โจรเสื้อกล้ามถือมีดบุกเดี่ยวจี้ชิงทอง 29 เส้น มูลค่าเกือบล้านบาท เผ่นหนีลอยนวล

30 พ.ย. 65

โจรเสื้อกล้ามถือมีดบุกเดี่ยวจี้ชิงทอง 29 เส้น มูลค่าเกือบล้านบาท เผ่นหนีลอยนวล ตำรวจเผยเพิ่งมาตรวจร้านแล้วออกไปก่อนเกิดเหตุเพียง 5 นาทีเท่านั้น

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ร.ต.ท.หญิงชนิกานต์ เสถียรไชยกิจ รอง สว.สอบสวน สภ.คูคต รับแจ้งมีเหตุชิงทองที่เกิดเหตุร้านทองออโรร่า เลขที่ 29290 ถนนไสวประชาราษฎร์ คลองสี่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต พ.ต.ท.จิรพัฒน์ ศรีเดช รอง ผกก.ป.สภ.คูคต กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ชุดสืบสวน สภ.คูคต เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน

1669795394525

ที่เกิดเหตุเป็นร้านทองปลูกสร้าง 1 คูหา อยู่ริมถนนไสวประชาราษฎร์ ที่เกิดเหตุพบพนักงานหญิง 2 คนอยู่ในอาการตื่นตกใจ หลังถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คนอายุประมาณ 40-45 ปี ใช้อาวุธมีดปลายแหลมก่อเหตุชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 29 เส้น แล้วหลบหนีไป

พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต เปิดเผยว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าขณะเกิดเหตุมีพนักงานหญิงอยู่ในร้ายจำนวน 2 คน เวลา 11.56 น. มีคนร้ายชาย 1 คน ใช้ จยย.ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คนร้ายสวมเสื้อกล้ามสีขาว สวมหน้ากากอนามัยสีขาว แว่นสายตา กางเกงขายาวสีดำ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 15 เซนติเมตร เข้ามาข่มขู่พนักงานหญิง ก่อนจะเข้าทางประตูเข้าออกเคาน์เตอร์ แล้วเข้าไปคว้าสร้อยคอทองคำใส่มือแล้วใช้มืออีกข้าวหนึ่งแกว่งมีดไปมา ก่อนจะพยายามจะออกจากประตู้นิรภัย แต่พนักงานได้กดปิดไว้คนร้ายจึงใช้อาวุธมีดข่มขู่พนักงานเพื่อให้เปิดประตูแล้วขึ้น จยย.แล้วขี่หลบหนีไปมุ่งหน้าถนนลำลูกกา โดยคนร้ายได้ทองคำรูปพรรณจำนวน 29 เส้น เส้นละ 1 บาท รวมค่าความเสียหายกว่า 870,000 บาท

1669795483746

นายธีรภัทรพยานที่เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองนั่งเล่นเกมอยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ โดยได้ยินเสียงประตูนิภัยดังผิดปกติจึงออกมาดูก็พบว่าคนร้ายได้ก่อเหตุชิงทรัพย์โดยมีอาวุธมีดจึงใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพรูปพรรณคนร้ายไว้ได้บางส่วน

ผกก.สภ.คูคต เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเพิ่งมาตรวจสอบร้านทองลงลายมือชื่อออกไปประมาณ 5 นาทีก่อนที่คนร้ายจะก่อเหตุ หลังเกิดเหตุได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนชุดงานป้องกันปราบปรามออกไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเน้นทางที่คาดว่าคนร้ายขับผ่าน และใช้เทคนิคของตำรวจพร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจพยานหลักฐานเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส