ยาเสพติดล็อตใหญ่ซุกในถังน้ำมัน ผู้ต้องหาอ้างต้องการเงินรักษาเมียป่วย

23 พ.ย. 65

พนง.ขับรถบรรทุกน้ำมันข้ามลาว ลอบขนยาบ้า 3.8 ล้านเม็ด ไอซ์ 10 กก. และยาอี ซุกถังน้ำมันเปล่าเข้าไทย มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท อ้างหาเงินรักษาเมียป่วย

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 พ.ย. 65 ที่ด่านศุลกากรหนองคาย อ.เมืองหนองคาย นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่2, นายวุฒิ เร่งประดุงทอง ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรหนองคาย, ​พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, นายประทีป อุ่ยเจริญ นายอำเภอเมืองหนองคาย,พ.ต.อ.ธานินทร์ อินทพรต ผกก.ตม.จว.หนองคาย ,นายภาคิน เทียบคำ หัวหน้าฝ่ายบริการศุลกากรที่ 1 สำนักงานศุลกากรหนองคาย ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าด่านพรมแดนหนองคาย, นายวศินพิศุต พุทธนิมนต์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามส่วนควบคุมทางศุลกากร, พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร,พิสูจน์หลักฐาน, ตรวจคนเข้าเมือง,ทหาร, ฝ่ายปกครอง

จับยาเสพติด

ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายประสิทธิ์ ปันภูมี อายุ 53 ปี ชาว ต.น้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี พร้อมของกลางยาบ้าประมาณ​3,860,000 เม็ด, ยาอีเม็ดสีม่วงรูปหมี 5,000 เม็ด, ไอซ์ 10 กก. มูลค่ารวมประมาณ​ 100 ล้านบาท โดยทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ในถังน้ำมันรถบรรทุกน้ำมันของบริษัทแห่งหนึ่ง ทะเบียน 71-6842 ชลบุรี ตัวพ่วง 71-7042 ชลบุรี

การจับกุม ยาเสพติด ในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันนี้ขณะที่ นายภาคิน เทียบคำ นำเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบรถยนต์ที่เดินทางเข้าออกประเทศบริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ตามปกติ ได้มีนายประสิทธิ์ ขับรถบรรทุกน้ำมันกลับเข้าประเทศ

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบโดยใช้รถเอ็กซเรย์พบว่ามีความผิดปกติบริเวณถังน้ำมัน ตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่ามีวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ เมื่อนำออกมาจากถังน้ำมันก็พบว่าเป็นยาบ้า ยาอี และยาไอซ์ จำนวนดังกล่าว

ยาเสพติด

จากการสอบสวนนายประสิทธิ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ขับรถบรรทุกน้ำมันไปส่งให้กับบริษัทที่ประเทศลาวมานานกว่า 20 ปี ไม่เสพยาเสพติดมาก่อน ในครั้งนี้ได้ขับรถนำน้ำมันไปส่งตามปกติเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อจะเดินทางกลับได้มีคนลาวไม่ทราบชื่อติดต่อมาให้จอดรถตามป่าข้างทางก่อน แล้วมี 3 คน ขนของมาขึ้นรถให้ บอกให้ตนนำยาเสพติดทั้งหมดไปส่งที่เขาหินซ้อน จ.ปราจีนบุรี ให้เงินมาก่อนแล้ว 50,000 บาท และจะมีการแจ้งจุดนำส่งยาเสพติดอีกครั้ง แล้วเช้าวันนี้ตนได้ขับรถกลับเข้าประเทศ​และถูกจับกุมในที่สุด

เหตุที่รับจ้างขนยาบ้าเพราะต้องการหาเงินมารักษาภรรยาที่กำลังป่วยหลายโรครุมเร้า อีกทั้งเมื่อ 6 ปีก่อน เคยรับจ้างขนกัญชาเข้ามาในประเทศครั้งละประมาณ 300-400 กก.มาก่อน ได้ค่าจ้างประมาณ 30,000 บาท และทำมาหลายครั้งแล้ว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส