ไม่ต้องมากราบศพ! เปิดใจเมียลุงถูก 4 ทรชนกระทืบตาย ลั่นไม่อโหสิเชื่อคนแบบนี้ไม่สำนึก (คลิป)

จากกรณีที่มีการเปิดเผยแพร่คลิปชายถูก 4โจ๋รุมทำร้ายจนเสียชีวิต เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริเวณพงษ์สุข อพาร์ทเมนท์ โชคชัย4 ภายในซอยโชคชัยสี่ 36 ทราบชื่อภายหลังผู้ตายคือนายสัจจา ปราศรัย อายุ63 ปี อาชีพขับรถกระป๊อ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ทั้งหมด

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงจับกุม 4 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ได้แก่ นายอาทิตย์ สอนดอนไพร ,นายสุรเชษฐ โพธิ์จาด ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ส่วนนายอำพล คลังทอง และนายณรงค์ชัย รักล้วน ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน ทางพล.ต.ท.ศานิตย์ ระบุว่า  สาเหตุการทำร้ายเกิดจากผู้ตายซึ่งมีอาชีพขับขับรถกระป๊อ เฉี่ยวชนกันกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุจะตามไปทำร้ายร่างกายของผู้เสียชีวิต เจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา ทั้ง2ฝ่ายไม่เคยรู้จักหรือมีปัญหากันมาก่อน ภายหลังสอบปากคำนายอาทิตย์ รับสารภาพว่าก่อเหตุจริงโดยก่อนเกิดเหตุได้ดื่มเบียร์ไป 2ขวด ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

เมื่อตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่านายสุรเชษฐ เคยต้องคดียาเสพติด เมื่อปี 2554 ขณะที่นายอาทิตย์ เคยต้องคดียาเสพติดและพนันทายผลฟุตบอล เมื่อปี 2558 และนายอำพล เคยต้องคดีลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน เขตพื้นที่ธัญบุรี จากการผลชันสูตรศพ พบว่านายสัจจา มีร่องรอยฟกช้ำรอบลำตัว กระดูกใบหน้าหักยุบ กะโหลกศีรษะแตก สมองช้ำบวม กระดูกซี่โครงหักทั้ง2 ข้าง ซึ่งหลังจากนี้จะนำตัวทั้ง4 คนดำเนินคดีต่อไป

ด้านบรรยากาศงานสวดพระอภิธรรมศพของนายสัจจา ปราศัย วัย 63 ปี ที่ศาลา5 วัดสาครสุ่น ประชาสรรค์ เหยื่อ4โจ๋รุมกระทืบที่จนเสียชีวิต เต็มไปด้วยความโศกเศร้าของญาติและคนสนิท ก็ได้เดินทางมาร่วมงานกันประมาณ 20 โดยเจ้าภาพในคืนนี้ ได้แก่ มูลนิธิสยามกตัญญู นางสาวทิภากร บุญพารอด หรือป้าหนิง ภรรยาของลุงสัจจา เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนและสามีอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง ในคืนวันที่เกิดเหตุ เมื่อลุงสัจจากลับถึงห้องพัก บอกว่า มีกลุ่มวัยรุ่น 2 คน ขับมอเตอร์ไซค์ตามมาเพื่อหาเรื่อง ซึ่งตนได้พักก็บอกให้ลุงสัจจา รออยู่บนห้อง และตนจะลงไปพูดเจรจาให้กับเด็กวัยรุ่น 2 คนนั้น ทางลุงสัจจาก็ขอตามลงไปด้วย  เมื่อตนและลุงลงมาด้านล่าง พบวัยรุ่น 2 คน พร้อมกับพวกที่มาเพิ่มอีก 2 คน เป็น 4 คน พากันเข้ามาตนเห็นท่าไม่ดี จึงบอกให้ลุงสัจจาขึ้นห้องไปก่อน ทางลุงสัจจาที่กำลังจะขึ้นไปบนห้องพัก วัยรุ่นก็กรูกันไปรุมทำร้าย

โดยป้าหนิง กล่าวว่า ยอมรับทำใจรับสภาพไม่ได้  มันไม่ต่างอะไรกับหมาแมว ที่ถูกรถทับและนอนตายอยู่กลางถนน ลุงควรจะมีชีวิตที่ยืนยาวกว่านี้ แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงที่ข้างถนน ความรู้สึกของป้าหนิงวันนี้ เมื่อจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้ รู้สึกดีใจมาก เหมือนยกภูเขาออกจากอก ทางลุงสัจจาเองจะได้จากไปอย่างไม่ต้องมีห่วง ส่วนเรื่องที่จะให้ทางผู้ต้องหามาขอขมาศพลุง ตนยืนยันว่าไม่อนุญาตให้มา เพราะเชื่อว่าคนพวกนี้ไม่มีทางสำนึกที่สารภาพออกไปเพราะหลักฐาน และถ้าจะให้อโหสิกรรมหรือจะยกโทษ ตนจะสวดมนต์และอโหสิกรรมให้เอง แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ เพราะหากย้อนไปเป็นคนในครอบครัวทั้ง 4 คน ก็เชื่อว่าก็คงจะโกรธและไม่ให้อภัยกับคนที่ทำแน่นอน

หลังจากสิ้นงานศพลุงก็จะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะย้ายไปอยู่ไหน แต่ไม่อยู่ที่ตรงนั้นแน่นอน เพราะถ้ายังอยู่ที่เดิม ก็จะเห็นในสิ่งเดิมๆเหมือนตอนที่ลุงยังอยู่ ก็จะทำให้คิดถึงลุงมากขึ้น และคงจะทำใจได้ยากขึ้น โดยงานสวดพระอภิธรรม จะมีจนถึงคืนวันที่ 4 กรกฎาคมเป็นคืนสุดท้าย และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันพุธที่ 5 ก.ค. นี้ เวลา 16.00 น. ที่วัดสาครสุ่น ประชาสรรค์