จนท.รวบชายพกปืน-กระสุน ก่อนเข้ารวมงานเกษตรกรไปเจอ “บิ๊กตู่”

30 พ.ย. 65

ระทึก! รวบชายพกปืน-กระสุน ก่อนเข้าร่วมงานเกษตรกร ไปพบนายกฯ "บิ๊กตู่" ด้าน "บิ๊กตู่" เผยจะได้อยู่ต่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้ง

 

วันนี้ 30 พ.ย.  ที่บริเวณริมสระน้ำ บ้านเชียงคาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวตอนหนึ่งขณะร่วมวงเสวนา “การปฏิวัติการทำนาสู่ความยั่งยืน” ว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่นายกฯ มีความสุขได้อยู่ท่ามกลางพวกเรา เพราะในความคิดของรัฐบาลและนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล มุ่งหวังทำอย่างไรให้เรามีรายได้สูงขึ้น เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันซึ่งยากพอสมควรที่ผ่านมาเราอาจจะแก้ปัญหาตรงนู้นบ้างตรงนี้บ้าง แต่วันนี้ดีใจที่เห็นความก้าวหน้า ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลและของตนที่ได้ให้แนวทางไว้ วันนี้งานเยอะหลายอย่างด้วยกัน แต่ทำเพื่อพี่น้องประชาชนคนไทย อยากเห็นรอยยิ้มจากพวกเราทุกคนว่าเมื่อไหร่เราจะลืมตาอ้าปากได้สักที เมื่อไหร่เราจะหมดหนี้สิน ไม่ต้องทนทุกข์ เพราะทนทุกข์ในหลายเรื่องจากปัญหาต่างๆ ที่ทุกคนเผชิญอยู่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ตนคิดอยู่ตลอดว่า ทำอย่างไรให้ทุกคนลืมตาอ้าปากได้ให้มีรายได้ที่เพียงพอที่จะใช้จ่าย ซึ่งหลายอย่างมีการพัฒนาแล้ววันนี้ วันหน้าประเทศไทยเปลี่ยนอีกเยอะจะบอกให้ ลองเปิดดูในโทรทัศน์วันนี้บ้านเมืองโตไปมากแล้ว ทุกคนต้องพัฒนาไปตามการเจริญเติบโตของบ้านเมืองไปด้วย นี่คือศักยภาพของเราทำอย่างไรไม่ให้ศักยภาพสูญเปล่า ซึ่งเราเป็นแหล่งข้าวแหล่งน้ำอยู่แล้ว ชาวนาทุกคนจะเป็น Smart Farmer ได้หรือไม่ ซึ่งทุกอย่างต้องอาศัยความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ วันนี้นั่งรถเกี่ยวข้าว ทดลองดูนิดหน่อยเวลาขับแล้วเป็นยังไงนึกถึงพวกเราถึงมีรถมันก็ร้อน นั่งทั้งวันคนเดียวก็จะบ้าเหมือนกัน แต่เขาต้องอดทนไม่มีใครอดทนเท่าคนไทยได้อีกแล้ว

"รายละเอียดทุกอย่างผมมีอยู่หมดแล้ว แต่วันนี้อยากฟังจากปากทุกคนเอง เพราะทุกคนคือคนทำ ฟังจากปากคนทำแสดงว่าทำจริง อะไรก็ได้ถ้าทำจริงจังมันก็จะสำเร็จ ผมไม่ชอบหลอกลวงอะไรกัน เพราะต้องการทำให้ประเทศนี้ดีขึ้น พวกเราทุกคนดีขึ้นเราจะอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากอธิบดีกรมการข้าวและตัวแทนเกษตรกร

นายกรัฐมนตรึ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคน ถือเป็นสิ่งที่นายกฯ ดีใจและยินดี รัฐบาลดีใจนี่คือการจุดประกายของพวกเราขึ้นมาโดยพวกเรากันเองร่วมกับรัฐบาล เราพูดกันมานานแล้วในเรื่องของตลาดทางการผลิต ซึ่งมันไม่ใช่แค่นั้น วันนี้เราเจาะไปในไส้ในห่วงโซ่ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ข้าว เรื่องที่ดิน ปุ๋ยอินทรีย์ เรื่องน้ำ และเรื่องอื่นๆ พร้อมเอาความต้องการของโรงสีในพื้นที่ ถ้ากำหนดพื้นที่ให้ได้ว่าปลูกอะไรก็จะสะดวกในการจัดระเบียบและไปสู่การส่งออกตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเราต้องทำกระบวนการขั้นต้นของเราให้แข็งแกร่งตั้งแต่การผลิต แปรรูป การเพิ่มคุณภาพ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่โลกให้ความสำคัญที่สุดการแก้ปัญหาโลกร้อน หากเราทำก่อนเราก็จะมีโอกาสก่อนประเทศอื่น เพราะวันหน้าเราต้องถูกกีดกันทั้งในเรื่องการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์โดยไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ถ้าเราทำอินทรีย์ทั้งหมดเราสามารถขึ้นทะเบียนได้ว่าเป็นสินค้ารักษ์โลก ภาษีก็จะลดลงอีก รายได้ก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งตนพูดในเวทีเอเปคไปแล้วในการสนับสนุนสินค้า BCG ซึ่งหลายอย่างเป็นปัญหาการกีดกันการค้า นอกจากเรื่องสงคราม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนมาเพื่อติดตามความก้าวหน้าของทุกคน ไม่ได้มาเพราะเรื่องอื่นๆ วันนี้เราต้องมองให้ไกล ถ้ามองใกล้ตัวมันก็เห็นแต่ความทุกข์ จึงต้องมองนอกจากตัวเองไปถึงคนอื่นและกลไกที่เกี่ยวข้องกับคนอื่น รัฐบาลจึงจะช่วยได้ ยืนยันว่าตนจะสนับสนุนในโครงการเหล่านี้ต่อไปตราบใดที่ยังอยู่ พร้อมวางรากฐานให้รัฐบาลต่อๆ ไปด้วย ไม่เช่นนั้นมาพบทุกคนก็เจอกันแบบเดิม หน้าแห้งทุกที ทำนาเสร็จไม่รู้ไปไหนเข้ากรุงเทพฯ เข้าเมืองหางานทำ ซึ่งวันนี้งานไม่ได้หาง่ายนัก

จากนั้น พลอ.ประยุทธ์ ได้เดินพบปะทักทายเกษตรกร อย่าวอารมณ์ดี พร้อมขอให้ทุกคนโชว์ รอยยิ้มสยามให้ดูหน่อย ยิ้มกว้างๆ พร้อมระบุช่วงหนึ่งว่า  วันนี้แพ้อากาศน้ำมูกไหลแต่ไม่ได้เป็นโควิดตรวจแล้ว และย้ำว่าขอให้ทุกคนระวังด้วย ไม่ได้บอกให้ตระหนก แต่วันนี้การท่องเที่ยวเราดีขึ้นต่อเนื่องหลังจากเปิดประเทศ ถ้าบ้านเมืองไม่สงบ มีปัญหา ทะเลาะเบาะแว้งก็ไม่มีใครมา ก่อนจะกล่าวว่า "เดี๋ยวหาว่ามาทำการเมือง ไม่ได้ทำการเมือง มาทำการบ้าน มาติดตามงานแบะนโยบายที่ให้ไว้ ทั้งหมดจะอยู่แค่ไหนเป็นเรื่องของประชาธิปไตยการเลือกตั้งว่ากันไป วันนี้ไม่ได้มาเรื่องการเมืองนะ เดี๋ยวจะโดนอีก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวพร้อมกับยิ้ม

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินมาถึงเพื่อร่วมเสวนาฯ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และหน่วยตรวจสอบวัตถุระเบิดและวัตถุต้องสงสัย ( EOD) ได้ตรวจพบและทำการควบคุมตัว นายวิชาญ กาวีวงค์ อายุ  66 ปี ชาว ต.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรองประธานศูนย์ข้าวชุมชนจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากตรวจยึดอาวุธปืนปากกาไทยประดิษฐ์ และลูกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 6 นัด ปละกระสุนไม่ทราบขนาด อีก 1 นัด

โดยถูกตรวจพบและควบคุมตัวขณะซุกซ่อนอาวุธปืนไว้ขณะเดินผ่านเครื่องตรวจอาวุธ ก่อนเข้าภายในงานทางเจ้าหน้าที่ (EOD) จึงทำการตรวจค้นจนพบอาวุธดังกล่าว จึงส่งต่อไปยังกองอำนวยการร่วม และอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยมีรายงานว่า นายวิชาญ อ้างว่าปืนปากกาและอาวุธที่พบนั้นเป็นของบุตรชาย ที่เสียชีวิตไปแล้ว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม