกรรมความเคลื่อนไหวข้างนอก ซึ่งถือว่าเป็นการก่อเหตุต่อหน้าเด็ก

771889

นางสาวณิรดา เผยว่า เมื่อวานนี้ตนเองกับสามีออกไปทำงานนอกบ้าน โดยไกลออกไปเกือบ 20 กิโลเมตร จึงปล่อยให้นางสาวน้ำอ้อยผู้เป็นแม่ อาศัยอยู่กับลูกของตนเองเพียงลำพัง แต่ช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุเวลาประมาณ 15 นาที ตนเองได้โทรศัพท์ให้ผู้เป็นแม่ออกไปรับลูกสาวที่โรงเรียน ตอนที่แม่กลับมาถึงบ้านตนเองก็คุยกันจนกระทั่งสายสุดท้าย ยังไม่มีอะไรผิดปกติ แม่บอกกับตนเองว่าถึงบ้านแล้ว

ช่วงเวลาเกิดเหตุ ตนเองเชื่อว่าตัวของคนก่อเหตุนั้นได้มีการขับรถวนดูลาดลาว ตามที่มีพยานบอก เห็นว่าตัวของคนก่อเหตุนั้นมีการขับรถมอเตอร์ไซค์สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับมาวนดูหน้าบ้านก่อนที่จะไปจอดอยู่ไร่อ้อยห่างออกจากตัวบ้านประมาณ 10เมตร โดยมีการจอดรถเพื่อสูบบุหรี่รอดูความเคลื่อนไหว จากนั้นเมื่อศพโอกาสเห็นว่าแม่รับลูกตนเองกลับมาถึงบ้านแล้ว จึงได้ใช้โอกาสเข้ามาก่อเหตุ แต่ตอนนั้นโชคดีที่ลูกสาวของตนเองกำลังทะเลาะกับแม่ ซึ่งเกิดความไม่พอใจที่แม่ของตนไม่ยอมให้เล่นโทรศัพท์ ลูกสาวจึงได้มีอาการงอนแล้วเข้าไปเล่นภายในห้องกระจก ซึ่งก็อยู่คนละส่วนกับจุดที่แม่ของตนเองถูกยิง

แต่หลังจากเกิดเหตุลูกสาวของตนเองก็จำเรื่องราวได้ทั้งหมดเพราะสามารถมองเห็นผ่านกระจกสีดำ โดยลูกสาวพูดแต่เพียงว่า “อิอ้อยเป็นลม โดยใครทำไม่รู้ นอนอยู่บนพื้น” ซึ่งคำพูดดังกล่าวก็เป็นคำพูดตามประสาเด็ก เข้าใจว่าเด็กยังจับต้นชนปลายอะไรไม่ได้ และแม้ว่าตำรวจพยามที่จะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐานคนร้าย ด้วยความเป็นเด็กก็จำอะไรมากไม่ได้เช่นกัน การก่อเหตุครั้งนี้ก็เข้าใจว่าแม้จะไม่มีการยิงต่อหน้าเด็ก แต่เด็กก็เห็นทุกพฤติกรรมความเคลื่อนไหว

391402

สำหรับประเด็นที่ตำรวจตั้งเป้าคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นมูลเหตุเกี่ยวกับการชิงทรัพย์ ประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว และรวมถึงประเด็นชู้สาว เบื้องต้น ตนเองเชื่อว่าแม่ไม่เคยขัดแย้งกับใคร ส่วนประเด็นชู้สาวยิ่งมีความเป็นไปไม่ได้ เพราะแม่ไม่ได้คบหากับใครอยู่แต่กับคนในครอบครัว แต่ตนเองพุ่งเป้าไปที่ประเด็นชิงทรัพย์เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเนื่องจากสร้อยคอทองคำของแม่หายไป แต่ก็แปลกเล็กน้อยว่าทำไมเงินสดที่อยู่ติดตัวหลักพะนบาท รวมทั้งโทรศัพท์ และแหวนที่สวมใส่อยู่ไม่ถูกขโมยไปด้วย จึงอยากทำให้ตำรวจเร่งล่าตัวให้ได้โดยเร็ว ตัวเองอยากรู้ชนวนเหตุว่าทำไมต้องทำกับแม่ตนเองแบบนี้

 

500813

หลังจากเกิดเหตุแล้วทางครอบครัวได้มีการล้างทำความสะอาดคราบเลือด แต่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ มีการจัดเตรียมงานก่อนที่จะรับศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศล บ้านหลังดังกล่าวอยู่อาศัยกัน 4 คน คือ นางสาวน้ำอ้อยคนตาย, นางสาวณิรดา เวสสะภักดี หรือนัท ลูกสาวคนตาย, นายภาณุยศ บุญนราพิทักษ์ ลูกเขยคนตาย และหลานของคนตาย วัย 3 ขวบ

 

281824

นางสาวใบชา (นามสมมติ) แม่ค้าในตลาด เผยว่า เมื่อวานนี้บรรยากาศที่ตลาดจะมีแม่ค้ามาตั้งร้านจำนวนมาก เนื่องจากมีตลาดนัด และคาดว่าอาจจะมีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าโหวกเหวกโวยวายเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ไม่มีใครทันสังเกตว่าตัวของนางสาวน้ำอ้อยหรือเจ๊น้ำอ้อยไปมีเรื่องกับใคร เพราะมารู้อีกทีก็คือช่วงเวลาประมาณ 2-3 ทุ่ม ที่เจ้าตัวถูกยิงตายที่บ้าน ก่อนที่ชุดสืบสวนจะย้อนกลับมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อ ใกล้กับตลาดนัด และมีการสอบปากคำแม่ค้ารวมถึงคนที่เห็นเหตุการณ์เกี่ยวกับรูปพรรณสันฐานคนที่คนตายทะเลาะด้วย แต่ส่วนตัวไม่ได้ทราบเพราะไม่ได้อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุโดยตรง แต่พอทราบจากคำบอกเล่าของกลุ่มแม่ค้าด้วยกันปากต่อปาก ทำนองว่าคนตายมีปากเสียงเล็กน้อยกับใครบางคน แต่ก็ไม่มีใครชี้ชัดได้ว่าคนดังกล่าวนั้นจะใช้คนร้ายหรือไม่

แต่สำหรับนิสัยส่วนตัวของเจ๊น้ำอ้อย ยอมรับว่าเป็นคนดี อัธยาศัยดี พูดจาไพเราะ ไม่ได้มีเรื่องราวอะไรกับใคร แต่ถ้าหากจะเป็นเบื้องลึกแล้วตนเองก็ไม่ทราบว่าจะมีชนวนเหตุส่วนตัวหรือไปขัดแย้งกับใครหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเมื่อวานก็ต่างคนต่างวุ่นวายกับการขายของ ตนเองก็มองว่าน่าจะเป็นประเด็นชนวนเหตุที่น้อยเกินไป แต่ทั้งนี้ก็คงหวังพึ่งตามกระบวนการสืบสวนของตำรวจ เพราะเชื่อว่าการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อเมื่อคืนนี้อาจจะพบเห็นเบาะแสแล้ว

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส