เมียโทรตามกิ๊ก ยกพวกมาแทงผัว โมโหไม่ให้ออกไปเที่ยวกลางคืน

28 พ.ย. 65

ผัวห้ามเมียออกเที่ยวบานปลายทะเลาะกันใหญ่โต ฝ่ายเมียโทรตามกิ๊กหนุ่ม ยกพวกบุกห้องพักจ้วงแทงผัวตัวเองเสียชีวิต ฝั่งกิ๊กบาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวรายงานภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าหอพักแห่งหนึ่งในชุมชนเคหะเมืองใหม่บางพลี ตำบลบางเสาธง จังหวัดสมุทรปรากา รจับภาพได้ขณะที่ นายเปรมสุขอายุ 24 ปี พร้อมกับเพื่อนรวมกัน 3 คนพากันขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สีดำไม่ติดป้ายทะเบียนมาที่หน้าหอพักแห่งนี้ ก่อนจะพากันบุกเข้าไปที่ห้องพักห้องหนึ่งที่ชั้น 5 ของหอพัก

โดยภาพวงจรปิดที่ชั้น 5 จับภาพได้ขณะที่กลุ่มผู้ต้องหาไปถึงหน้าห้องและเคาะประตูเรียกฝ่ายหญิงให้เปิดประตู จากนั้นประตูถูกเปิดออกโดยที่ฝ่ายหญิงเดินสวนออกมาด้านนออก แล้วกลุ่มผู้ต้องหาจึงกรูกันเข้าไปในห้องหลุดรัศมีกล้องวงจรปิดไป

ซึ่งจากภาพวงจรปิดดังกล่าวถูกใช้เป็นหลักฐานสำคัญที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้มาและเข้าควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบปากคำก่อนแจ้งข้อหาทั้ง3 คนในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย

หลังจากที่ทั้ง 3 คนได้บุกเข้าไปภายในห้องแล้วร่วมกันใช้มีดทำครัวจ้วงแทงที่หน้าท้องและตามร่างกายหลายแห่งใส่ นายสุริยา อายุ 25 ปี ชาวอำเภอสุวรรณภูมิจังหวัดร้อยเอ็ดจนบาดเจ็บสาหัสและถูกเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลบางนา 2 และทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นอกจากนั้นหลังเกิดเหตุมีรายงานว่านายไชยยาหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาถูกคมมีดที่คิ้วข้างซ้ายจนบาดเจ็บและถูกเพื่อนๆ พาตัวขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปส่งที่โรงพยาบาลก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึง

ความคืบหน้าล่าสุดนักข่าวลงพื้นที่ ภายในห้องจุดเกิดเหตุซึ่งยังพบร่องรอยการต่อสู้และคราบเลือดนองเต็มพื้นห้อง รวมถึงตามผนังข้างห้องยังมีเลือดสาดกระจายทั่วห้องพัก

ด้านผู้ดูแลหอพักแห่งนี้ให้ข้อมูลว่า ห้องเกิดเหตุมีคู่สามีภรรยานี้มาเช่าห้องแห่งนี้ได้ประมาณ 3 เดือน โดยที่ผ่านมามักมีปากเสียงกันบ่อยครั้งจากสาเหตุที่ทราบจากคนข้างเคียงระว่า ฝ่ายหญิงชอบออกไปเที่ยวกลางคืนแต่ฝ่ายชายไม่อยากให้ออกไป จนเกิดมีปากเสียงกัน ล่าสุดทราบว่ามีปากเสียงกันตั้งแต่ช่วงหัวค่ำจนกระทั่งมาเกิดเหตุร้ายดังกล่าว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนของสภ.บางเสาธง ได้ติดตามตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือมาได้ครบแล้วรวม 3 คน ประกอบด้วยนายเปรมสุข/ นายจิระพันธ์ และนายไชยยาศรีวงษา โดยตำรวจได้คุมตัวมาทำประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือและเก็บคราบ DNA ก่อนจะแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย

นอกจากนั้นตำรวจยังเชิญตัว นางสาวกนิษฐา อายุ 22 ปี ภรรยาของผู้ตายมาสอบปากคำและทำประวัติพร้อมทั้งเก็บตัวอย่าง DNA ไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนทางคดี

ฝ่ายหญิงเปิดใจว่า เธอคบและอยู่กินกับนายสุริยาผู้ตายได้ประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมายอมรับว่าตนเองชอบเที่ยวแต่ก็ไม่บ่อย จนมีปากเสียงกันบ่อยแต่ก็ไม่ได้รุนแรง ฝ่ายสามีมักชอบดื่มเบียร์เป็นประจำพอเมาก็มักชวนทะเลาะ มีปากเสียกัน

จนกระทั่งเมื่อช่วงค่ำสามีออกไปซื้อเบียร์มาดื่ม2 ขวดจนเมาได้ที่แล้วเกิดมีปากเสียงกันเพราะฝ่ายสามีเห็นตนเองอาบน้ำแต่งตัวแล้วเข้าใจผิดคิดว่าตนเองจะออกไปเที่ยวจนเกิดปากเสียงกันอีกครั้ง แล้วฝ่ายสามีคว้ามีดขึ้นมาข่มขู่ทำให้ตนเองหวาดกลัว จึงตัดสินใจโทรตามเพื่อนชายคนสนิทที่ทำงานด้วยกัน ซึ่งรู้จักและสนิทสนมกันได้2 เดือนกว่าให้มาช่วยเพราะฝ่ายสามีเมาและมีมีด

จนอีกฝ่ายมาถึงพร้อมกับเพื่อนพอเปิดประตูเข้ามา ฝ่ายสามีซึ่งมีมีดในมือจึงใช้มีดฟันที่คิ้วของเพื่อนกลุ่มผู้ก่อเหตุจนเกิดการต่อสู้และชุลมุนกันสุดท้ายมาพบว่าฝ่ายสามีถูกฟันหลายแผลจึงรีบแจ้งกู้ภัยมาช่วยเหลือ

ด้านนายเปรมสุขชายคนสนิทของฝ่ายหญิงยอมรับว่ารู้จักและสนิทสนมกับฝ่ายหญิงจริงเพราะทำงานที่เดียวกัน ช่วงค่ำก่อนเกิดเรื่องฝ่ายหญิงโทรมาบอกให้มารับเพราะทนสามีไม่ไหว ซึ่งตนเองตอนแรกก็ไม่ได้มา จนกระทั่งช่วงดึกฝ่ายหญิงโทรมาตามอีกครั้งแล้วบอกว่าอีกฝ่ายมีมีดทำทีจะแทงตนเองจึงโทรตามเพื่อนรวมสามคนและพากันมาที่ห้องฝ่ายหญิงเพื่อมาเคลียร์ใจ แต่พอเปิดประตูเข้าไปกลับถูกฝ่ายชายใช้มีดฟันเพื่อนก่อนจนบาดเจ็บจึงเกิดการรุมต่อสู้กันจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

ขณะที่นายจิรพันธ์เพื่อนของนายเปรมสุขบอกว่า ตอนแรกนอนพักอยู่ที่ห้อง นายเปรมสุขมาอ้อนวอนให้พามาส่งและเป็นไปเพื่อนเพื่อจะช่วยฝ่ายหญิง ตนเองจึงพากันมา กระทั่งเกิดเรื่องดังกล่าว

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส