สมาคมทีวีดิจิทัล ยื่นหนังสือ ร้อง กสทช. ให้วินิจฉัย กกท.ปมให้สิทธิถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 พร้อมขอให้ถ่ายทอด 64 แมตช์ ในทุกแพลทฟอร์ม
วันที่ 21 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) ออกมาแสดงท่าทีและจุดยืนไม่เห็นด้วย ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ให้สิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกกับทรู ที่เป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่สนับสนุนค่าลิขสิทธิ โดยสามารถเลือกคู่ฟุตบอลได้ก่อนจำนวน 32 คู่ และถ่ายทอดสดแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งไม่เป็นไปตามมติของกสทช. ที่ต้องการให้การถ่ายทอดสดเป็นไปอย่างทั่วถึง เท่าเทียม วันนี้จึงรวมตัวกันยื่นหนังสือกับ กสทช.
วันนี้ 10 นาฬิกา ตัวแทนสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) นำโดยนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการและที่ปรึกษาสมาคมฯ นายเดียว วรตั้งตระกูล เลขาสมาคมฯ และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางเข้ายื่นหนังสือ ถึงบอร์ด กสทช. และรักษาการเลขาธิการ กสทช. เรื่องขอให้ กสทช. วินิจฉัยการจัดสรรสิทธิการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ของการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. เป็นไปโดยมิชอบ และขัดกับหลักการ ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติของ กสทช.หรือไม่ โดยมี พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธาน กสทช.เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
โดยมี 4 ข้อเรียกร้องที่สมาคมฯ ขอให้ กสทช. วินิจฉัย คือ การจัดสรรแมทซ์ในการถ่ายทอดสดให้แก่ช่องต่างๆ ควรเป็นไปตามมติในการให้เงินสนับสนุนของ กสทช.ทั้ง 64 แมทช์ แต่ กกท. กลับจัดสรรให้ทีวีดิจิทัลเพียง 32 แมทช์ และได้รับหลังจากที่ผู้สนับสนุนหลัก คือ กลุ่มทรู ซึ่งมีธุรกิจเป็นช่องทีวีดิจิตอลด้วย ได้เลือกแมทช์สำคัญไปแล้ว ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ไม่เป็นธรรม และผิดต่อหลักการ “ทั่วถึง เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ” และเอื้อประโยชน์กับเอกชนรายใดรายหนึ่งอย่างชัดเจน
ซึ่งกลุ่มทรูให้การสนับสนุนจำนวน 300 ล้านบาท ได้รับสิทธิประโยชน์ ครอบคลุมสิทธิ์การถ่ายทอด ทุกช่องทาง ทุกแพลตฟอร์ม แบบ เอ็กซ์คลูซีฟ ได้สิทธิ์ในการเลือกคู่แข่งขัน จำนวน 32 แมทช์ และได้นาทีโฆษณา จากช่องทีวีดิจิทัลที่ร่วมถ่ายทอดจาก กกท.
สมาคมฯ จึงขอเรียกร้องให้ กสทช. วินิจฉัย และตรวจสอบในประเด็นที่กกท.ได้รับสนับสนุนจาก กองทุน กทปส. 600 ล้านบาท มาจากค่าสัมปทานทีวีดิจิตอล นั่นหมายความว่า ทีวีดิจิตอลมีส่วนในการสนับสนุนกิจกรรมนี้ด้วยเช่นกัน ทำให้การจัดสรรแมทช์การแข่งขัน จึงควรเป็นไปตามมติของ กสทช. ที่ให้จัดสรรการถ่ายทอดสดจำนวน 64 คู่ อย่างเท่าเทียม ไม่ใช่เฉพาะการให้สิทธิทรู ซึ่งเป็นผู้สนับสนุน 300 ล้านบาท ได้มีสิทธิเลือกคู่สำคัญๆ ถ่ายทอดสด 32 คู่สำคัญ แบบเอ็กซ์คลูซีฟ
แต่ทั้งนี้ข้อเสนอของสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิทัลฯ ขณะนี้หากทรูจะถ่ายทอดสดฟุตบอล 64 คู่ ก็สามารถทำได้ แต่ขอให้ กกท.ในฐานะให้สิทธิถ่ายทอดสด อนุญาตให้ทีวีดิจิตอลอีก 17 ช่องที่แสดงตัวว่าจะถ่ายทอดสด สามารถดำเนินการถ่ายททอดสดได้แบบคู่ขนาน 64 คู่เช่นกัน ส่วนสิทธิอื่นๆ ที่ กกท.มอบให้กับทรู ถ่ายทอดผ่านทางเคเบิลทีวี และระบบออนไลน์ สมาคมฯ ไม่ขัดข้องใดๆ
"จริงๆ แล้วเราไม่ควรจะจับฉลาก แต่เมื่อ กสทช.บอกว่าอยากให้เราดำเนินการตามที่การกีฬาวางไว้ก่อน ขอสงวนสิทธิ์ในการโต้แย้งไม่เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ที่การกีฬากำหนดมาในการจับฉลาก เพื่อมายื่นในวันนี้ ซึ่งวันนี้ก็เห็นแล้วว่าเมื่อติดกระดุมเม็ดแรกผิด มันก็ผิดหมดเลย จะมาทำว่า 32 คู่ถูกกันไว้ก่อน แล้วเหลือ 32 มาให้ 17 ช่องในการแบ่งกัน ที่สำคัญคือว่าการจับฉลาก มันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา" นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการและที่ปรึกษาสมาคมฯ กล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธาน กสทช. ตัวแทน กสทช ที่มารับหนังสือกล่าวว่า จะต้องมีการพิจารณารายละเอียดจากหนังสือที่นำมายื่นให้ กสทช วันนี้ แต่ยืนยันว่า กสทช พร้อมให้ความเป็นธรรม ส่วนกรณีที่ทรูได้สิทธิถ่ายทอดสดมากกว่าทีวีดิจิทัลนั้น เรื่องนี้คงต้องไปคุยกับ กกท. ซึ่งเป็นเรื่องของคณะกรรมการ กสทช ในการประชุมหารือ แต่ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
ส่วนประเด็นที่ทรูมีหนังสือแจ้งไปยัง ผู้ประกอบการให้บริการ ไอพี ทีวี หรือ ผู้ให้บริการกล่องทีวี อินเตอร์เน็ต ว่า กกท.ได้ตกลงมอบสิทธิและประโยชน์ต่างๆ ให้แก่กลุ่มทรู ซึ่งรวมถึงการให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ผ่านระบบเคเบิ้ล ระบบดาวเทียม ระบบไอพีทีวี ระบบอินเทอร์เนต ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ และระบบ OTT และยังให้สิทธิไม่จำกัดแต่เพียงผู้เดียวผ่านช่องทางโทรทัศน์ภาคพื้นดิน
เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ และไม่เห็นหนังสือดังกล่าว จึงยังไม่สามารถตอบได้ แต่ยืนยันว่าทุกช่องต้องมีสิทธิในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และต้องสามารถรับชมได้ทุกช่องทาง ทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งคงต้องไปดูว่าเหตุผลที่ทรูส่งหนังสือดังกล่าวเป็นเพราะอะไร
ยอมรับว่าการกำกับดูแลเป็นหน้าที่ของ กสทช.
ทั้งนี้ภายหลังจากยื่นหนังสือให้กับกสทช. เสร็จ สมาคมดิจิตอลฯ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อที่ กกท. ในเรื่องเดียวกันนี้ด้วย
