แม่ค้าโต้ถูกพ่อค้าชกหน้าหาเรื่องก่อน ถือค้อนแค่ป้องกันตัว แฉกลับอีกฝ่ายขายของเลียนแบบ

13 มิ.ย. 62
หลังจาก น.ส.ณฎาพัณณ์ เมธีทิตย์เกียรติ อายุ 33 ปี แม่ค้าขายของกิ๊ฟช็อป ตลาดนัดวัดเขาวงจินดาราม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี แจ้งความ สภ.บ่อพลอย ว่าตัวเองและเพื่อน ถูกพ่อค้าร้านกิ๊ฟช็อปในตลาดนัด ทำร้ายร่างกาย เนื่องจากไม่พอใจที่ขายสินค้าชนิดเดียวกัน แล้วไปตั้งล็อกขายสินค้าอยู่ฝั่งตรงกันข้าม หลังก่อเหตุพ่อค้าคนดังกล่าวคู่อาฆาตว่าหากเจอที่ไหนก็จะเข้าไปทำร้ายอีก เหตุเกิดวันที่ 10 มิ.ย. 62
นายสมประสงค์ วังทอง พ่อค้าตลาดนัด (แฟ้มภาพ)
วานนี้ (12 มิ.ย. 62) นายสมประสงค์ วังทอง อายุ 39 ปี พ่อค้าตลาดนัด เปิดใจว่า ตนยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายหญิงทั้ง 2 คนจริง เนื่องจากโมโห ที่ก่อนหน้านี้ตนขายกิ๊ฟช็อปอยู่ที่ตลาดนัด พบหญิง 2 คน มาหาที่ตั้งขายสินค้าเสื้อผ้า กระเป๋ามือสองที่ตลาดนัด ตนเองก็ช่วยเหลือหาที่ตั้งให้ กระทั่งหญิง 2 คน เริ่มเปลี่ยนมาขายสินค้ากิ๊ฟช็อปแบบเดียวกับตน เนื่องจากเห็นว่าตนขายดี และเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันจนถึงขั้นลงมือ เนื่องจากฝ่ายหญิงด่าทอและลงมือก่อนนั้น (อ่าน : พ่อค้ารับผิดชกหน้า 2 แม่ค้า แฉถูกด่า-ตีก่อน แถมเย้ยยกแผงค้ามาขายต่อหน้า)
แผลของน.ส.ณฎาพัณณ์ ผู้ร้องเรียน
แผลของน.ส.ณฎาพัณณ์ ผู้ร้องเรียน
ล่าสุด วันที่ 13 มิ.ย. 62 น.ส.ณฎาพัณณ์ เมธีทิตย์เกียรติ อายุ 33 ปี เปิดเผยว่า การที่นายสมประสงค์ให้สัมภาษณ์นั้น ไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะที่ตนไปขายของแบบเดียวกับนายสมประสงค์เพื่อแย่งลูกค้านั้น ขอชี้แจงว่า ถึงแม้นายสมประสงค์จะขายที่ตลาดแห่งนี้มาก่อนนานหลายปี และตนเป็นคนมาติดต่อนายสมประสงค์ให้ช่วยหาที่ว่างเพื่อจำหน่ายสินค้าให้ แต่สินค้าของตนที่นำมาจำหน่าย เป็นจำพวกกระเป๋าหลากหลายรูปแบบ ไม่ได้เป็นร้านขายกิ๊ฟช็อปแบบที่นายสมประสงค์กล่าวอ้าง ตนไม่ได้ขายแข่งเพื่อแย่งลูกค้า แต่นายสมประสงค์และแฟนสาวต่างหาก ที่เมื่อเห็นว่าร้านตนขายดี ก็พยายามไปหาสินค้าแบบเดียวกับตนมาขาย แต่ตนก็ไม่เคยว่าอะไร เพราะเห็นว่าต่างคนต่างค้าขาย
น.ส.ณฎาพัณณ์ เมธีทิตย์เกียรติ (ขวา) และผู้เสียหาย
แต่วันเกิดเหตุ ตนมาตั้งร้านฝั่งตรงข้ามกับร้านนายสมประสงค์ กลับถูกนายสมประสงค์ต่อว่า และเข้ามาหาเรื่อง ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้ใช้ถอยคำหยาบคาย หรือพูดจายั่วยุ เพราะตนเป็นผู้หญิง รู้ดีว่าไม่สามารถสู้นายสมประสงค์ได้ จึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะทะเลาะด้วย แต่ก็ยังถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนประเด็นที่คู่กรณีบอกว่าตนนำเอาก้อนหินเขวี้ยงใส่ และพยายามใช้ค้อนตีนั้น ยอมรับว่าทำจริง แต่เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น หลังจากถูกทำร้ายอย่างหนักแล้ว ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนบาดเจ็บหนัก เดินไม่สะดวก แพทย์ห้ามยกของหนักเป็นเวลาหลายวัน ทำให้ตนไม่สามารถไปขายของได้ ต้องขาดรายได้ที่จะนำมาจุนเจือครอบครัว ขณะที่คู่กรณีกลับใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่เดือดร้อนใด ๆ ตนจึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีนี้ ช่วยให้ความเป็นธรรมด้วย

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ