เด็ก 4 ขวบดับ โรงเรียนอ้างล้มหัวฟาดโต๊ะ พ่อแม่ขอดูกล้องวงจรปิดบอกเสีย

30 พ.ย. 65

พ่อแม่คาใจ! ลูก 4 ขวบล้มหัวฟาดโต๊ะดับ ขอดูกล้องวงจรปิด โรงเรียนเอกชนชื่อดังอ้างเสีย ช่วยค่าทำศพ 20,000 ยืนยันเป็นอุบัติเหตุ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 30 พ.ย. 65 ที่ สน.ภาษีเจริญ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม พา นายพนิต อายุ 33 ปี และ น.ส นภาพร  อายุ 26 ปี พ่อและแม่ของ ด.ช.พชร หรือ "น้องภูผา" อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งย่านภาษีเจริญ เข้าพบ พ.ต.อ.ชัยพันธุ์ เพ็ชรสดศิลป์ ผกก.สน.ภาษีเจริญ หลังบุตรชายเสียชีวิตจากสาเหตุเลือดออกเหนือเนื้อเยื่อหุ้มสมอง ในคืนวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่น้องภูผากลับถึงบ้านหลังเดินทางไปเรียนหนังสือ

แม่น้องภูผา เล่าว่า ช่วงเช้าวันดังกล่าวน้องภูผา เดินทางไปเรียนตามปกติ กระทั่งเวลา 16:00 น. คุณปู่ได้เดินทางไปรับน้องกลับจากโรงเรียน และต่อมาเวลา 17.00 น. ทางครูได้โทรศัพท์มาบอกว่า น้องภูผาสะดุดสายกระเป๋าสไปเดอร์แมน ซึ่งเป็นกระเป๋านักเรียนของน้องเอง ล้มศีรษะกระแทกโต๊ะเรียนระหว่างนำดินสอไปเหลา ทำให้แก้มบวม หากน้องมีอาการปวดหัวให้พาไปพบแพทย์ เนื่องจากหลังเกิดเหตุเมื่อตอนบ่ายวันเดียวกัน น้องมีอาการแก้มบวมและร้องไห้อ้อนครูมากผิดปกติ

ตนจึงได้รีบเดินทางกลับบ้านเพื่อจะดูอาการของลูก พบว่าลูกมีอาการอยากจะนอนและดูซึมลงไปไม่ร่าเริงเหมือนเช่นทุกวัน ประกอบกับมีการแสดงอาการเจ็บที่บริเวณใบหน้า ตนเองจึงปล่อยให้ลูกนอนเพราะคิดว่าลูกคงแค่เจ็บแผลและปวดหัว ไม่เป็นอะไรมาก

กระทั่งถึงเวลา 20.00 น. ตนเองจึงได้เข้าไปปลุกลูกที่นอนอยู่ด้านล่างเพื่อให้ไปอาบน้ำและเตรียมเข้าห้องนอนเพื่อไปโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น แต่ลูกก็แสดงอาการงอแง จึงตัดสินใจนำลูกไปอาบน้ำและเอานมให้ลูกกินเพราะตั้งแต่กลับมาจากโรงเรียนลูกยังไม่ได้กินข้าว ซึ่งระหว่างที่ดื่มนมอยู่นั้นลูกเกิดอาการอาเจียนออกมา ต่อมาในเวลา 22.00 น. ก็มีอาการหน้าซีดมีน้ำลายฟูมปาก จึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล และพยายามเรียกลูกตลอดทาง แต่ลูกก็ไม่ตอบสนอง แพทย์จึงทำการปั๊มหัวใจนานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนน้องภูผาจะจากไป ตนเองเสียใจถึงกับเป็นลมล้มพับจนพยาบาลต้องรีบเข้าปฐมพยาบาล

น.ส.นภาพร ผู้เป็นแม่กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุตนแจ้งความกับ ร.ต.อ.มงคล ชัยศิลป์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ เอาไว้แล้ว ขณะที่นำศพน้องภูผาไปตั้งสวดอภิธรรมและฌาปนกิจเรียบร้อยแล้วที่วัดนาคปรก โดยทางโรงเรียนช่วยค่าทำศพมา 20,000 บาท และตนเองก็พยายามสอบถามทางโรงเรียนตลอดเวลา แต่กลับได้รับคำตอบว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งทำให้ตนเองรู้สึกว่าโรงเรียนเป็นบ้านหลังที่สองและน่าจะเป็นที่ปลอดภัยกับลูกมากที่สุด แต่กลับมาเกิดเหตุแบบนี้ จึงยืนยันว่าหลังจากนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชาย

ด้าน นายพนิต อายุ 33 ปี พ่อน้องภูผา เปิดเผยว่า ตนเองยังติดใจถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุของลูกว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ลูกของตนจึงต้องเจ็บถึงขั้นเสียชีวิต ที่ผ่านมาไม่อยากฟังคำอธิบายจากฝ่ายโรงเรียนเพียงอย่างเดียวจึงอยากดูกล้องวงจรปิดให้ชัดเจน และหากผลจะออกมาเป็นอย่างไรตนเองก็ยอมรับ แต่ทางโรงเรียนอ้างว่ากล้องที่อยู่ภายในห้องไม่สามารถดูได้เพราะเสีย และตนเองยังติดใจว่าทำไมถึงไม่พาลูกไปหาหมอหลังจากเกิดอุบัติเหตุทันที

ทางโรงเรียนอ้างว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะพาเด็กไปโดยพลการ ตนเองจึงอยากถามว่าทำไมไม่แจ้งผู้ปกครองให้มารับเด็กไปโรงพยาบาลเองก็ได้ เพราะถ้าตนเองรู้จะรีบมารับน้องไปส่งโรงพยาบาลโดยทันที

ด้าน พ.ต.อ.ชัยพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการตายผิดธรรมชาติ หลังรับแจ้งความทางโรงพักได้ดำเนินการไปแล้วจำนวน 2 ส่วน คือ 1.ส่งร่างผู้ตาย ไปผ่าชันสูตรที่นิติเวช รพ.ศิริราช กำลังรอผล การชันสูตรอย่างละเอียด จากแพทย์ส่งกลับมา และ 2. ดำเนินการเรียกครูประจำชั้นกับผู้บริหารโรงเรียนมาสอบปากคำ รวมถึงการยึด Server กล้องวงจรปิดและโต๊ะตัวที่มีการกล่าวอ้างว่า ผู้ตายล้มศีรษะไปหระแทกมาตรวจสอบ ซึ่งในส่วนของกล้องวงจรปิดนั้นได้รับแจ้งจากผู้บริหารว่าชำรุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตอนนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน

"จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าในวันเกิดเหตุ เป็นช่วงวิชาวาดเขียน ผู้ตายนั้นนำดินสอไปเหลาบริเวณถังขยะหลังห้องเรียน ระหว่างที่เดินย้อนกลับไปที่โต๊ะเกิดสะดุดสายสะพายกระเป๋าสไปเดอร์แมน ทำให้ศีรษะกระแทกโต๊ะ

ส่วนเรื่องการไม่นำตัวไปที่โรงพยาบาลตั้งแต่ต้นนั้น ทราบว่าขณะเกิดเหตุครูประจำชั้นก็เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่พบบาดแผลจึงนำน้ำแข็งมาประคบปฐมพยาบาลให้แก่ลูกศิษย์เป็นการเบื้องต้น ซึ่งหลังจากนี้หากพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นความประมาทของผู้ใด ก็จะแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เนื่องจากได้มีการเรียกเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเอาไว้ทั้งหมดแล้ว" พ.ต.อ.ชัยพันธุ์ กล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส