ความคืบหน้ากรณีที่ นายมานพ มาลี อายุ 58 ปี ชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ขับรถยนต์กระบะสี่ประตู บรรทุกแกลลอนน้ำมันจำนวน 5 แกลลอน ใส่ไว้บริเวณที่วางเท้าด้านหลังเบาะคนขับ 2 ถัง และกระบะท้ายอีก 3 แกลลอน พร้อมจุดไฟบริเวณเบาะด้านหลังคนขับ พุ่งชนประตูรั้วเหล็กสำนักงานบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังที่ว่าการอำเภอเมือง ได้รับความเสียหาย ส่วนตัวรถเข้าไปจอดอยู่ใต้อาคารสำนักงานบังคับคดี ในสภาพด้านในตัวรถถูกไฟไหม้ ส่วน นายมานพ คนขับหมดสติเพราะถูกเปลวไฟลวกตามร่างกายและสูดกลิ่นควันไฟเข้าไปจำนวนมาก เหตุเกิดเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 23 พ.ย. 65
ล่าสุดวันที่ 24 พ.ย. 65 นายมานพ ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บุรีรัมย์ แต่อาการดีขึ้นหมอได้ถอดท่อช่วยหายใจออกแล้ว เพราะสามารถหายใจได้ด้วยตัวเองและพูดคุยสื่อสารได้แล้ว
โดยวันนี้ นายมานพ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตั้งใจจะจุดไฟเผาตัวเองในรถ เพื่อต้องการจะเรียกร้องขอความเป็นธรรมและสะท้อนให้ผู้หลักผู้ใหญ่ได้เห็นว่าประชาชนคนหนึ่งกำลังเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยอ้างว่าตอนแรกได้ถูกเต็นท์รถโกงกรณีไปซื้อรถยนต์มือสอง ที่เต็นท์แห่งหนึ่งในราคา 6 แสนบาทเอามาขับได้แค่ 5 เดือนรถเริ่มมีปัญหาทั้งถังน้ำมันรั่ว ประตูปิดไม่ได้จึงเอารถมาคืนเต็นท์ เขาก็หลอกว่าจะทำประกันชั้น 1 ให้โดยเรียกเอาเงิน 30,000 บาทแต่กลับไม่ได้ทำประกันให้จริง จึงตัดสินใจนำรถกลับไปคืนเต็นท์ทั้งที่ผ่อนจ่ายไปแล้ว 5 เดือน แต่ทางเต็นท์ก็เรียกค่าเสียหายเพิ่มอีก 7 หมื่น ซึ่งลูกสาวก็เป็นคนไปจ่ายให้ทั้งหมด
หลังจากนั้นพอลูกสาวเสียชีวิตก็ถูก ธกส.มายึดที่นาที่เป็นชื่อของภรรยาไปอีก 6 ไร่ โดยไม่ทราบสาเหตุทั้งที่ทำนามาตลอดส่งต้นและดอกเบี้ยทุกปี จากนั้นก็มี จนท.รัฐบางคน และทนายความ มาหลอกว่าจะช่วยเดินเรื่องไถ่ถอนที่นาคืนให้จนถึงวันที่มีการขายทอดตลาดตนก็หอบเงินไป 3 แสนเพื่อหวังจะไถ่ที่นาคืน แต่ จนท.คนดังกล่าวกลับบอกว่าที่นาถูกขายไปแล้ว ส่วนเงินที่ให้ไปก็ไม่ยอมคืนให้
กระทั่งเมื่อประมาณปี 64 ก็มี จนท.รัฐหลายคนรวมถึงทนายความ มาหลอกจะช่วยฟ้องร้องขอแบ่งสิทธิในที่ดินมรดกของครอบครัวตนเองหลังจากที่พ่อแม่ได้เสียชีวิต แต่พี่สาวที่ได้สิทธิเป็นผู้ดูแลมรดกไม่ยอมแบ่งให้พี่น้องที่มีทั้งหมด 6 คน จนต้องมีการฟ้องร้องเพื่อขอแบ่งที่มรดกตามกฎหมาย ก็มีเจ้าหน้าที่รัฐและทนายความเสนอตัวจะเข้ามาช่วยเหลือในการฟ้องร้องคดีที่ดินมรดกให้ ซึ่งช่วงที่มีการเดินเรื่องฟ้องร้องต้องยอมขายโรงสี หมูที่เลี้ยงไว้ และจำนองบ้านกับนายทุน เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในการเดินเรื่องฟ้องร้อง จนทุกวันนี้แทบหมดตัวแถมเป็นหนี้ทั้งในนอกระบบสะสมอีกกว่า 3 ล้าน แต่เรื่องก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ที่ดินไปทำมาหากินเลย เคยไปร้องขอความเป็นธรรมหลายหน่วยงานแต่ไม่มีใครช่วยเหลือเลย
กระทั่งเมื่อวานนี้ 23 พ.ย. 65 เป็นวันที่ทนายความนัดมาศาลเพื่อพูดคุยเรื่องคดีที่ดินมรดกแต่ทนายกลับไม่มา ทำให้เกิดความเครียดจึงไปซื้อน้ำมันใส่แกลลอนมา 5 แกลลอน พร้อมพลุ ประทัด ตั้งใจจุดไฟเผาตัวเองในรถเพื่อต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม และให้ผู้มีอำนาจได้รับรู้ และอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ถูกโกง ไม่ได้เจตนาจะทำลายทรัพย์สินราชการหรือทำอันตรายบุคคลอื่น
ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เตรียมเรียก นายมานพ และพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ หากพยานหลักฐานชี้ชัดได้ว่านายมานพ มีเจตนาขับรถพุ่งชนสถานที่ราชการและวางเพลิงก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ฐานทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย และวางเพลิงเผาทรัพย์
ด้าน ทนายสมเกียรติ โรจนวรกมล เผยว่า ตนเคยเจอกับนายมานพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพราะนายมานพติดต่อมาว่าโดนความอยุติธรรมมาหลากหลายซ้ำซาก ก่อนหน้าหน้าทางนายมานพเคยมาพูดคุยกับตนว่าไม่ไหวแล้วทั้งมีหนี้นอกระบบกว่า 3 ล้านบาท ถ้าไม่ไหวจริง ๆ จะตัดสินใจขับรถพุ่งชนกำแพงให้ตายไปเลย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวของนายมานพมีทนายความอีกคนที่คอยช่วยเหลือเรื่องคดีอยู่แต่ตอนนี้ ไม่รู้ว่าทนายคนนั้นอยู่ที่ไหน ตัวของนายมานพเป็นหนึ่งคนที่ถูกชักชวนจากกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีลอกดูดทรัพย์