จากกรณีเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 65 มีผู้ปกครองพร้อมครูประจำชั้นพานักเรียนชั้น ป.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ อายุ 12 ปี ทราบชื่อน้องแก้ว (นามสมมติ) เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากน้องอ้างว่าถูกเพื่อนบ้านวัย 71 ปี ทราบชื่อนายสมศักดิ์ ก่อเหตุทำร้ายร่างกายข่มขืน กระทำชำเรา จนได้รับบาดเจ็บและเกิดความสะเทือนจิตใจ พร้อมกับสั่งห้ามไม่ให้บอกใคร น้องเล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณวันที่ 25-26 พ.ย. 65
ล่าสุดวันที่ 30 พ.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเดินทางไปยังบ้านของน้องแก้ว (นามสมมติ) บ้านไม้ผสมปูนชั้นเดียว อาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน น้องแก้วอยู่ในการดูแลของจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลอุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ อย่างใกล้ชิด และจะมีการสอบปากคำโดยสหวิชาชีพอีกครั้ง เนื่องจากน้องยังเป็นเยาวชนและเป็นผู้พิการประเภท 5 พิการทางสติปัญญา บวกกับหลังเกิดเหตุน้องมีอาการหวาดกลัวและคล้ายซึมเศร้าร่วมด้วย
ขณะเดียวกันวันนี้ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ก็มีเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข นายศราวุธ ทรงโฉม นายอำเภอ, นายศราวุธ พรหมศร ปลัดอำเภอ, คณะผู้ใหญ่บ้าน และ อส.ชุมชน เดินทางมาตรวจสอบบ้านและสอบถามผู้ปกครอง คนในครอบครัวของเด็กเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายสมศักดิ์พร้อมครอบครัวประกอบภรรยา ลูกสาวและลูกเขยได้เดินทางเข้ามาที่บ้านของนางอุดร โดยนายบุญถาวร ลูกเขยของนายสมศักดิ์ ซึ่งเป็นทนายความ เข้าไปนั่งพูดคุยกับนางอุดร เนื่องจากมองว่าครอบครัวตนกำลังถูกกล่าวอ้างในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะพฤติการณ์ที่นางอุดรให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นางอุดร (นามสมมติ) อายุ 77 ปี ยายของน้องแก้ว บอกว่า น้องแก้วเป็นเด็กพิเศษ มีความพิการประเภท 5 พิการทางสติปัญญา มาตั้งแต่ปี 2561 โดยที่ตนไม่รู้สาเหตุว่ามาจากอะไร แต่การเรียนการสื่อสารจะช้ากว่าเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน และกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เดิมทีหลานไม่ได้เล่าอะไรให้ตนฟัง แต่ไปเล่าให้กลุ่มครูที่โรงเรียนฟัง เรื่องรางทั้งหมดก็เป็นไปตามที่ครูได้ให้ข้อมูลกับสื่อฯไปก่อนหน้านี้ และตนก็เชื่อว่าที่หลานเล่า เป็นความจริงทั้งหมดเพราะเด็กไม่โกหก
เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงกลางวันของวันที่ 25-26 พ.ย. 65 หลานเล่าเหตุการณ์ว่าได้เดินไปบ้านนายสมศักดิ์ เพื่อตามหาพี่สาววัย 16 ปีที่ไปเอาเด็กพริกมาทำกับข้าว แต่ไม่เจอพี่สาวและถูกกระทำ โดยจู่ ๆ นายสมศักดิ์ก็เขามาบังคับพาหลานเข้าไปในครัว และพยายามจะกระทำชำเรา แต่คาดว่ากลัวคนเห็นจึงพาหลานไปในห้องนอนภายในบ้าน ใช้เชือกมัดแขนทั้งสองข้างติดกับเตียงนอน จับถอดเสื้อผ้าของหลานออกจนล่อนจ้อนทั้งตัว
จากนั้น นายสมศักดิ์ก็ใช้ผ้ามัดปิดตา แต่จังหวะนั้นหลานได้ใช้เท้าถีบนายสมศักดิ์ไป 1 ครั้ง เพราะตนเคยสอนไว้ว่าถ้าใครมาฉุด ก็เตะผ่าหมากไปเลย และหลานบอกว่าตอนนั้นพยายามคว้ามีดที่อยู่ใกล้มือไว้จะใช้ป้องกันตัว แต่กลับโดนชกเข้าที่ท้องหลาน 1 ครั้ง แล้ว นายสมศักดิ์ก็หอมแก้ม กอดและใช้มือจับบริเวณหน้าอกของหลาน พร้อมกับลูบไล้ แล้วสุดท้ายก็บังคับข่มขืน แล้วก็พูดจาข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใครทั้งสิ้น
ต่อมาเมื่อนายสมศักดิ์ก่อเหตุเสร็จ หลานบอกว่าเป็นจังหวะที่ภรรยาของนายสมศักดิ์เดินเข้ามาในห้องและเห็นนายสมศักดิ์กับหลานอยู่บนเตียงในสภาพที่ไม่ใส่เสื้อผ้าพอดี ภรรยาของนายสมศักดิ์จึงดุด่าหลานประมาณว่าชักชวนสามีเขามาทำอะไรไม่ดีที่บ้าน แล้วก็พา นายสมศักดิ์กลับบ้านไป นอกจากนี้ หลานยังเล่าให้ตนฟังอีกว่าเหตุการณ์ที่ถูกนายสมศักดิ์ข่มขืนนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่หลานโดนมาแล้วหลายครั้ง และถูกขู่ให้ห้ามบอกใครตลอด หลานจึงไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง ส่วนตัวรู้สึกเสียใจมาก นั่งน้ำตาตกทุกวันหลังทราบเรื่อง ไม่เข้าใจว่าทำไมนายสมศักดิ์ทำแบบนี้กับหลาน เพราะที่ผ่านมา 2 ครอบครัวมีมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน ผูกพันกันเสมอมา ดังนั้น ถ้าอยากแสดงความบริสุทธิ์ใจจริงก็ขอท้าให้นายสมศักดิ์สาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ด้านนายสมศักดิ์ มณีวงศ์ อายุ 71 ปี ผู้ถูกกล่าวหา บอกว่าตนเพิ่งจะรู้เรื่องเมื่อเช้าที่ผ่านมา เพราะไปทำธุระที่อำเภอแล้วมีเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีชื่อตนอยู่ในคดีนี้ และถูกระบุว่าเป็นผู้ก่อเหตุ หลังจากนั้นจึงมานั่งหาข่าวอ่าน ก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ว่าเด็กเล่าเรื่องได้เป็นฉาก ๆ ตัวเองยืนยันได้เลยว่าไม่ได้ทำอะไรกับเด็กตามที่ถูกกล่าวอ้าง สามารถเอาตนไปตรวจร่างกายได้ ตอนนี้ตนรู้สึกเหมือนกำลังถูกยัดเยียดความผิด และที่สำคัญตนก็แก่มากแล้ว ไม่รู้จะทำแบบนั้นไปทำไม ถ้าตนทำผิดจริง ตนพร้อมจะรับสารภาพ
ที่ผ่านมาตนไม่เคยมาที่บ้านของน้องแก้วเลย นี่เป็นครั้งแรกที่มา แต่ถ้าถามว่าเด็กเคยไปที่บ้านตนไหม ยอมรับว่าเคยไปประจำ เพราะส่วนใหญ่นางอุดรจะเป็นคนพาหลานสาวทั้ง 2 คนไป อย่างช่วงก่อนออกพรรษาที่ผ่านมา เขาก็พาไปบ้านตน เพราะจะติดรถตนไปทำบุญที่วัดด้วย และนางอุดรมักจะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากตนเสมอ ไม่มีข้าวก็มาขอ ไม่มีเงินก็มายืมกับภรรยาตน ตนก็ยินดีให้ความช่วยเหลือเสมอ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมหวยถึงมาตกที่ตน แต่ลึก ๆ ก็แอบคิดว่าเขาคงมองว่าตนมีเงินหรือเปล่า
ดังนั้น ตนขอลั่นวาจาตรงนี้เลยว่าหากตนทำจริง ให้ลงโทษด้วยการตัดหัวตัดอวัยวะเพศได้เลย ไม่ต้องติดคุก 20-30 ปีให้เสียเวลา เพราะตนไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
นายสมศักดิ์ วขอขอแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการไปจุดธูป 3 ดอกในห้องพระ พร้อมกับกล่าวคำสาบานต่อหน้าพระพุทธรูป พระสยามเทวาธิราช และรูปถ่ายบรรพบุรุษ แล้วพูดเป็นภาษาอิสาน แปลเป็นภาษากลางว่า "สาธุ เทพบุตร เทวดาที่ข้าเคารพบูชาและปกปักรักษา ถ้าข้าได้ข่มขืน ก็ขอให้ข้ามีอันเป็นไป ถ้าข้าไม่ได้ข่มขืน ก็ขอให้ข้าอยู่เย็นเป็นสุข ขอให้ถูกหวยรางวัลที่ 1 ต่อหน้าผู้สื่อข่าวนี่แหละ สาธุ ถ้าข้าได้ทำผิด ก็ขอให้มีอันเป็นไปภายใน 3 วัน 7 วัน แต่ถ้าไม่ได้ทำความผิด ก็ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญ” แล้วก็ปักธูปลงกระถาง ก่อนจะกราบพระ 3 ครั้ง"
หลังจากนั้นเจ้าตัวยังพาทีมข่าวไปดูห้องครัวที่ผู้กล่าวหา ซึ่งเป็นห้องครัวที่อยู่นอกบ้าน ภายในก็เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำครัวปกติ มีประตูด้านหน้า ถูกปิดทึบด้วยปูนซีเมนต์ ไม่มีกล้องวงจรปิด และมีตู้เย็นซึ่งใช้งานไม่ได้อยู่ 1 ตู้ เจ้าตัว ภรรยาบอกว่าครั้งล่าสุดที่ น้องแก้วมาที่นี่คือเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ตอนนั้นตนจับได้ว่าน้องแอบเข้ามาขโมยเหรียญในตู้เย็น พอตนเห็นก็เลยเข้ามาตำหนิไป แต่ก็ไม่ได้เอาเหรียญจากในมือน้องคืนเพราะสงสาร และก็ขับรถจักรยานยนต์พาไปส่งบ้าน
นางสมจิต มณีวงศ์ อายุ 63 ปี ภรรยาของนายสมศักดิ์ ยืนยันกรณีที่มีการเอาตนเข้าไปเกี่ยวข้องว่าไปดุด่าน้องแก้ว ขณะที่เข้าไปเห็นสามีล้อนจ้อนอยู่กับน้อ ไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน ตนไม่เคยปบ่อยให้สามีอยู่กับเด็กสองต่อสอง ถ้าเด็กไปที่บ้าน เด็กก็จะอยู่กับตนตลอด